หลิว 0
หลิว 0
โดย barthello00
ผมชื่อต้นตาล เป็นเด็กต่างจังหวัด ผมเป็นคนนิสัยขี้อายอย่างมาก ไม่กล้าแม้จะคุยกับผู้หญิง วันหนึ่งผมไปสอบที่มหาลัย ผมสอบเสร็จตอนบ่ายสอง ไม่รู้จะทำอะไร ผมก็นั่งอ่านหนังสือบ้าง คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยบ้าง ที่โต๊ะประจำซุ้มที่ผมไปนั่งประจำ ตอนนั้นมีหญิงสาวหน้าตาดี ผมยาวถึงกลางหลัง ผิวสีน้ำผึ้งค่อนไปทางขาว นุ่งกระโปรงเทียมเข่า ใส่เสื้อไม่รัดแบบหญิงสาวที่อยากจะโชว์ ผมแอบมองเธออยู่นานทำเป็นว่าอ่านหนังสือบ้าง ทำดินสอยางลบตกบ้าง คือผมเป็นคนไม่กล้าคุยกับใครก่อนนะ จนเธอสังเกตเห็นว่าผมมีหนังสือที่สอบวิชาเดียวกับเธอ เธอเดินเข้ามาหาผม เธอก็ถามว่าสอบได้ไหม ข้อไหนถูกข้อไหนผิด เธอเป็นคนคุยเก่งมาก เธอชื่อ
หลิว เรียนปีหนึ่งเหมือนกัน เป็นคนหัวหิน เราสนิทกันอย่างรวดเร็ว ไม่กี่สัปดาห์เราก็ไปเที่ยวกันตามลำพังบ้างบางครั้ง ผมไม่รู้ว่าชอบเธอตอนไหนนะสิ อยู่ๆก็เคลิ้มไปกับความรู้สึกที่ไม่อยากรู้จักใครนอกจากเธอ แค่มีเธอผมก็ไม่ต้องการใคร มันช่างบรรยายเป็นถ้อยคำที่ยากจริงๆ
ผมรู้จักเธอได้เกือบหนึ่งปี เธอชวนผมไปงานแต่งงานเพื่อนที่จังหวัดเลย เธอบอกเธอจองที่พักไว้
พร้อม พอไปถึงหลิวจองห้องไว้เป็นห้องเดี่ยวเตียวคู่ เธอบอกประหยัดเงิน ผมก็ไม่คิดอะไรหรอกด้วยความที่สนิทกัน เวลาเธออาบน้ำเธอก็เอาชุดไปเปลี่ยนในห้องน้ำ เธอระวังตัวมากกับเรื่องแบบนี้ ผมก็คิดว่าดี เป็นผู้หญิงที่รักตัวเองดี
ที่งานแต่งงานจัดอย่างยิ่งใหญ่ เป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในอำเภอ ทุกอย่างหรูหรา ในงานมีแต่คนไปรุมถ่ายภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ทั้งหล่อทั้งสวย เมื่อผมและหลิวเดินเข้าในงาน ทุกอย่างแปลกไป สายตาจับจ้องที่
หลิวเป็นตาเดียว เมื่อหลิวไปแสดงความยินดีกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว
“ยินดีด้วยนะหมวย นนท์ มีความสุขมากๆนะ” สายตาหลิวจับจ้องที่ชายหนุ่มไม่วางตา
“ขอบใจจะหลิว แล้วนี่ใคร”
“อะ อ๋อ เพื่อนเราเองชื่อต้นตาล”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ มีความสุขในชีวิตคู่นะครับ”
“ขอบคุณคะ/ขอบคุณครับ”
ทุกอย่างเป็นตามที่ผมคิด เมื่อผมรู้ภายหลังว่า หลิวเคยเป็นแฟนกัน นนท์และหมวยก็เป็นเพื่อนรักของเธอเช่นกัน หลิวพาผมมาในโต๊ะตัวสุดท้ายที่ไม่มีคนนั่ง หลิวตาแดงระเรื่อ มองภาพที่หมวยและนนท์กำลังหอมแก้มกัน หลิวสะบัดตัวลุกขึ้นเดินออกไปทันที ผมไม่รู้จะทำยังไง การจะปลอบใจใครสักคนมันช่างพูดยากกว่าบอกรักเสียอีก ผมเดินตามหลังเธอไปเงียบๆ ผมมองหลิวแล้วผมรู้สึกปวดแปลบตรงหน้าอก เธอชะงักยืนนิ่ง ผมหยุดไม่ทันชนด้านหลังหลิวเต็มๆ เธอหันมา ริมฝีปากบางนิ่มละมุนสัมผัสริมฝีปากผม รับรู้ถึงความร้อนของลมหายใจที่แลกเปลี่ยนกัน ลำแขนบางโอบรอบลำคอผม รสสัมผัสบางเบายิ่งทำให้ผมอารมณ์หวั่นไหวรับสัมผัสที่อ่อนโยน แขนผมโอบรอบเอวบาง ดันเอวน้อยแนบชิดรับรู้ถึงความอบอุ่นแผ่ซ่าน แก้มบางมีสายธาราน้อยไหลเป็นทาง หลิวสะบัดหน้าวิ่งหนี ผมยืนงุนงงกับความรู้สึกสับสนนั้น แต่ความรู้สึกของรสสัมผัสที่หอมหวานตราตรึงทุกอณูของใจผมซะแล้ว
ผมวิ่งตามแต่ด้วยไม่คุ้นทาง ผมจึงต้องไปตั้งต้นที่โรงแรม การรอคอยเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ผมรอที่เคาร์เตอร์เวลาเกือบเที่ยงคืน หลิวขับรถที่ไปเช่ามาจอดที่หน้าโรงแรม หลิวลงมาจากรถในสภาพมึนเมา ผมต้องช่วยพยุงและให้เด็กรับรถเอารถไปเก็บ ผมอุ้มเธอเข้าห้องหลังจากออกจากลิฟ
“อ่า เหมือนคืน…เอี๊อก ส่งตัวเข้าหอเลย …อิอิ…ที่รัก เอิ๊อก” หลิวโอบคอด้วยลำแขนเล็กๆ
“หลิวเมามากไปแล้วนะ” ผมผลักเธอลงบนเตียง
“ม่ายเมา มาสั่งเบียร์มากินต่อดีก่า”
“พอแล้ว หลิว” ผมขึ้นเสียง
“ม่ายเมา ดูจิ ยางเดินตงอยู่เลย” หลิวลุกขึ้นทำเป็นเดินแบบนางแบบ ปัดซ้ายทีขวาทีจนเกือบล้ม
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ผมไปเปิดประตู เด็กรับรสเอากุญแจมาให้ ผมให้ทิปแล้วบอกขอน้ำแข็งใส่ถังให้หน่อย ผมเปิดน้ำใส่ถังพร้อมผ้าขาวชุบน้ำ เช็ดตามตามใบหน้า จนหลิวนิ่งลงด้วยความเย็นของน้ำแข็ง หลิวเหมือนจะได้สติกุมมือผมนิ่ง น้ำตาไหลอาบแก้มชมพู ผมเอื้อมมือที่ว่างไปปาดน้ำตาที่แก้ม
“มันเจ็บมากๆเลยนะ ทุกอย่างมันเป็นฝันใช่ไหมต้น มันแค่ฝันไช่ไหม”
“หลิว ตั้งสติก่อน ถ้าฝันหลิวก็ตื่นซะสิ จะนอนอยู่ทำไม” ผมพยุงหลิวลุกขึ้น หลิวมองหน้าผมนิ่ง
“นี่…หลิวตื่นแล้วใช่ไหม แต่ทำไมยังเจ็บตรงนี้อยู่เลย” หลิวบีบเสื้อตรงหน้าอกข้างซ้าย จนมือน้อยเกร็งสั่น
“หลิวเจ็บตรงนี่เหรอ ผมก็เจ็บเหมือนกัน” ผมวางมือที่หน้าอกตัวเอง
“ต้น…เจ็บ…ทำไม?” หลิวคลายมือโอบกอดเอวผม ผมโอบไหล่บางเข้ามาแนบชิด
เสียงหัวใจทั้งสองเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ลมหายใจอุ่นละไมสัมผัสหน้าอกผม ผมดันหลิวให้คลายจากอ้อมกอดเบาๆ มือหยาบจับปลายคางหลิวเชิดขึ้น ริมฝีปากผมสัมผัสความนุ่มนิ่มริมฝีปากบางของหลิว รสสัมผัสหอมหวานรัญจวนแผ่ซ่านจนหลิวขนลุกชัน บีบท่อนแขนผมด้วยเสียวซ่านสยิว เผลอโอบรัดคอจนผมรับรู้ถึงความกระเพื่อมไหวของหน้าอกอวบอูมทั้งสองที่ชูชันรับสัมผัสความหอมหวานของรสสัมผัสที่ลึกซึ้ง
“ยังเจ็บอยู่ไหม?” ผมเอ่ยถามหลังจากคลายจากรสจูบ ริมฝีปากแดงระเรื่อสั่นรัวก้มหน้าแดงระเรื่อนิ่ง แต่ลำแขนน้อยยังคงโอบรัดไม่วาง
“ไปอาบน้ำนะ” ผมไม่รอคำตอบ จับเอวรวบขาหลิวอุ้มเดินเข้าห้องน้ำ ผมวางหลิวนอนลงในอ่างอาบน้ำกว้างพอดีตัว สายตาหลิวสั่นไหวน้อยๆจ้องหน้าผมนิ่ง คลายแขนจากการโอบลำคอ
“ต้นถอดเสื้อให้นะ” เหมือนหลิวขยับใบหน้าขึ้นลงเล็กน้อย
ผมปลดกระดุมเสื้อสีขาวที่ละเม็ด ผิวสีน้ำผึ้งอ่อนค่อยๆเผยที่ละส่วน จนกระดุมเม็ดสุดท้ายถูกปลดลง ชั้นในน้อยสีขาวที่โอบอุ้มเนินอกเผยขนาดพอดีมือ หน้าท้องแบนราบไม่มีส่วนเกิน
“จ้องอะไร ไหนจะอาบน้ำไห้ไง” หลิวเอ่ยขึ้นเรียกสติผมกลับมา ผมหน้าแดงระเรื่อจนหลิวล้อ ทำให้บรรยากาศที่ตึงเครียดเบาบางลง
ผมยกตัวหลิวลอยจากขอบอ่าง ปลดเสื้อออกจากตัว แสงไฟสีส้มของห้องอาบน้ำ ยิ่งขับผิวหลิวให้เด่นน่าสัมผัสยิ่งขึ้น ผมวาดมือลูบไปมาตามเส้นผมไล่เรื่อยลงมาตามหน้าผาก ปลายจมูกน้อย ริมฝีปากรูปกระจับบางชมพูถึงปลายคาง ผมก้มหน้าจูบสัมผัสร้อนแรง ริมฝีปากประกบแน่น ลิ้นแลกลิ้นสัมผัสความหอมหวานภายใน ลมหายใจถี่หนักรดข้างแก้มซ้ายขวา ความหอมหวานของลมหายใจยิ่งเพิ่มความกระสันอยาก มือหนาลูบไล้แผ่วเบาตามลำคอระหงสู่เนินอกอวบไหวสะท้านชูชันสู้มือภายใต้ชั้นในตัวน้อย เสียงครางกระเส่าดังอู้อี้ รับรู้ได้จากลมหายใจที่ถี่หนักเป็นระยะ ริมฝีปากบดบี้ด้วยรสสวาทจนแดงเข้ม ผมถอนจูบดูดดื่มอย่างน่าเสียดาย
ผมหันหน้าไม่กล้ามองหลิว มือหยาบปลดซิบกระโปรงสีฟ้าช้าๆ เผยสะโพกกลมกลึงนวลเนียนให้เห็นบราสีขาวที่ห่อหุ้มแก้มก้น ผมดึงกระโปรงออกจากปรีขากระชับเนียนนุ่มเปิดก๊อกน้ำให้สายน้ำเย็นสัมผัสท่วมร่างหลิวช้าๆ บราน้อยซับน้ำจนแนบเนื้อยิ่งเพิ่มอารมณ์กระสันให้ตัวเอง ผมรีบละจากสะโพกกลมกลึงมองหลิว เห็นหลิวมองผมตาไม่วาง มือน้อยยกมาลูบคลำใบหน้าผมช้าๆ สัมผัสเคราบางๆผมจับมือหลิวบีบเบาๆ
“ชอบหลิวตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ ต้น” หลิวถามผมหลังจากเงียบไปนาน ผมสะอึก เหมือนน้ำลายเหนียวจุกที่ลำคอ
“หลิว รู้จักกับ… หมวยและนนท์ ตั้งแต่เรียนที่หัวหิน เราเป็นเพื่อรักกันมาตลอดและตอนนี้ก็ด้วย…” หลิวเงียบ
“นนท์ เค้ามีความฝันในการวางแผนสร้างครอบครัวหลังจากเรียนจบ แต่หลิวเหมือนผู้หญิงทั่วไป ที่คิดจะตั้งตัวไห้ได้ก่อนที่จะมีครอบครัว เราทั้งสองตัดสินใจห่างกันสักพักต่างคิดทบทวนว่าเราจะปรับเข้าหากันได้ไหม แล้ววันหนึ่ง…หมวยและนนท์ มาหาหลิว…”หลิวนิ่งเงียบ น้ำตาไหลเป็นทาง
“ทั้งสอง… มาหาหลิว บอกว่าจะแต่งงานกัน” หลิวร้องไห้เสียงสั่น น้ำตาไหลอาบแก้มบาง กุมมือผมบีบแน่น
“ร้องเถอะ การร้องคือการระบาย ร้องคือการปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่าง หากหมดแล้วดวงตาที่ฉ่ำใสจากสิ่งสกปรกในตาจะมองเห็นสิ่งใหม่ในอีกมุมหนึ่ง ที่เราหลงลืมมัน” ผมลูบผมสีนิลกลิ่นแชมพูจางๆแตะจมูก ผมจุมพิตที่แก้มบางที่โรยด้วยน้ำตามาหมาดๆ
“น้ำเต็มแล้ว หลิวอาบน้ำได้แล้ว” ผมลุกขึ้นผละออกจากอ่าง รวบผ้าถืออกจากห้องน้ำ แต่หลิวกุมมือบีบแน่นไม่ให้ไปไหน
“อาบด้วยกันไง”
“การอยู่คนเดียวก็ช่วยอะไรได้ดีเหมือนกัน หลิวอาจจะต้องการความเป็นส่วนตัว” ผมลูบผมเบาๆ ยิ้มน้อยๆ
“ขอบคุณนะ”
หลิวเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูปิดเพียงเล็กน้อย ผมมองตามสรีระที่บอบบางทั้งรูปร่างและอารมณ์ ผมส่งน้ำเย็นให้หลิวดื่มแก้กระหาย หลังจากเมามาเมื่อไม่นานนี้เอง หลิวเดินมาหยิบชุดนอนในตู้ ผมนึกว่าหลิวจะเปลี่ยนในห้องน้ำ ผมหันกลับมา ผ้าขนหนูกองอยู่ที่พื้น หลิวเปลือยเปล่าเผยแผ่นหลังขาวเนียนด้วยแสงนีออน แก้มก้นเต่งตึงกลมมน ท่อนขากระชับไร้ตำนิ ผมยืนตะลึงก้าวเท้าเข้าหาอย่างคนลืมตัว เลือดลมกระสันวาบหวามจนอารมณ์พุ่ง ผมจับที่ไหล่บางทั้งสอง มือหยาบลูบไปทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่ม ถึงสะโพกกลมกลึง หลิวสั่นน้อยๆ ผมหน้ามืด ก้มหน้าจูบไล้ทั่วแผ่น
หลัง ปลายลิ้นระรัวเล่นทั่วถึงแก้มก้นกลมกลึง มือหยาบยึดจับสะโพกบาง ปลายลิ้นตวัดรอบก้น หลิวจับมือผมบีบเบาๆ ผมลุกขึ้น จับหลิวหันหน้า ผมสีนิลปิดบังหน้าอกอวบอูม ผิวขาวผ่องสะท้าน ผมจูบแก้มไซร้เลื่อนจากใบหน้า ไล้ตามลำคอ ถึงหน้าอกที่ตั้งชัน ปลายลิ้นระรัวที่ฐานกลมกลึง ตะวัดละเลงลิ้นซ้ายขวา น้ำลายเหนียวละลายตามเนื้อตัว มือหยาบบีบคลึงบางเบา สะกิดปลายถัน จนหลิวอารมณ์กระเจิงแอ่นอกอูมท้าสู้มือ เสียงครากระเส่าดังเป็นจังหวะที่มือบดขยี้ “อา…อา ต้น” ลิ้นหยาบตวัดสะกิดยอดปทุมชมพูอ่อน หลิวกระสันเสียวมือบีบจิกผมไม่วาง “อา…อา” ผมกอดรัดเอวคอดกิ่ว อุ้มขึ้นเตียง จับมือหลิวกางแผ่ออก หน้าอกอูมลอยเด่นเบื้องหน้า ปลายถันชูชี้หน้าท้าทาย ปลายลิ้นที่ค่อยๆลามเลียจากฐานอวบอิ่ม ก่อนตวัดลิ้นรัดเม็ดปทุมตั้งชัน หลิวครางกระเส่าถี่หนัก “อา อา…อา” มือหลิวกำแน่น พ้นลมหายใจออกจากปากตลอดเวลา ผมปล่อยมือหลิวที่ยึด มือหยาบบีบเค้นหน้าอกทั้งสอง บดบี้ยอดปทุมอย่างเมามัน ปลายลิ้นลามตวัดไล่ต่ำถึงหน้าท้องแบนราบ ที่กระเพื่อมสั่นด้วยหายใจหนัก ปลายลิ้นมาถึงขนอ่อนสีน้ำตาลไม่ดกหนาหน้าเนินสวาท ปลายคางกดเข้าที่เม็ดเสียว สากของเคราหยาบกระตุ้นความกำหนัดให้ยิ่งทวี หลิวยกขาเด้งสะโพกสะบัดซ้ายขวา สะโพกกลมดันหน้าผมออก น้ำขาวใสไหลออกจากแคมน้อย พร้อมเสียงกระเส่าหนักปานขาดใจ “อา อ๊า อ๊า อา” ผมเงยหน้าขึ้นมองหลิวที่หายใจถี่หนัก อกอวบไหวกระเพื่อมดึงดูดสายตาให้จ้องมอง หลิวลุกขึ้น จับแก้มผมโน้มตัวเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม มือปลอดเสื้อผมออก มือน้อยลูบไล้ไปทั่วตัวผม หลิวถอนริมฝีปากบางที่แดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ทิ้งตัวลงนอนคุดคู้ หายใจถี่หนัก เหงื่อซึมทั่วตัวเหมือนเพิ่งอาบน้ำมาหมาดๆ
“หลิวไม่ไหวแล้ว เสียวมาก”
ผมจูบที่หน้าผากที่ชุ่มเหงื่อ มองหน้าหลิวด้วยเวทนาสงสารต่อหญิงสาว
“ต้น มองหลิวทำไม ต้น…อ…ยากให้หลิวช่วยเหรอ” ผมมองหน้าหลิวนิ่ง ผมดึงผมห่มมาปิดบังตัวที่เปลือยเปล่า หลิวรับมาห่มหลังพิงหัวเตียง ผมลุกขึ้นมานั่งที่เตียงตัวเอง
“ต้น มานั่งข้างๆหลิวได้ไหม” หลิวขยับตัวไปด้านข้าง ให้มีเนื้อที่ตรงหัวเตียงมากขึ้น ผมตัวเปล่านุ่งเพียงกางเกง เดินมาที่หัวเตียงนั่งลงข้างๆ หลิวซบหน้าลงบนไหล่ผม
“หลิว…หลิว ไม่เคย อย่าให้หลิวทำอะไรอย่างนั้นเลยนะ ต้น”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไร” ผมลูบศีรษะหลิวเบาๆ
“หนาวไหม” หลิวแบ่งผ้าห่มให้ผมห่ม
“นิดหน่อยนะ หลิวหิวไหม” หลิวสั่นหัว
“มันแปลกๆ รู้สึกตัวลอย เบาโหวงยังไงชอบกล จูบนั้นก็เร้าร้อนจนหลิวจะบ้าตาย” ผมนั่งฟังนิ่ง
“นี่เหรอที่เรียกว่า SEX ใช่ไหม ต้น”
“จะว่าไป ก็ประมาณนั้น” ผมตอบเลี่ยงๆ
“เหรอ” หลิวกอดผ้าห่มแน่น
“หนาวมากเหรอ เดี๋ยวไปเบาแอร์ไห้นะ” ผมทำท่าลุกขึ้น
“ไม่ต้อง เท่านี้แหละดีแล้ว” หลิวเบียดชิดผมเข้ามาอีก จนรู้สึกถึงอกอูมบดเบียดที่แขน
“ไม่เคยอบอุ่นครั้งไหน เท่าครั้งนี้เลย ขออยู่แบบนี้อีกสักพักนะ” ผมคงนั่งนิ่งอยู่แบบนั้น
นาฬิกาบอกเวลาสิบโมงเช้า ผมสะดุ้งตกใจ มองไปรอบๆห้อง แสงสว่างแยงตาจนแสบ มือที่ชาเพราะหลิวนอนทับทั้งคืนยังคงรู้สึกชาอยู่ ผมมองที่เตียง มีเพียงความว่างเปล่า ผ้าห่มยังกองอยู่บนเตียง ผมลูบบนที่นอน ยังคงเหลือความอบอุ่นอยู่ ผมลุกจากเตียง เรียกหลิว เงียบไร้ซุ้มเสียง ผมเดินไปดูที่ห้องน้ำ ตู้เสื้อผ้า ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้น ผมโทรไปถามที่เคาร์เตอร์โรงแรม หลิวออกไปเมื่อตอนเก้าโมงกว่าๆ ผมรีบแต่งตัว วิ่งลงไปด้านล่าง สายตามองไปเห็นกระดาษโน้ตเล็กๆที่กระจก
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ หลิวขอไปพักใจสักพัก ไม่ต้องตามหาหลิว แล้วเจอกันนะต้น หลิว ”
ผมพับกระดาษเข้ากระเป๋า เช็คเอ้าท์กลับกรุงเทพฯทันที
…………………………………………………..