บันทึกคัมภีร์มหัศจรรย์ ตอนที่ 10 อาถรรพ์พยัคฆ์

บันทึกคัมภีร์มหัศจรรย์ ตอนที่ 10 อาถรรพ์พยัคฆ์

บันทึกคัมภีร์มหัศจรรย์ ตอนที่ 10 อาถรรพ์พยัคฆ์ บทประพันธ์ nookylove  

       ……………….ลำแสงจากดวงตะวันเริ่มสาดส่องภายในห้องนอนของคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง ซึ่งมีร่างชายหญิงคู่หนึ่งนอนกอดก่ายกันอยู่ ฝ่ายชายเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างท้วมผิดกับร่างสวยสดเต่งตึงของสาววัยรุ่นที่แนบชิดอยู่เวลานี้ ขณะทั้งคู่กำลังนอนหลับพักผ่อนเอาแรงจากกิจกามอันหนักหน่วงที่ผ่านมาเมื่อคืนนั้นก็มีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มีวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง หนุ่มใหญ่จึงเอื้อมมือไปรับสายด้วยความหงุดหงิด

‘ ฮัลโหลมีเรื่องอะไรถึงโทรมาแต่เช้า ‘ ถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
‘ ขอโทษครับท่าน พอดีผมมีเรื่องสำคัญจะเรียนให้ท่านทราบ ‘ ปลายสายพูดอย่างนอบน้อม
‘ มีอะไรรีบว่ามา ‘
‘ คือไอ้คมกับไอ้พตมันตายแล้วครับท่าน เมื่อเช้ามืดมีคนเจอ เอ่อ…ชิ้นส่วนศพพวกมันกระจายอยู่ในห้องที่ผมจัดไว้ให้ตามที่ท่านสั่งครับ ตอนนี้ทางตำรวจกำลังหาหลักฐานอยู่ ‘
‘ ไอ้พวกฉิบหาย สั่งแล้วว่าให้กบดานเงียบๆ รู้
ไหมว่าพวกไหนทำ ‘ หนุ่มใหญ่ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องนอน
‘ ยังไม่ทราบครับท่าน ทางตำรวจไม่พบหลักฐานอะไร ร่องรอยการต่อสู้ก็ไม่มี พอสอบถามจากห้องข้างๆ ก็บอกว่าไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติครับ ‘
‘ เออ ช่างมันค่อยหาคนใหม่มาแทน แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหม ‘
‘ เรื่องอาจารย์แสน ผมติดต่อเชิญมาดูอาการคุณเต้ได้แล้วนะครับ คงราวๆสองสามอาทิตย์ เพราะอาจารย์ไปทำธุระที่ฝั่งโน้นครับท่าน ‘
‘ เออ ทำได้ดีมากเสร็จเรื่องแล้วฉันจะตอบแทนแกอย่างงาม ‘ เมื่อลูกน้องคนสนิทวางสายไปแล้วจึงเดินกลับเข้าห้องนอน นั่งลงบนเตียงได้สักครู่ก็มีวงแขนมากอดรอบเอวหนา รู้สึกถึงความนุ่มของหน้าอกเบียดคลีงอยู่ที่แผ่นหลัง
” ใครโทรมาแต่เช้าคะท่าน ” สาวสวยถามพลางยิ่งเบียดสองเต้าอวบแนบชิด อย่างยั่วยวน มือน้อยเริ่มลูบไล้ลงต่ำ
” ลูกน้องโทรมาเรื่องงานน่ะ หืม เมื่อคืนโดนไปยังไม่อิ่มอีกเหรอจ๊ะคนสวย เอาสิช่วยปลุกมันหน่อยป๋าตามใจหนู ” หนุ่มใหญ่พูดขึ้นแล้วล้มตัวลงนอนหงายอวดร่างเปลือย หน้าท้องที่มีแต่ไขมัน ท่อนลำที่ตอนนี้นอนสงบ ปล่อยให้สาวสวยจัดการตามใจชอบ
” ชิ งั้นนุชอาบน้ำแต่งตัวไปเรียนก็ได้ ” สาวสวยนาม นุชนารถ นักศึกษาปีสามดีกรีระดับดาวคณะนิเทศน์ เป็นพริตตี้และนางแบบวัยรุ่นที่กำลังมาแรง แกล้งพูดอย่างอนๆ ทำท่าจะลุกไปจริงๆ จนหนุ่มใหญ่ต้องรีบคว้าแขนไว้
” โอ๋ๆ ป๋าล้อเล่น มาทำต่อเถอะนะคนดีเดี๋ยวป๋าซื้อรองเท้าคู่ใหม่ให้ ” เขารีบง้ออย่างเอาใจ
สาวสวยค้อนให้อย่างมีจริตแต่ก็กลับมานั่งคุกเข่าข้างๆร่างท้วม มือน้อยๆคว้าท่อนเนื้อที่อ่อนตัว รูดขึ้นลงจนมันเริ่มแข็งตัว จากนั้นจึงก้มลงไปใช้ลิ้นตวัดเลียปลายหัวแดงคล้ำอย่างชำนาญ หนุ่มใหญ่เห็นสองเต้าอวบย้อยลงตามแรงโน้มถ่วงก็รู้สึกกระสันหมั่นเขี้ยว จึงเอื้อมมือมาบีบเคล้นคลึงอย่างสนุกมือ จนสาวสวยร้องอุ้ยเบา แล้วจึงกลืนท่อนเนื้อที่ผงาดแข็งเต็มทีเม้มปาก รูดขึ้นลงอย่างเร็วเป็นการเอาคืน
” อู๊ยย ซี๊ดด หนูจ๋า ช้าๆหน่อย เดี๋ยวป๋าแตกก่อนจะหมดสนุกนะ ” หนุ่มใหญ่ต้องรีบปราม
จ๊วบ จ๊วบ สาวสวยถอนปากออกมาแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
” งั้นป๋าช่วยนุช บ้างสิคะ ” สาวสวยพูดแล้วก็ลุกขึ้นคล่อมร่างท้วมมาอยู่ในท่า69 มือน้อยๆยังคงรูดท่อนเนื้อไม่หยุด จนหนุ่มใหญ่ ซู๊ดปาก ต้องรีบแหวกร่องเสียวที่เริ่มฉ่ำเยิ้ม แล้วส่งนิ้วกลางเข้าไปคว้านในรู เงยใบหน้าอูมขึ้นมาแลบลิ้นเลียสะกิดติ่งเสียวที่ยื่นออกมาท้าสายตา จนสาวสวยถึงกับครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
ทั้งคู่ผลัดกันรุกรับอย่างไม่ยอมกัน จนสาวสวยทนไม่ไหวอยากจะหาดุ้นเนื้อจริงๆมากระทุ้งให้หายคัน จึงหันมาบอกหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้มีน้ำเสียวเลอะปากเลอะคอ จากนั้นจึงลุกขึ้นหันหน้ากลับมาหา แล้วค่อยๆหย่อนร่องเสียวให้ตรงกับท่อนเนื้อแล้วกดลงไปช้าๆ
” อู้วว กี่ทีกี่ที ก็ยังฟิตเหมือนเดิมเลยหนูเนี่ย แบบนี้เอาเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ” หนุ่มใหญ่ครางอย่างหลงใหล เมื่อสาวสวยกดลงไปจนมิดลำ ก็เริ่มบดส่ายสร้างความเสียวยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อได้ที่แล้วจึงเริ่มขย่ม จนเสียงดัง ปั่บ ปั่บ ปั่บ สองเต้าอวบกระดอนขึ้นลง ยั่วสายตาให้หนุ่มใหญ่อดใจไม่ไหว ต้องบีบเคล้นอย่างแรงด้วยความสะใจ
” นุชเสียวจังค่ะท่าน มันส์ จริงๆ ” สาวสวยยิ่งเร่งเครื่องขย่ม
” โอ้ย ช้าๆ หนู ป๋าจะไม่ไหวแล้ว โอ๊ะ อู้ย ซี้ดดด ” หนุ่มใหญ่กลั้นต่อไปไม่ไหวระเบิดน้ำกามขาวขุ่นเข้าไปเต็มร่องฟิต แต่หญิงสาวก็ยังไม่ยอมหยุดขย่มเพราะเธอยังไม่ถึง
” โธ่ ท่านขา นุชใกล้แล้วอดใจอีกหน่อยสิคะ ” สาวสวยพูดอย่างหงุดหงิด เพราะท่อนเนื้อเริ่มอ่อนตัวลง จนหลุดจากร่องเสียว ฝ่ายชายก็นอนแผ่หลาอย่างหมดแรง
เธอจึงลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำโดยมีน้ำขาวขุ่นไหลย้อยลงมาตามขา สาวสวยเข้าไปช่วยตัวเองจนเสร็จแล้วจึงอาบน้ำ ออกมาแต่งชุดนักศึกษาเพื่อเตรียมตัวไปเรียน

เจ็ดวันหลังจากการเสียชีวิตของฝ้าย ภายในบ้านที่เคยเต็มไปด้วยความรัก ความสดใสของสาวน้อยผู้เป็นแก้วตาดวงใจ แต่มาบัดนี้กลับเงียบเหงาวังเวงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า สตรีในชุดดำไว้ทุกข์วัยปลายสามสิบนั่งเปิดดูอัลบั่มรูปถ่ายเก่าๆของบุตรสาว ตั้งแต่วัยทารก พลางยิ้มไปร้องไห้ไปด้วยความคิดถึง เหมือนคนเสียสติจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น จนเพื่อนบ้านผู้หวังดีที่มาอยู่เป็นเพื่อนต้องคอยปลอบโยนกว่าจะสงบได้ก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ จากนั้นเพื่อนบ้านคนนั้นก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเริ่มดึกและสัญญาว่าจะมานอนเป็นเพื่อน เมื่อผู้หวังดีจากไปแล้วเจ้าของบ้านจึงเดินไปที่ห้องห้องหนึ่ง ซึ่งเจ้าของห้องได้จากไปแล้ว เธอเดินมานั่งที่เตียงนอนนุ่ม ภาพเรื่องราวต่างๆไหลย้อนกลับเข้ามาในห้วงคำนึง รอยยิ้มอันน่ารัก เสียงใสๆ ที่เล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงเรียนของวันที่ผ่านมา ทั้งเรื่องปัญหาหัวใจของวัยรุ่น เป้าหมายที่ตั้งไว้ในอนาคต เรื่องราวต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาอย่างไม่ปิดบังด้วยเพราะมีกันอยู่สองคนแม่ลูก แต่บัดนี้ลูกรักกลับทิ้งเธอไว้ให้อยู่เพียงลำพัง ในโลกที่ซึ่งไร้แสงแห่งความหวังของผู้เป็นมารดา มืออันอบอุ่นอ่อนโยนที่ครั้งหนึ่งเคยโอบอุ้มลูกแต่วัยเยาว์ ลูบไล้ไปบนที่นอนและหมอนดุจจะใช่เป็นตัวแทนของดวงใจแม่ผู้จากจร น้ำตาที่ไหลรินมาอย่างต่อเนื่องหลายวันกลับเหือดแห้งไปเหลือเพียงเสียงสะอื้น เธอล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลีย หลับตาลงโดยหวังว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นเพียงความฝันร้าย จนเวลาผ่านไปครู่ใหญ่ขณะที่ร่างบนเตียงกำลังเคลิ้ม กึ่งหลับกึ่งตื่น สายลมแผ่วเบาพัดโชยเข้ามาในห้อง หอบเอากลิ่นหอมอ่อนๆอันแสนคุ้นเคยเข้ามาสัมผัสกับโสตนาสิก อุณหภูมิในห้องลดลงจนสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น จากนั้นก็เกิดความรู้สึกเหมือนมีน้ำหนักกดทับลงบนพื้นที่ว่างข้างเตียง และเสียง…

” แม่ขา อย่าร้องไห้อีกเลยนะคะ ” เสียงใสๆ ที่หายไปหลายวันดังแว่วมา ทำให้ร่างที่นอนอยู่บนเตียงลืมตาขึ้นแล้วผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความตื่นเต้น ดีใจ
” ฝ้าย ฝ้ายลูกรัก กลับมาหาแม่นะลูก อย่าทิ้งแม่ไปไหน ” ผู้เป็นแม่ร่ำร้องอ้อนวอน กับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า สองมือคว้าหมายจะโอบกอดให้หายคิดถึง แต่กลับคว้าได้เพียงความว่างเปล่า ผู้เป็นลูกได้แต่ยิ้มให้อย่างเศร้าสร้อย
” หนูมีเรื่องจะเล่าให้แม่ฟังเยอะเลย ” วิญญาณสาวน้อยพยายามปรับน้ำเสียงให้สดใสเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตที่เธอเล่าเรื่องราวต่างๆให้ผู้เป็นมารดาฟังอย่างสนุกสนาน ฝ่ายมารดาแม้จะผิดหวังที่ไม่อาจสัมผัสลูกรักได้ แต่เธอก็คิดว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่สามารถมองเห็นและได้ยินเสียงนี้อีกครั้ง จึงตั้งใจฟังเรื่องที่ลูกสาวจะเล่า สองแม่ลูกพูดคุยกันแต่เรื่องดีๆ เหมือนเมื่อครั้งอดีต เพียงอยากจะยื้อเวลาอันมีค่านี้ไว้ให้นานที่สุด เพราะลางสังหรณ์ของผู้เป็นแม่ได้บอกว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้พบกับดวงใจของเธอดวงนี้
จนกระทั่งนาฬิกาตีบอกเวลาเที่ยงคืน เสียงดังกังวาน สะท้อนไปถึงจิตใจของทั้งคู่ มารดาอ่านจากสีหน้าอันแสนเศร้าของบุตรสาวก็รู้ว่าเวลาแห่งการจากลาได้มาถึงแล้ว น้ำตาพาลไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
” หมดเวลาของหนูแล้วค่ะแม่ ” สาวน้อยเอ่ยบอกอย่างแสนเศร้า
” โธ่ ไม่นะลูกแม่….อย่าทิ้งแม่ไว้คนเดียว ” ผู้เป็นมารดาร่ำไห้ขอร้อง สะอื้นอย่างน่าเวทนา แต่สาวน้อยทำได้เพียงส่ายหน้าแม้ปรารถนาจะปลอบโยนเพียงใดแต่ก็ไม่สามารถทำได้
” หนูไม่อยากเห็นแม่เสียใจอีกแล้ว อยากให้แม่เข้มแข็ง ให้หนูจากไปอย่างหมดห่วงนะคะแม่ ” เธอขอร้องมารดา เมื่อลูกสาวขอร้องไม่มีแม่คนไหนจะปฎิเสธคำขอครั้งสุดท้ายของลูกได้ลงแม้ในใจอยากจะรั้งลูกไว้ก็ตาม จึงได้แต่พยักหน้าทั้งน้ำตา
” สัญญากับหนูห้ามคิดสั้นทำร้ายตัวเองนะคะแม่ ” ลูกรักยังไม่วายกำชับขอสัญญา
” แม่สัญญา ” เมื่อมารดาให้ให้สัญญาแล้ว สาวน้อยจึงกราบลาที่ตักเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นร่างก็ค่อยๆเลือนหายไปทิ้งไว้แต่รอยน้ำตาและความอาลัยรักจากแม่

ภายนอกรั้วบ้าน แสงเดือนและอนิล ยืนรอคอยบ้างอย่างอยู่ จนกระทั่ง วิญญาณสาวน้อยปรากฏร่างขึ้น แสงเดือนจึงหันไปบอกชายหนุ่ม ที่ตอนนี้ยืนกระสับกระส่ายดูท่าท่างไม่ปกติ จนสาวน้อยมาอยู่ตรงหน้า
” ฝ้ายขอบคุณพี่ทั้งสองคนมากนะคะที่ให้โอกาสฝ้ายได้ลาแม่ ” สาวน้อยกล่าวขอบคุณ พี่สาวคนสวยยิ้มรับอย่างใจดี ทำให้เธอหวนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาเพราะเมื่อลมหายใจของเธอหมดไป เธอก็หลงทางอยู่ในความมืด สักพักจึงรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นกลับมาอยู่ในโลกเดิมคล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงแต่ไม่สามารถพูดคุยกับใครได้เลยเหมือนเธอไม่มีตัวตน ได้แต่เดินหลงทางวนเวียนหาทางกลับบ้านไม่เจอ จนกระทั่งได้พบแสงเดือนซึ่งเธอไม่คิดว่าจะสามารถพูดคุยกันได้ แรกเริ่มพี่สาวคนสวยบอกว่าเธอได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว เพียงแต่สติสุดท้ายก่อนที่ลมหายใจจะหมดลง เธอคิดถึงแม่และพี่ลม ซึ่งก็เป็นการดี เพราะหากสติสุดท้ายนั้นเกิดความคิดโกรธแค้นผู้ที่ทำร้ายเธอนั้น จะทำให้ดวงจิตเศร้าหมองจนกลายเป็นวิญญาณอาฆาต ต้องวนเวียนอยู่ในที่เกิดเหตุไม่สามารถไปไหนได้จนกว่าจะมีตัวแทนหรือจนกว่าจะสิ้นอายุขัยจริงทีแรกเธอก็ไม่เชื่อพี่สาวคนนี้จึงถ่ายทอดเหตุการณ์ทั้งหมดผ่านจิตวิญญาณ นั้นทำให้เธอรู้ว่าพี่สาวแสนสวยคนนี้ก็ไม่ใช่มนุษย์เช่นกัน เพียงแต่ไม่มีโอกาสถามพี่สาวก็บอกว่าแม่ของเธอกำลังจมอยู่กับความโศกเศร้าจึงอยากจะช่วยให้เธอสองแม่ลูกได้มีโอกาสบอกลากันเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นจึงเลือกวันเวลา และช่วยเหลือโดยการให้ยืมอำนาจจิต ทำให้สามารถรวมตัวขึ้นเป็นรูปร่างและถ่ายทอดเสียงให้แม่มองเห็นและได้ยิน จนมาถึงตอนนี้
” ตอนนี้ฝ้ายคงต้องไปแล้ว ” สาวน้อยกล่าวลาทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องไปไหน
” ลาก่อนน้องรัก ” ชายหนุ่มบอกลาบ้าง แต่ท่าทีกระสับกระส่ายคล้ายต้องการกลับบ้านให้เร็วที่สุด จนทำให้วิญญาณสาวน้อยรู้สึกน้อยใจ
” ชิ ฝ้ายไปก็ได้ ” แล้วทำท่าจะเลือนหายไป แต่แสงเดือนรั้งไว้ก่อน หันไปค้อนชายหนุ่มแล้วกระซิบบางอย่างกับสาวน้อย จากนั้นวิญญาณของฝ้ายก็เลือนหายไปจากสายตาเขา ชายหนุ่มจึงรีบเดินไปที่รถที่จอดไว้ท้ายซอยแล้วรีบขับออกไปเพื่อจะไปถึงบ้านให้เร็วที่สุด

เมื่อขับรถมาถึงบ้านแล้วท่าทางกระสับกระสายยิ่งแสดงชัดจนแสงเดือนถามด้วยความเป็นห่วง แต่ชายหนุ่มไม่บอกอะไรก็รีบเดินเข้าบ้านจนสาวงามต้องรีบตามเข้าไปอย่างเป็นกังวล จนตามชายหนุ่มเข้ามาในห้องนอน ชายหนุ่มจึงถามขึ้น
” เดือน ปู่ดาเคยใช้มนตราพญาเสือหรือเปล่า ” ชายหนุ่มถามอย่างร้อนรุ่ม เพราะอาการตอนนี้คล้ายวันที่เขาออกไปฉีกพวกที่ทำร้ายฝ้ายเป็นชิ้นๆ
” ไม่เคยนี่จ๊ะ เดือนไม่เห็นพ่อดาพูดถึงเลย เอ๊ะดวงตาของพี่ ทำไม … ” สาวงามพูดได้เพียงเท่านั้น ก็คล้ายตกอยู่ในมนต์สะกดบังคับร่างกายตัวเองไม่ได้
‘ มนตราพญาเสือ เกิดแต่แรงอาฆาต ดับด้วยราคะ ‘ ชายหนุ่มควบคุมความพลุ่นพล่านไม่อยู่อีกต่อไป เพียงพริบตาเสื้อผ้าก็หายไปจากเรือนร่าง เผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าขาวนวลเนียน มือแข็งแกร่งคว้าแขนบอบบางแล้วดึงเข้ามาหาตัวอย่างรวดเร็วทำให้ร่างอวดอัดงดงามผวาเข้ามาปะทะแผงอกกำยำ ชายหนุ่มกระกบปากส่งลิ้นเข้าไปควานหาความหอมหวานอย่างดุดัน มือออกแรงกระชากเสื้อจนขาดออกจากร่างกำยำ หลังจากจูบอย่างร้อนแรงดุเดือดจนสาวงามร่างอ่อนระทวย
ก็จับเหวี่ยงร่างงามจนล้มคว่ำอยู่บนเตียง จากนั้นจึงรีบปลดเปลื้องอาภรณ์ที่เหลืออยู่จนร่างเปล่าเปลือยอวดความแข็งแรงกำยำของกล้ามเนื้อ ท่อนเนื้อยาวใหญ่ผงาดแข็งเป็นลำอย่างพร้อมจะสมสู่ เขาไม่รอช้ารีบก้าวขึ้นเตียงแล้วยกร่างขาวนวลเนียนขึ้นให้ได้ระดับ คุกเข่าประกบบั้นท้ายกลมกลึงอวบอัดจัดแจงแยกขาเรียวงามให้กว้างออก โดยไม่รอให้ร่องสวาทของฝ่ายหญิงพร้อมก่อน ก็จับปลายหัวบานแดงกดเข้าไปที่ปากร่องเสียวทำให้ร่างงามถึงกับสะดุ้งด้วยความเจ็บ
” โอ้ย พี่เดือนยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งเอาเข้ามา มันเจ็บ ” สาวงามร้องอุทธรณ์ เมื่อได้สติจากความเจ็บปวดที่ได้รับ ชายหนุ่มจึงสอดมือเข้าไปบดคลึงติ่งเสียวเบาๆเพื่อสร้างอารมณ์ให้ร่างกายหญิงสาวขับน้ำหล่อลืน เมื่อเริ่มได้ที่แล้วจึงค่อยๆกดเข้าไปอีกครั้ง
” อุ้ยยส์ แน่นจัง เบาๆก่อนนะจ๊ะ ” หญิงสาวร้องบอกด้วยความคับแน่นตึงจนปริที่ร่อง ซึ่งไม่ว่าจะถูกทะลวงสักกี่ครั้งก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมทุกครั้ง หลัดจากกดท่อนเนื้อไปจนมิดลำแล้ว ชายหนุ่มก็โน้มตัวมาจูบที่ต้นคอขาวผ่อง ขบเบาๆจนหญิงสาวขนลุกครางออกมาด้วยความเสียว สองมือโอบลงไปเคล้นสองเต้าอวบใหญ่อย่างสนุกมือ ยิ่งทำให้สาวงามครางหนักขึ้น ส่วนล่างก็บดส่ายจนร่องรักปรับสภาพมีน้ำหล่อลื่นออกมามากขึ้นแล้ว จึงเริ่มขยับถอนท่อนลำออกมาสั้นๆ แล้วกระแทกกลับเข้าไป ทำไปสักพักจนรู้สึกว่าเข้าออกสะดวกขึ้นไม่รัดแน่นจนแทบขยับไม่ได้เหมือนตอนแรก จึงลุกขึ้นมาสองมือขยำบั้นท้ายเต่งตึงอย่างหมั่นเขี้ยว แล้วเริ่มซอยเข้าออกจากช้าจนเร็วขึ้น ถอนลำออกมาจนเกือบหลุดแล้วอัดกระแทกเข้าไปจนสุดโคน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง ตั่บ ตั่บ ตั่บ ผสานกับเสียงร้องครางอย่างดังของสาวงาม
น้ำหล่อลื่นของหญิงสาว ทะลักออกมาเปื้อนท่อนลำเป็นเมือกขาวขุ่นแถมยังเปรอะไปทั่วโคกเนิน
” โอ้ย พี่จ๋า เดือนใกล้แล้ว อุ๊ยย ” สาวงามร้องครวญคราง โดนกระแทกจนหัวสั่นหัวคลอน สองเต้าอวบใหญ่ แกว่งไกวไปมาอย่างน่าดู จนชายหนุ่มเปลี่ยนจากเกาะกุมบั้นท้าย เป็นโอบเอวหญิงสาวขึ้นมาแล้วเลื่อนมือไปกอบกุมสองเต้าบีบเคล้นเล่นหัวนมอย่างสนุกมือ ท่อนล่างก็เร่งซอยเข้าออก จนสาวงามหวีดร้องดังๆ ร่างสั่นกระตุก ร่องเสียวบีบรัดถี่ยิบระเบิดน้ำรักอย่างรุนแรง ชายหนุ่มยังคงไม่หยุดกระแทก จังหวังยังคงเร่งอย่างแรงไม่ตก
” อู้ยย พี่หยุดก่อน อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ โอ้ยย จะถึงอีกแล้ววว ” สาวงามถูกเร่งกระทุ้งจนน้ำแตกกระจายติดๆไปอีกรอบ คราวนี้ถึงกับตัวอ่อนหมดแรงปล่อยให้ชายหนุ่มจับพลิกเปลี่ยนท่าตามใจชอบ โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด จนผ่านไปหลายชัวโมงแม้ว่าชายหนุ่มจะปล่อยน้ำเชื้อขาวข้นออกมาจนล้นร่องของเธอไปรอบนึงแล้ว สาวงามถึงจุดสุดยอดน้ำแตกไปจนนับไม่ถ้วนนอนหลับคาท่อนเอ็นไปด้วยความอ่อนเพลีย ก็ยังไม่สามารถหยุดความต้องการที่เอ่อล้นมากมาย จนต้องระบายออกกับร่างงามทั้งๆที่เจ้าตัวสลบไสลไปแล้ว ถึงตอนนี้ก็เวลาใกล้รุ่งเต็มที ชายหนุ่มคล่อมร่างหญิงสาวที่นอนคว่ำหน้าหมดสติไปแล้ว เร่งซอยเข้าออกจนแก้มก้นหนั่นแน่นสะท้านสะเทือน
ราวสิบนาทีน้ำกามชุดสุดท้ายก็แตกทะลักเข้าสู่ร่องสวาทที่รับน้ำขุ่นข้นล้นแล้วล้นอีก จนเจ้าของร่องหลับไหลไม่ได้สติจากการรับศึกหนักทั้งคืนจนเช้า เผยให้เห็นร่องรอยบอบช้ำจากการโดนเสียดสีเป็นเวลานาน ปากร่องยังคงอ้าไม่ยอมหุบ ตามเรือนร่างสาวงามเต็มไปด้วยร่องรอยเป็นจ้ำ มีคราบน้ำกามเลอะเปรอะปื้อนไปหมด
ชายหนุ่มล้มตัวลงนอนดึงร่างงามที่บอบช้ำจากการกระทำของเขามากอดแนบอก ก่อนจะหลับลงไปอย่างอ่อนล้าเมื่อตะวันทอแสง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าภายในห้องนั้นไม่ได้มีแค่เขาและแสงเดือน ………………………….. จบตอนอาถรรพ์พยัคฆ์

ตอนนี้ปัญหาเยอะแยะต้องขออภัยที่ล่าช้าครับ รู้สึกว่ามันจะยาว เลยแยกตอน เล่ห์พยัคฆ์ มาเป็นอีกตอนนึง คาดว่าจะเร่งให้จบตอนเร็วๆนี้ครับ แล้วก็ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้เสมอมา แค่วางชื่อเรื่องกำลังใจก็มาอย่างล้นหลาม ทำให้ไม่กล้าชักช้า แห่ะๆ ขอบคุณพี่สาวแว่นมากครับสำหรับภาพปลอบใจและการสนับสนุนมาโดยตลอด จะพยายามทำให้ดีที่สุดต่อไปจนกว่าเรื่องนี้จะจบลงนะครับ

Share the Post:

Related Posts

เสียวทั้งแม่ทั้งลูก

เสียวทั้งแม่ทั้งลูก

เรื่องเสียว เสียวทั้งแม่ทั้งลูก  ผมทำงานในรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง หน้าที่ซ่อมบำรุงเกี่ยวกับเรื่องไอทีครับ ผมเข้ามาทำงานได้ปีกว่า ก็คุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ปัจจุบันผมอายุสามสิบกว่าๆ ยังไม่มีครอบครัว ชีวิตเซ็กส์ก็เฉกเช่นชายทั่วไป ผมใช้ชีวิตแบบพ่อพวงมาลัยครับ คุยกับสาวๆไปทั่ว แต่ยังไม่มีเป้าหมายที่แน่นอน แรกๆก็รู้สึกเหงาๆ บ้าง ในแผนกผมมีเจ้าหน้าที่ห้าคน ผู้หญิงสามผู้ชายสอง ผมอายุน้อยกว่าเพื่อน พี่หัวหน้าแผนกเป็นผู้หญิง ไม่ค่อยสุงสิงกับใครนัก มีผมกับพี่มาโนช

Read More
เมียไม่อยู่ แอบเย็ดลูกสาวเปิดซิงหีเด็ก

เมียไม่อยู่ แอบเย็ดลูกสาวเปิดซิงหีเด็ก

เรื่องเสียว เมียไม่อยู่ แอบเย็ดลูกสาวเปิดซิงหีเด็ก ผมมีลูกสาวคนนึงชื่อ กิ๊ฟ เพิ่งจบ ป.6 กำลังจะขึ้น ม.1อายุกำลัง 13 ปี กำลังอยู่ในวัยน่าเย็ดหีเลย กิ๊ฟเป็นเด็กสาวน่าตาน่ารักแทบจะถอดแบบแม่มาเลย และความที่ผมเป็นพวกรักเด็กด้วยก็เคยคิดอยากเย็ดกับลูกสาวตัวเองสักครั้ง เรื่องเซ็กส์ผมกับเมียมีด้วยกันตลอด แต่ส่วนมากเมียผมจะเสร็จก่อนหลายครั้งและขอหยุด จนผมต้องแอบไปชักว่าวออก และแล้วความฝันของผมก็เป็นจริง เปิดซิงเย็ดหีลูกสาวตอนเมียไม่อยู่ เมียผมต้องไปช่วยงานศพญาติที่ต่างจังหวัดหลายวัน

Read More