ก้อย 32.0

ก้อย 32.0
โดย ท่านukisa

เช้านี้ทุกอย่างดูเหมือนจะเงียบสงบ ผมไปทำงานพร้อมกับแนนและหงส์ วันนี้แคทกับหมวยมองผมแล้วยิ้มๆ สงสัยคงรู้เรื่องจอยแล้ว ส่วนจอยเองที่สัญญาว่าจะไม่แสดงตัวว่ามีอะไรกับผมในที่ทำงานก็ยังแอบส่งสายตาเว้าวอนผมอยู่บ่อยๆ แต่ยังไงวันนี้มันเงียบสงบจนผมลืมไปเลยว่าเมื่อคืนผมส่งพี่สองคนเข้าห้องหอกัน พอนึกได้ก็รีบโทรศัพท์ไปที่โต๊ะที่นุ่นทันทีแต่มีน้องในแผนกมารับแทน วันนี้ที่คมกับพี่นุ่นไม่มาทำงาน ผมแอบขำในใจสงสัยจะยังไม่เช็คเอ๊าท์ออกจากโรงแรมแน่ๆ แต่วันนี้มันดูเงียบๆ จนน่าเบื่อ ผมเลยจะเลี้ยงข้าวเที่ยงน้องๆ ในแผนกซักหน่อย ให้มันมีอะไรตื่นเต้นบ้าง แล้วก็โทรบอกแคทให้เลือกร้านอาหาร

“อารมณ์ดีอะไรค่ะพี่บี แหมฉลองหรอยังขาดหนู๋อีกคนนะที่ยังไม่เคย” แคทหัวเราะ
“บ้าแก
ฉลองเรื่องอื่นเดี๋ยวแกก็รู้เองแหละ แล้วก็อย่างแกใครเค้าจะเอาวะ” ผมกับแคทสนิทกับมากจนคุยกันเหมือนผู้ชาย
“แหมพี่บี ของแบบนี้มันอยู่ที่ลีลา”
“เออแกเก็บไว้เหอะ รีบไปคุยกับเพื่อนๆ ปะว่าอยากทานข้าวที่ไหนกัน”
“ค่า” แคทลากเสียงยาวแล้ววางสาย

สาวๆ อยากไปทานอาหารจีนกัน เราแยกกันไปที่ร้านผมไปกับแนนพิสต้าและหงส์ แคทหมวยไปกับจอย เที่ยงตรงเราก็แยกย้ายกันไปที่จอดรถ

“แหมไม่ได้นั่งรถพี่บีมานานแค่ไหนแล้วนะ” พิสต้าส่งเสียงอ้อนทำเอาหงส์มองหน้าผมเหมือนกำลังหึง
“ก็พิสต้ามีคนมารับมาส่งแล้วนี่ มายุ่งกับพี่บีเดี๋ยวแฟนเธอก็หึงหรอก” แนนบอกพิสต้า
หงส์เลิกทำหน้าหึงแล้ว
“งั้นพิสต้านั่งหลังกับแนนแล้วกันนะเดี๋ยวแฟนเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนพี่บี ให้พี่หงส์นั่งหน้าแล้วกัน” แนนบอก

สาวๆ ขึ้นรถกันเสร็จผมก็ขับรถออกจากที่จอดรถ พิสต้ามองหงส์ทีมองผมทีแล้วก็พูดขึ้น

“สองคนนี้ก็มีอะไรกันแล้วหรอ”
หงส์หน้าแดงกล่ำ
“นี่นั่งเฉยๆ เป็นมะ ไม่เป็นเดี๋ยวจัดการซะเลยนี่” แนนว่าพิสต้า
“เอาซิไม่โดนแนนปล้ำนานแล้วเหมือนกัน” พิสต้าหัวเราะ

สองสาวก็แกล้งกันตลอดทางจนถึงร้านอาหาร ผมพาสาวๆ เข้าไปในร้านก่อนพวกแคทตามมาถึงที่หลัง ผมให้สาวๆ สั่งอาหารกัน ส่วนผมสั่งเป็ดย่างเพราะรู้ว่าหงส์ชอบทานมาก ทำเอาหงส์นั่งยิ้มแก้มปริ เรานั่งทานอาหารกว่าจะเสร็จก็บ่ายโมงกว่าแล้ว สาวๆ ขอทานของหวานกัน โทรศัพท์มือถือของผมดังขึ้น ก้อย โทรมานั่นเอง สาวทั้งโต๊ะมองหน้าผม ทำให้ผมคิดได้ว่าเมียทั้งนั้นเลยแฮะยกเว้นยัยแคท ผมเลยแกล้งบอกว่าจะไปห้องน้ำเพื่อไปคุยกับก้อยตรงอื่น

“พี่บีหายไปเลยนะค่ะ ไม่โทรหาก้อยเลย”
“ขอโทษทีนะพี่ยุ่งๆ กว่าจะหายยุ่งก็หมดวันแล้ว จะโทรหาก็กลัวก้อยหลับไปแล้วหนะซิ”
“หรือว่าไม่คิดถึงกันแล้วหรือเปล่าเลยไม่โทรหา”
“คิดถึงซิคิดถึงทุกวันเลย”
“ไม่เชื่อหรอกแล้วนี่อยู่ไหนกันค่ะ ก้อยโทรไปที่ออฟฟิตไม่มีใครอยู่เลย”
“มาทานข้าวกันครับเดี๋ยวจะกลับแล้ว”
“แหมมีเวลาให้น้องๆ แต่ไม่มีเวลาให้ก้อยนะ”
“อย่างอนซิครับ งั้นวันนี้ทานข้าวเย็นกันนะสองคนเดียวให้ตัวเล็กกลับคอนโดเอง”
“แหมแนนเค้าก็ไม่ได้ตัวเล็กนะพี่ชอบแกล้งน้องเค้าจัง”
ผมรู้สึกดีที่ก้อยเองไม่เคยหึงแนนเลยทั้งๆ ที่ผมเองยังรู้สึกว่าผมอยู่กับแนนแทบจะตลอดเวลา
“งั้นตกลงนะ เดี๋ยวพี่ไปรับตอนเลิกงาน”
“ค่ะแล้วเจอกันค่ะ”

ผมวางสายแล้วเดินกลับมาที่โต๊ะสาวๆ ทานของหวานกันเสร็จแล้ว ผมเลยเรียกบิล แคทนำสาวๆ ขอบคุณผมสำหรับการเลี้ยงอาหารมือนี้ พร้อมทั้งบอกว่าเย็นนี้สาวๆ จะไปช๊อปปิ้งดูหนังกัน แคทชวนผมด้วยแต่ผมบอกว่าติดธุระ เราแยกย้ายกันขึ้นรถกลับบริษัทฯ พิสต้าไปกับพวกแคทเพราะจะแวะซื้อขนมกันก่อนกลับไปออฟฟิต ขากลับเลยมีแค่หงส์แนนและก็ผม ผมให้เงินแนนกับหงส์ไว้เที่ยวกับพวกแคทตอนเย็น และบอกว่าเย็นนี้ผมจะไปรับก้อย หงส์ทำหน้าเศร้าๆ เธอคงยังไม่อยากกลับหอพัก แนนเลยบอกว่าเดี๋ยวแนนบอกเองไม่ต้องกลัวพี่ก้อยเค้าไม่ว่าหรอก หงส์ค่อยยิ้มออก กลับมาถึงออฟฟิตผมก็กลับเข้าห้องทำงาน สาวๆ ก็กลับไปทำงานที่โต๊ะตัวเอง ผมทำงานไปซักพักแนนก็ถือเอกสารเข้ามาในห้อง พร้อมทั้งยืนเงินคืนให้ผม

“พี่บีเอาคืนไปเถอะค่ะแนนไม่อยากซื้ออะไรหรอก”
“ทำไมหละ เอาไว้เป็นค่าดูหนังก็ได้นี่”
“แนนไม่ได้เช่าห้องอยู่แล้วเงินค่าห้องก็เหลือ พี่ไม่ต้องให้แนนหรอก”
ผมยืนขึ้นเดินมาข้างแนนแล้วกุมมือแนนไว้
“ทำไมหละนี่งอนพี่หรือเปล่าที่วันนี้พี่จะไปทานข้าวกับพี่ก้อยแล้วไม่ชวนเรา”
“เปล่าค่ะ พี่ไปกันสองคนบ้างก็ดีแนนกลัวพี่ก้อยเค้าจะน้อยใจว่าไม่มีเวลาอยู่กันสองคนเลย”
ผมหอมแก้มแนนไปทีนึง
“อุ้ยพี่บีเดี๋ยวมีคนเข้ามาเห็นนะ”
“กลัวทำไมหละก็ให้เค้ารู้ไปซิ”
ผมทำท่าจะจูบแนนเธอรีบดิ้นหนี
“คนบ้าเดี๋ยวมีคนเห็น”
“ก็แนนน่ารักพี่อดใจไม่ไหวแล้ว”
“บ้านะพอ”
ผมระดมจูบหอมไปทั้วแก้มแนน
“พอก็ได้งั้นห้ามคืนเงินพี่นะ”
“ก็ได้ค่ะ อุสส่าห์จะมาคืนเงินยังมาโดนลวนลามอีกไม่คุ้มเลย”
“เที่ยวเสร็จแล้วกับคอนโดกันดีๆ หละ อ้อแล้วอย่าเที่ยวกันดึกด้วยนะตัวเล็ก”
ผมเอามือขยี้หัวแนนไปทีนึง
“โอ้ยไปแล้วบอกว่าอย่าจับหัวอย่าจับหัวผมยุ่งหมด”
แนนแกล้งเดินออกจากห้องไป

ผมทำงานต่อจนเกือบสี่โมงเย็น พี่นุ่นก็โทรมาหาผม

“พี่เป็นไงบ้าง โหไม่มาทำงานเลยนะ”
“แหมก็พี่คมเราซิไม่ยอมให้พี่กลับบ้านเลย”
“แล้วไม่ดีหรอครับ” ผมหัวเราะ
“ก็ดีแหละ” น้ำเสียงพี่นุ่นดูเขิลๆ
“แล้วพี่คมว่าไงบ้างพี่จะแต่งกันเหมือนไหร่”
“บ้าบีนี่ ก็คงเร็วๆ นี้มั้ง”
“เร็วขนาดนั้นเลยหรอครับ”
“พี่คมเค้าบอกว่าเค้าเองชอบพี่มานานแล้วแต่ไม่กล้าจีบกลัวจะกลายเป็นหัวหน้าหลอกฟันลูกน้อง”
ผมสะอึกนิดหน่อย คุ้นๆ แต่ตรูไม่ได้หลอกฟันนะ
“ครับอืมผมก็คิดว่างั้นเหมือนกัน”
“แล้วก็เมื่อคืนพี่คมไม่ได้ใส่ถุงเลยซักครั้ง พี่กลัวท้องเค้าเลยรีบบอกว่าจะแต่งด้วย”
“อืมก็ดีแล้วครับแบบนี้ผมก็คงอดกอดพี่นุ่นแล้วซิเนี่ย”
“ก็ยังกอดได้นะถ้าพี่คมไม่ว่าง” พี่นุ่นหัวเราะ
“ฮ่า ฮ่า ไม่หละครับยังไม่อยากตาย แล้วก็ทีนี้สาวๆ ที่เหลือในบริษัทฯ ก็เป็นของผมแล้วไม่มีคนมาแย่ง”
“ทำเก่งไปนะเรา แค่ที่มีก็จะเดินชนกันแล้วไม่ใช่หรอสาวๆ เรา พี่ว่าเราน่าจะ หาคนที่คบเป็นเรื่องเป็นราวได้แล้วนะจะคบกี่คนก็ว่าไปแล้วก็หยุดเจ้าชู้ได้แล้วเดี๋ยวจะไม่เหลือใครนะ”
“ครับพี่ผมก็คิดอยู่ว่าจะให้ได้ครบ 7 คน จะได้วันละคนไม่ต้องแย่งกัน” ผมหัวเราะอีก
“พี่เตือนเพราะหวังดีนะ เดี๋ยวจะเสียคนดีๆ ไปแล้วจะเสียใจ”
“ขอบคุณครับพี่แล้วพรุ่งนี้พี่จะมาทำงานหรือเปล่า”
“มาซิไม่มามีหวังคนเมาท์กันทั้งบริษัทแน่”
“ครับพี่สวัสดีครับแล้วเจอกัน”

ผมมานั่งคิดถึงคำที่พี่นุ่นบอก ถ้าผมเสียคนที่ผมรักไปผมคงทนไม่ได้ตอนนี้แนนกับเจนรู้และยอมรับได้แล้วว่าผมมีแฟนสามคนแต่ก้อยยังไม่รู้ วันนี้ผมจะบอกเธอดีหรือเปล่านะ ก้อยน่าสงสารที่สุดตอนที่ผมได้เธอก็เหมือนกับผมวางแผนที่จะฟันเธอ พอได้เธอแล้วผมก็มีคนอื่นอีกเรื่อยๆ ไม่ค่อยได้มีเวลาให้ พอรู้เรื่องแนน เธอก็ไม่ได้โวยวายหรือด่าว่าผมกลับดีกับผม เหมือนเดิมและดูจะยิ่งกว่าเดิม ผมได้แต่นั่งคิดแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำไงดี ไม่รู้ว่าถ้าบอกไปก้อยจะเสียใจหรือเปล่า ผมทำงานไปนึกไปจะ 5 โมงเย็น สาวๆ ไปเที่ยวกัน ผมเองก็เก็บของแล้วออกจากออฟฟิตไปที่รถเพื่อขับไปรับก้อย

ผมไปถึงหน้าบริษัทก้อยเกือบ 6 โมงแล้ว ก้อยมายืนรอผมอยู่แล้ว ผมพาก้อยไปทานอาหารใต้แสงเทียนกันสองคน หลังจากสั่งอาหารเสร็จผมก็มีเวลาที่จะนั่งจ้องหน้าก้อย ใบหน้าเรียวสวยตากลมดำโตผมยาวสลวย ใช่แล้วหละผมหลงรักก้อยไม่ใช่แค่อยากฟันเธอแน่ๆ

“อะไรค่ะ หน้าก้อยมีอะไรหรอจ้องอยู่ได้”
“เปล่าครับ แค่พี่รู้สึกว่ามองหน้าก้อยที่ไรก็สวยขึ้นทุกที”
“แหมอย่ามาปากหวานเลยค่ะ กว่าจะนึกถึงก้อยได้ต้องให้ก้อยโทรหาก่อนทุกที”
“แหมพี่งานยุ่งนะครับแต่พี่ก็คิดถึงก้อยทุกวันนะ”
“ไม่อยากเชื่อเลย”
“งั้นวันนี้จะทำให้หายคิดถึงเลย”
“บ้าอะพี่บีพูดอะไร อายคนเค้าบางซิ”

ผมกับก้อยคุยกันจนอาหารมาเสริฟเราทานอาหารกันจนอิ่ม พอดีที่โรงแรมนี้มีผับอยู่ชั้นสูงสุดและสามารถชมวิวกรุงเทพได้ผมเลยชวนก้อยไปนั่งคุยกันต่อ

“สวยจังนะค่ะ พี่บีเคยมาหรอ”
“ไม่เคยนะ แต่เคยได้ยินเลยพาก้อยมาดูนี่ไง”
“ค่ะ”

เรานั่งคุยกันซักพักแล้วผมก็ตัดสินใจพูดเรื่องเจนกับก้อย

“ก้อยคือพี่กำลังคิดนะ พี่อยากให้เรามาอยู่ด้วยกัน”
“ก้อยก็ไปอยู่แล้วนี่ค่ะ”
“คือไม่ใช่ไปๆกลับๆ เหมือนตอนนี้”
ก้อยหน้าแดง
“พี่พร้อมแล้วหรอ”
“คือพี่เองยังมีเรื่องที่ต้องบอกก้อยก่อนนะ”
“เรื่องอะไรค่ะ”
“คือนอกจากก้อยกับแนนพี่ยังมีคนที่พี่รักอีกคน”
ก้อยเงียบไปหน้าเธอนิ่งพยายามหลบตาผม ผมรู้ว่าเธอคงกำลังพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ร้องไห้ ผมจับมือก้อยไว้
“พี่รู้นะว่าแค่แนนพี่ก็ผิดมากแล้วแต่พี่ก็ขาดใครไปไม่ได้”
ก้อยเริ่มน้ำตาคลอ ผมเริ่มเสียใจที่เป็นคนหลายใจแบบนี้ ผมทำให้ผู้หญิงที่ดีต้องเสียใจ ผมกุมมือก้อยแน่น
“พี่เข้าใจความรู้สึกก้อยนะ พี่ขอโทษที่ไม่ได้มีแค่ก้อยคนเดียว แต่ถ้าขาดก้อยพี่เองก็คงเสียใจไปตลอดชีวิตเหมือนกัน”
ก้อยยังเงียบแล้วโผมากอดผม ผมรู้สึกว่าเธอร้องไห้แล้วเรากอดกันอยู่พักนึงก้อยก็บอกว่าอยากกลับบ้าน แต่ผมไม่อยากให้เธอกลับไปอยู่คนเดียวทั้งๆ ที่กำลังเสียใจแบบนี้ ผมขอร้องให้เธอไปค้างที่ห้องผมก่อน เธอยอมไปแต่บอกว่าอยากนอนคนเดียว ผมตกลงเรากลับไปถึงห้องแนนกับหงส์นอนหลับไปแล้วผมไปปรับโซฟาให้เป็นที่นอนให้ก้อย ก้อยอาบน้ำเปลื่ยนชุดนอนแล้วบอกให้ผมไปนอนในห้อง ผมเองเป็นห่วงเธอมากจนนอนไม่หลับ แนนตื่นมารู้ว่าก้อยมาแต่ไม่ยอมนอนในห้องแนนเลยไม่กล้ามากวนผม ผมนอนไม่หลับจนตีสองเลยออกมาจากห้องนอนมาดูว่าก้อยหลับหรือยัง

ผมเห็นก้อยนอนขดตัวเหมือนกำลังหนาว ผมเลยเอาผ้าห่มห่มให้เธอแล้วนั่งลงข้างๆ โซฟาแล้วเอาหัวหนุนโซฟามองเธอ ผมมองเธอยู่นานมากจนเผลอหลับไป แล้วก็มีเสียงเรียกแล้วเหมือนมีคนเขย่าแขน

“พี่บีค่ะ มานอนทำไมตรงนี้ไปนอนในห้องซิ”
ผมลืมตามองก้อยกำลังเรียกผมนั่นเอง
“พี่อยากอยู่ใกล้ๆ ก้อย พี่ไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่พี่จะได้อยู่ใกล้ก้อยหรือเปล่า”
ก้อยเงียบไปอีกผมเลยจับมือก้อยมากุมแล้วเอามาจับที่หน้าตัวเอง
“พี่รู้นะว่าก้อยเสียใจที่สุดท้ายพี่ก็เป็นคนหลายใจเหมือนคนที่ก้อยเคยเจอมาแต่สำหรับพี่ก้อยคืนผู้หญิงที่ดีจนพี่เองขาดก้อยไปไม่ได้”
ก้อยลุกขึ้นนั่งผมเองก็ลุกขึ้นไปนั่งข้างเธอ ตาก้อยยังแดงอยู่ ผมเอามือลูบที่แก้มของก้อยเบาๆ
“พี่ไม่มีอะไรจะแก้ตัวนะ พี่คงบอกได้แค่ว่าพี่รักก้อยมากขาดก้อยไปพี่คงอยู่ไม่ได้”

ผมกอดก้อยแน่นก้อยเองก็กอดผมตอบ ผมรู้สึกว่าลมหายใจก้อยร้อนมากหัวใจก็เต้นรัว ก้อยคงเริ่มมีอารมณ์ ผมเลยหอมแก้มเธอไปหลายครั้ง ก้อยเริ่มครางอืมเบาๆ ผมเองก็อยากกับเธอเหมือนกัน ด้วยความที่กลัวว่าจะเสียเธอไป ผมค่อยๆ ประกบปากกับก้อยเธอหันหน้าหนีปากผมแต่ซักพักก็ยอมประกอบปากกับผมแต่ไม่ยอมให้ผมควานลิ้นใส่ปากเธอ ผมค่อยๆ งับริมฝีปากก้อยเบาๆ ดุนลิ้นสัมผัสกับริมฝีปากเธอเหมือนกำลังกินขนมอันแสนหวาน ไม่นานก้อยก็เผยอปากให้ผมลิ้มรสความหวานของลิ้นเธอ เราสองคนควานลิ้นกันไปมาเหมือนกำลังกระหายรสรักของอีกฝ่าย ผมปล่อยมือเลิกกอดเธอแล้วเลื่อนมือมาคลึงที่หน้าอกกลมมนของก้อย เธอสะดุ้งสุดตัวร้องอุ้ยยในลำคอ หัวนมก้อยชูชันดันยกสงตัวบางของเธอ ฐานเต้าก้อยแข็งเป็นไต ขย้ำแล้วมันมือมากๆ ผมขย้ำหน้าอกก้อยทั้งสองข้างอย่างแรงจนก้อยต้องผละปากจากผมแล้วร้องครางเสียงดัง ผมเลยดูดลำคอก้อยปลุกอารมณ์ความอยากเธอให้เพิ่มขึ้นอีก ก้อยใช้มือลูบไปทั่วแผ่นหลังผมเหมือนพอใจกับการเล้าโล้มที่ผมทำให้เธอ ผมขย้ำนมก้อยนอกบราจนเบื่อแล้ว เลยสอดมือเข้าไปใต้ชุดนอนของก้อยแล้วเลื่อนขึ้นให้เสื้อเธอเปิดขึ้นมาถึงเอวผมมองกางเกงในตัวจิ๋วสีชมพูของก้อยทำให้ไอ้หนูผมเองแข็งขึ้นมาเหมือนกัน ผมค่อยๆ ปลดบราก้อยออกเธอขัดขืนเล็กน้อยแล้วก็ยอมโดยดี ผมเห็นหัวนมก้อยที่กำลัวชูชันชี้หน้าผมอยู่แล้วเกิดอยากกินมันขึ้นมา ผมก้มหน้าไปดูดที่หัวนมข้างซ้ายก้อย แล้วเอามือขวาบี้หัวนมอีกข้างของเธอ ก้อยถึงกับดิ้นไปมาเอามือจิกหลังผมแน่จนผมแสบ ตอนนี้ก้อยคงกำลังสับสน ใจนึงคงยังรักผมอยู่แต่อีกใจคงไม่อยากจะมีอะไรกับผมแล้ว ผมดูดหัวนมก้อยอย่างแรงหลายครั้งจนก้อยครางซีดซาดหลายครั้งจนเริ่มบิดขาไปมา น้ำที่ร่องของก้อยคงเยิ้มแล้วเธอถึงเริ่มบิดขาแบบนี้ ผมดูดกัดหน้าอกก้อยสลับไปมาสองข้าง ตอนนี้ก้อยแอ่นอกให้ผมดูดตามต้องการมือก็ลูบหัวผมเหมือนพอใจกับรสรักที่ได้รับ

ผมเริ่มลากลิ้นต่ำลงมาที่หน้าท้องก้อย ผมเลียและกัดเบารอบๆ สะดือก้อย ก้อยเองคงทนความเสียวไม่ไหวนอนแผ่ลงบนที่นอนให้ผมสำรวจร่างเธอได้ถนัดขึ้น ผมเลียไปมาจนก้อยเริ่มเด็งส่วนล่างตอบสนองผม ผมใช้มือขวาไปสัมผัสที่เป้ากางเกงในก้อย มันแฉะจนชุ่มไปหมดแล้ว ผมค่อยๆ ลากนิ้วทำเอาก้อยซูดปากแอนร่องตามนิ้วผมไม่หยุด ผมอยากกินน้ำรักก้อยแล้วผมเลยเลียต่ำลงมาที่ของกางเกงในตัวจิ๋วของก้อย ก้อยเสียวมากจนแอ่นเอวร้องซีด แต่พอผมจะถอดกางเกงในเธอก้อยกับเอามือจับไว้แน่น ผมเลยเลียไปหนักๆ ที่เป้ากางเกงในก้อย รสน้ำรักก้อยเข้าปากยิ่งทำให้ผมอยากกินตรงๆ มากขึ้นจนงับไปทั่วเป้ากางเกงในก้อย ส่วนก้อยตอนนี้ร้องครางไม่เป็นภาษาแอ่นหีตามปากผมจนลืมจับกางเกงในไว้ ผมเลยรีบรูดมันออกจากตัวเธออย่างเร็ว ก้อยสะดุ้งอีกครั้งเมื่อลิ้นผมสัมผัสกลีบสาวของเธอโดยตรง

“อย่าค่ะพี่บี” ก้อยร้องออกมา
“รังเกรียดพี่แล้วหรอครับ”
“อย่าทำแบบนี้เลย พี่ทำแบบนี้ก้อยยิ่งทำใจไม่ได้”
“แต่พี่รักก้อยนะ ถ้าก้อยจะไปจากพี่แล้วพี่ขอเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม”
“พี่ทำแบบนี้ก้อยก็แย่ซิค่ะ ก้อยจะทำใจไปจากพี่ได้ยังไง”
“ก้อยไม่อยากไป ก้อยก็อยู่ต่อซิครับ พี่รักก้อยไม่น้อยกว่าคนอื่นเลยนะ”
“แต่ก้อย ก้อยกลัวค่ะกลัวว่าครอบครัวก้อยจะรับไม่ได้ที่ก้อยจะต้องมาอยู่แบบนี้”
“พี่สัญญานะว่าพี่รับก้อยมาเป็นเมียตามธรรมเนียมทุกอย่าง เราจะจัดงานแต่งงานกัน ถ้าก้อยอยากจดทะเบียนพี่ก็จะจดกับก้อย”
“แล้วคนอื่นหละค่ะ เค้าจะยอมหรอ”
“ทุกคนเค้ายกหมดนะ ขอแค่เราได้อยู่กัน 4 คน”
“ค่ะ พี่สัญญานะว่าต้องจัดงาน เรื่องจดทะเบียนไม่ต้องก็ได้ในเมื่อไม่มีใครอยากจดก้อยเองก็ไม่ได้อยากเหมือนกัน”
“งั้นหายโกรธพี่แล้วนะครับ”
ก้อยยิ้มแก้มแดง
“แล้วไม่ทำต่อแล้วหรอ” ก้อยทำเสียงแบบเชิญชวน

Share the Post:

Related Posts

เป็นผัวพี่ได้เหล้าฟรีทุกวัน เอาไหม ?

เรื่องเสียว เป็นผัวพี่ได้เหล้าฟรีทุกวัน เอาไหม ? บ้านของฉันเป็นร้านขายของชำ อยู่ข้างกำแพงวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งขาประจำ นอกจากจะเป็นชาวบ้านชาวช่องแล้ว ก็ยังมีเด็กวัด ที่ชอบมาซื้อเหล้า ซื้อบุหรี่ที่ร้านของฉัน ซึ่งพอเราสนิทกันมากขึ้น ก็ชอบที่จะมาซื้อกันตอนดึก ๆ ดื่น ๆ ซึ่งสำหรับฉันแล้ว ไอ้เมฆ ก็เป็นแค่เด็กวัดที่ทะเล้นทะลึ่งคนหนึ่งเท่านั้นแหละ หน้าตาก็ใช้ได้

Read More

เย็ดกันกับผู้ชาย ที่กลายมาเป็นพี่เขย

เรื่องเสียว เย็ดกันกับผู้ชาย ที่กลายมาเป็นพี่เขย มันเป็นเรื่องเสียวที่ทำให้ฉันรู้เลยว่าโลกกลมมาก ๆ ที่ฉันเคยนัดเย็ดกับผู้ชายคนหนึ่ง ก่อนเราจะกลายมาเป็นคู่เย็ดของกันและกัน เพราะว่าเขาเย็ดมันส์มาก ๆ เขาเป็นคนที่ทำให้ฉันมีประสบการณ์เสียวที่ไม่เหมือนใครที่เย็ดมาเลยสักคนเดียว และเพราะแบบนั้น ฉันเองก็เลยติดใจในเขาด้วยเช่นกัน แต่วันนี้เขากลับมาเป็นขี่เขยของฉัน เราก็เลยแทบจะไม่มีช่วงเวลาที่ได้สร้างเรื่องเสียว ๆ ด้วยกันเลย แต่ว่านึกย้อนไปแล้วครั้งแรกที่เราได้เจอกันนั้นมันสุดยอดจริงๆ ค่ะเลยเอามาเล่าเรื่องเสียวให้ได้ฟังกัน ย้อนกลับไปเมื่อราว ๆ

Read More