แฝดอันตราย ตอนที่2
อีกด้านหนึ่งของประเทศไทย ที่จังหวัดชัยนาท อันเป็นจังหวัดเล็กๆในภาคกลางของประเทศ ณ.ตำบลเล็กๆแห่งหนึ่ง ที่คน
ในพื้นที่ล้วนเป็นเกษตรกร มีอาชีพทำนาปลูกข้าว ปลูกพืชสวนครัวขุดบ่อเลี้ยงปลาและเลี้ยงเป็ดไก่ ทำตามพระราชดำริ
ของในหลวงในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เสียงดังแต๊กๆๆของเครื่องสูบน้ำ ที่กำลังสุบน้ำเข้าบ่อเลี้ยงปลาที่แห้งเหือดลด
จำนวนน้ำลงจนมีทีท่าว่าจะเป็นอันตรายกับฝูงปลากินพืชที่ตนเองเลี้ยงไว้
“พ่อ…นู๋ว่าพอเหอะ…ฝนจะตกแล้ว เดี๋ยวน้ำก็เต็มบ่อเองแหละ…” เสียงแหลมเล็กของสาวน้อยวัยแรกผลิ ในชุดผ้าซิ่นสี
น้ำเงิน กับเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีนวลๆ พูดกับผุ้เป็นพ่อที่กำลังนั่ง
มวนใบยาสูบอยู่ที่เพิ่งพักเล็กๆ มุงด้วยหญ้าแฝก มีฝาทำด้วย
แฝกเช่นกันอยุ่เพียงสามด้าน
เสียงเครื่องสูบน้ำดังแต๊กๆๆๆ ยังดังสอดแทรกอยู่ท่ามกลางอากาศที่เริ่มสลัวมืดลงเพราะเมฆฝนก้อนใหญ่ อันเป็นฝนแรก
ของฤดูทำนาปี ชายหนุ่มวัยกลางคนเงยหน้ามองท้องฟ้าแล้วพุดกับสาววัยกำดัดแรกผลิที่นั่งอยู่ไม่ห่างนักว่า
“จะเอาอะไรกับฟ้าฝนล่ะยัยแก้ว เดี๋ยวถ้ามันตกมาไม่พอ พ่อก็ต้องมาสูบน้ำเข้าบ่ออีกแหละ…”
พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีแสงสว่างแปร๊บของฟ้าแลบพร้อมเสียงคำรามครืนๆของฟ้าร้องจากนั้นสายฝนก็เริ่มตกลงมาเป็น
ปรอยละอองเบาๆพร้อมลมแรงที่พัดจนหลังคาหญ้าแฝกกระพือไหว
“พ่อ….แก้วอยากเล่นน้ำฝนอ่ะ…”สาวน้อยขยับตัวมาจับแขนผู้เป็นบิดาเขย่าๆพร้อมทำหน้าออดอ้อนขออนุญาติจากผู้
เป็นพ่อ
“อย่าเลย..เดี๋ยวไม่สบายแม่เอ็งก็จะมาบ่นพ่อ….” ผู้เป็นพ่อตอบเนือยๆ
“แม่ก็บ่นได้ทุกเรื่องแหละพ่อ…นะๆ เล่นน้ำกะนุ๋นะ…”
แก้วสาวน้อยยังออดอ้อนผู้เป็นพ่อ เพราะรู้ดีว่าผู้เป็นพ่อรักและตามใจเธอแค่ไหน อย่าว่าแต่แค่เล่นน้ำฝนนี้เลย ขนาดเธอ
อ้อนผู้เป็นพ่อว่าไม่อยากเรียนต่อหลังจากจบมัธยมต้น ด้วยเธอไม่ค่อยชอบการเรียนหนังสือ ผู้เป็นพ่อยังตามใจ สำมะหา
อะไรกับการอ้อนขอเล่นน้ำฝนในครั้งนี้
ภายในเรือนทรงไทยยกสูงที่ห่างไปกว่า50เมตร หญิงสาววัยกลางคนเดินออกมายืนเมียงมองมาทางสองพ่อลูก แล้วกวักมือ
ไหวๆ ป้องปากตะโกนก้องแข่งกับเสียงฝน แม้จับใจความไม่ได้ แต่ก้คงบอกให้สองพ่อลูกกลับเข้าบ้าน แต่หาได้มีความหมาย
ในสายตาของผู้เป็นบุตรสาวเลย เมื่อเธอค่อยๆถอดเสื้อเชิตแขนยาวออกจนเหลือแต่เสื้อคอกระเช้าสีขาวเพียงตัวเดียว แล้ว
วิ่งลงจากเพิงพักไปกระโดดโลดเต้นท่ามกลางสายฝนที่เริ่มตกหนาตาขึ้น
“พ่อลงมาเหอะ….เร็วๆ…มาเล่นน้ำฝนกัน”
เสียงเล็กๆ แหลมๆ ตะโกนแข่งกับเสียงฝน พร้อมกวักมือหยอยๆ มาทางผู้เป็นพ่อ นายชัดชายเดินไปปิดเครื่องสูบน้ำแล้วหัน
ไปคว้าผ้าขาวม้าฝืนใหญ่เอามานุ่งจากนั้นก็ถอดกางออกเดินลงไปหาบุตรสาว ที่ตอนนี้ตัวเปียกโชก ผ้าซิ่นสีน้ำเงินที่สวมใส่
แนบลู่ไปกับร่างที่เริ่มมีสัดส่วนโค้งเว้าตามวัยที่แรกผลิ ส่วนด้านบนเสื้อคอกระเช้าสีขาวพอโดนน้ำฝนก็บางแนบไปกับตัวจน
มองเห็นบราเก่าๆสีเดียวกับเสื้อได้ชัดเจน
[post]นางหวานเพ่งสายตามองฝ่าสายฝนไปยังสามีและบุตรสาวที่กำลังกระโดดโลดเต้นเล่นน้ำฝนกัน แล้วทอดถอนหายใจออกมา
พรางนึกรำพึงว่าทั้งสามีและลูกสาวตนนั้นเล่นกันเหมือนเป็นเด็ก ไม่รู้จักโต แล้วก้ไม่ระมัดระวังกันเสียเลย แก้วลุกสาวตนเอง
นั้นก็กำลังเป็นสาววัยแรกผลิ สัดส่วนในร่างกายเจริญเติบโตจนเป็นสาวแล้ว ยังกอดรัดพ่อเล่นน้ำฝนโดยไม่ห่วงเลยว่าร่าง
กายสาววัยกำดัดที่กระโดดขี่หลังพ่อนั้น จะทำให้ผู้อื่นมองอย่างไร เพราะว่านี่ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ตนเองเห็น ครั้นหวานผู้เป็น
แม่จะออกปากเตือนเรื่องการเล่นกันแบบถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้ว่าไม่เหมาะ ก็จะกลายเป็นการชี้โพรงให้กระรอก ถ้าสามีและลูกไม่
ได้คิดอะไรกันแบบที่เธอกำลังห่วงกังวล
สายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักจนทำให้เธอไม่สามารถมองเห็นสามีและลูกสาวว่าตอนนี้กำลังทำอะไรกันอยู่นั้น เพียงถ้าเธอมี
ตาวิเศษมองเห็นได้.เธอคงต้องตระหนกตกใจอย่างแน่นอน เพราะร่างเพรียวของสาววัยกำดัดที่อกเริ่มอวบอูมตั้งเป้นเต้า
งอนงามนั้น กำลังกระโดดขี่หลังของผู้เป็นพ่อ ผ้าชิ่นที่เปียกน้ำลูแนบตัว ถลกรั้งขึ้นมาจนเกือบถึงโคนขาขาว อกอวบแนบ
กับแผ่นหลังแกร่ง เนินสาวกดแนบกับตรงบั้นเอว มือขวากอดรัดคอพ่อแน่น ส่วนมือซ้ายก็วกมาด้านหลังตีไปที่ก้นพ่อที่ตอน
นี้ผ้าขาวม้าสีแดงลายหมากรุกหลุดปลิวไปเหลือเพียงกางเกงในสีมอยานๆตัวเดียวเท่านั้น
ข้างฝ่ายนายชัดชายนั้น มือสองข้างไขว้มารองรับก้นบุตรสาว ด้วยเกรงว่าเธอจะลื่นไถลตกจากหลัง ยามเดินยามกระโดด
เล่นน้ำฝนกันนั้น มีหลายครั้งที่มือทั้งสองข้างพลัดลื่นลงมาจับเลยลึกเข้าไปเฉียดเนินสาวของแก้ว แต่เธอก็หาได้ว่ากล่าว
กระไร พ่อลูกยังคงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน จนเริ่มหนาว จึงกลับเข้ามายังเพิงพักอีกครั้ง ซึ่งเวลาก้ล่วงเลยไปจนเกือบ
พรบค่ำ แสงไฟจากบ้านทรงไทยเปิดสว่าง แต่ภายในเพิงพักยังมืดสลัว
“พ่อ…หนาวอ่ะ…”
บุตรสาวขยับเข้ามานั่งชิดโอบกอดขอไออุ่นจากผู้เป็นพ่อไม่ห่วงสักนิดว่าตอนนี้อกเต้าเต่งของเธอแนบกับท่อนแขนแกร่ง
แข็งแรงของพ่อ
“พ่อเตือนแล้วว่าอย่าเล่น ก็ไม่เชื่อ ดูสิเสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามาเปลี่ยน หนาวเลยสินี่..”
พ่อพูดพร้อมกับโอบกอดบุตรสาวมาแนบอก กลิ่นหอมๆระเหยจากเรือนผมของลูกสาวแรกผลิโชยเข้าจมูก จนชัดชายเผลอ
ตัวสูดดมเรือนผมของบุตรสาว
“อุ่นขึ้นมั๊ยลูก….”
ชัดชายพูดเสียงสั่นๆ พร้อมขยับวงแขนรัดร่างลูกสาวแน่นขึ้น จนอกอูมเต้าเล็กๆของลูกสาวแนบอัดกับแผงอกกว้าง แก้วเอียง
หน้าแนบกับอกพ่อด้านซ้ายตรงหัวใจ จนได้ยินเสียงมันเต้นโครมครามดังลั่นเหมือนจะทะลุออกมานอกอก
ชัดชายหวนนึกไปคืนวันหนึ่งที่ผ่านมาเกือบสองเดือน คืนนั้นหลังจากที่ตนเองเสร็จกิจกับหวานแม่น้องแก้วแล้ว ขณะกำลัง
เคลิ้มหลับ รู้สึกมีมือเล็ก ๆ มาจับท่อนลำที่อ่อนปวกเปียกของตน ขยำบีบเบาๆ แบบกล้าๆ กลัวๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นมือของเมีย
ที่นอนอยู่ในมุ้งเดียวกัน แต่ก็เอะใจว่าปรกติหลังจากที่ตนเองเย็ดกับเมียไปแล้ว เมียมักจะหลับสนิท แต่มือเล็กๆที่กำลังบีบ
คลึงลำควยของตนเองนี้ กำลังบีบคลึงเพื่อจะปลุกอารมณ์เงี่ยนของให้คึกคักขึ้นมาใหม่ ซึ่งมันผิดวิสัยของหวาน
ชัดชายจึงรีบลืมตามองฝ่าความมืดสลัวไปยังมือเล็กๆนั้น พบว่ามันสอดลอดมาจากข้างๆมุ้ง ซึ่งคือมุ้งของแก้วบุตรสาวคน
เดียวของตนเอง ชัดชายพยายามกลั้นความรุ้สึกเสียว แม้ว่าตอนนี้ท่อนลำในอุ้งมือเล็กๆจะลุกแข็งโด่งค้ำผ้าขาวม้าออกมา
เหมือนกระโจมอินเดียนแดงก็ตาม เมื่อแน่ใจว่ามือนั้นเป็นมือลูกแก้วชัดชายก็ไม่กล้าปัดมือนั้นพ้นออกจากท่อนลำของตนเอง
คงเพราะไม่อยากให้บุตรสาวรู้ว่าผิด จึงพยายามพลิกตัวตะแคงหันหลังให้ จนมือเล็กๆนั้นหลุดจากการเกาะกุมบีบคลึง