ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 5

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 5

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 5 “2 พี่น้องเทวกรนันท์…สุรีย์พรรณ…ชื่อนี้จงจำไว้อย่าลืมเลือน…อันตราย!!!”

“พี่แคท!!”
…ผมอุทานได้แค่คำเดียวเท่านั้นเพราะตกอยู่ในอาการตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูกแต่สมองยังออกคำสั่งให้มือรีบโยนหนังสือลงบนโต๊ะ…ร่างของบุตรสาวคนโตของคุณอาซึ่งสุดแสนอวบอัดอรชรขาวผ่องสวยสะพรั่งไปทั่วเรือนกายยืนตระหง่านอยู่ตรงประตูห้องหลังจากทำภารกิจอาบน้ำเสร็จสิ้น…
เส้นผมเปียกชื้นยาวเหยียดตรงถูกตวัดรวบมารวมกันที่ไหล่ซ้ายเผยต้นคอขาวๆสวยๆ…สีดำขลับเป็นมันเหลื่อมมีสีเหลืองแดงแซมเพราะได้สะท้อนอาบรับแสงแดดยามเย็นที่สาดส่องเข้ามาในห้องและผ่านการสระล้างด้วยแชมพูรวมทั้งสบู่อาบน้ำทำให้หลงเหลือกลิ่นติดตรึงกายหอมกรุ่นจรุงใจแผ่ซ่านความหอมหวนโชยมาถึง…หยดน้ำใสเม็ดเล็กๆเกาะพราวไปทั่วหัวไหล่ขาวเนียนโผล่พ้นเหนือผ้าเช็ดตัวสีชมพูอ่อน…งามหยาดเยิ้มมากเหลือเกินกว่าจะพรรณนาออกมาเป็นคำพูด…ไม่ผิดแม้แต่นิดเดียว…ก็ต้นแขนไล่ไปถึงปลายเรียวยาวราวกับแขนของเทพธิดาผู้สูงศักดิ์เลอโฉม…นิ้วทั้ง 5 เรียงเป็นระเบียบในมืออันบอบบางทั้ง 2 ข้าง…ส่วนสัดต่างๆในร่างกายไม่ว่าจะเป็นหน้าอกอวบอิ่ม…สะโพกผายงาม…เอวขอดกิ่วสะโอดสะองและส่วนลี้ลับต้องห้ามทั้งหลายล้วนถูกปิดบังไปด้วยผ้าขนหนูบางๆเพียงผืนเดียวเท่านั้นและที่สามารถเห็นได้อีกคือต้นขาอ่อนกลมกลึงรับสัดส่วนพอดิบพอดีกับท่อนบนของร่างกายซึ่งไม่ใหญ่โตจนดูอวบอ้วนมากเกินไป…ปลีน่องขายาวขาวสะอาดไล่เรื่อยไปถึงปลายนิ้วเท้าเปรียบราวกับหยวกกล้วยตามแบบสาวเมืองเหนือ…ใบหน้าอิ่มเอิบผ่องใสไร้ซึ่งสิวฝ้าและริ้วรอย…แก้มเปล่งปลั่งเจือสีชมพูเรื่อซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยความสดชื่นจากการอาบน้ำชำระร่างกาย…ขนตาดำงอนกระพริบเป็นจังหวะช้าๆอยู่เหนือดวงตาสดใสกลมโตทั้ง 2 ฉายวับอย่างแหลมคมปานมีดกรีดตรงมายังร่างผู้รุกล้ำห้องส่วนตัวจนยืนนิ่งขาตายไม่อาจเคลื่อนไหวขยับตัวได้…แย่แน่…พี่แคทต้องด่าผมด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างแน่นอนโทษฐานบุกรุกเข้าห้องนอนสถานที่รโหฐานโดยไม่ได้รับอนุญาต…โธ่…รู้งี้ไม่เข้ามาซะก็ดีหรอก?…อะไร!!…เธอแค่เดินผ่านผมอย่างเชื่องช้าและหน้าตาที่เหม่อลอยราวกับว่าไม่มีตัวผมอยู่ตรงนั้นตั้งแต่แรกไปเปิดประตูออกสู่ระเบียงเอาผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้เช็ดหน้าไปตากเท่านั้น…อ้า…บั้นท้ายเว้าโค้งสุดโดดเด่นงามงอนได้สัดได้ส่วนของพี่สาวลูกพี่ลูกน้องเคลื่อนผ่านไป…ความงดงามสุดจะระงับใจนี้ได้ทําให้ต้องเหลียวศีรษะมองตามอย่างกับถูกใครบางคนจับให้หันหรือบังคับขู่เข็ญ…ร่างกายที่ไม่มีอาภรณ์ชิ้นใดๆนอกจากผืนผ้าเพียงชิ้นเดียวและยังปราศจากการสวมใส่ชุดชั้นในทั้งชิ้นบนและชิ้นล่าง…เหลือเพียง…มะ…ไม่…สะ…สาบานได้ว่าผมไม่เคยเห็นหญิงสาวรุ่นพี่ในสภาพเช่นนี้มาก่อนนับตั้งแต่ได้เจอกันอีกครั้งและอาจยังไม่มีบรุษผู้ใดพบกับความโชคดีปนความโชคร้ายแบบที่ผมกำลังประสบอยู่ในขณะนี้ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน…พี่แคทเดินกลับเข้ามาในเวลาไม่นาน…ผมรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นนอนสะบัดหัวเบือนหน้าหนีรีบสาวเท้าไปที่ประตูห้องก่อนเอ่ยปากขออภัยลูกพี่ลูกน้องหญิงวัย 21…ให้เธอยกโทษในความบังอาจก่อความผิดในครั้งนี้ของผม…
“พี่แคท…ผมขอโทษ…ขะ…เข้าห้องโดยพลการ…เอ่อ…ผมขออภัยพี่อย่างมากเลยครับ”
…สิ้นคำขอโทษ…พี่แคทไม่ได้ตอบอะไรกลับมาทันทีเพียงเอาแต่ยืนหันหลังทำกิริยานิ่งเงียบ…จริงแท้เลยว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีสำหรับผมแน่…สักพักเธอหยิบหนังสือเล่มนั้นขึ้นมาดูก่อนหันเผชิญหน้าคนร้ายและพูดตอบช้าๆไม่มีอาการร้อนรนเขินอายหรือตื่นเต้นอะไรแม้แต่นิดเดียว…น้ำเสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาไม่ดังมากจนใครคนอื่นนอกจากเรา 2 คนจะมาได้ยิน…
“กล้าดีนี่…แต่พี่ขอพูดอะไรสักอย่างนะบอล…เมื่อก่อนห้องนี้เป็นของพี่กุนและเธออาจเคยเข้านอกออกในได้ตามชอบใจแต่ตอนนี้มันเป็นห้องของพี่!!…ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากพี่ไม่ว่าใครก็ห้ามเข้ามาทั้งนั้น!!…แม้แต่ฝนยังต้องเคาะประตูและขออนุญาตก่อนจะเข้ามา…รู้ไว้ซะด้วย”
…น้ำเสียงของพี่แคทในขณะนี้ช่างมั่นคง…เยือกเย็น…หนักแน่น…ทําไมล่ะ??…ผมล่วงล้ำเข้าห้องส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต…พี่แคทน่าจะรู้สึกไม่พอใจมากและนอกจากนี้ร่างกายที่มีเพียงผ้าขนหนูปกปิดเพียงชิ้นเดียวอยู่ในสภาพกึ่งเปล่าเปลือยของเธอยังถูกชายหนุ่มเห็นอย่างเต็มๆตาอีกด้วย…ควรแสดงความอาย…ความโกรธออกมาให้เห็น…เปล่าเลย…พี่แคทไม่ได้มีกิริยาทั้ง 2 อย่างนั้น…ใบหน้า…ดวงตา…คิ้ว…ลักษณะคำพูด…ท่าทาง…การกระทำทุกอย่างของลูกพี่ลูกน้องสาวตรงหน้าดูเฉยเมยไม่ค่อยมีความตื่นตัวต่อเหตุการณ์ที่เกิดราวกับไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรมากมายนักและพี่แคทยังพูดด้วยน้ำเสียงตามแบบปกติเช่นเดิมแต่หัวใจของผมไม่ได้เต้นเป็นจังหวะปกติตามไปด้วยทั้งมันและผมลุ้นระทึกอยู่แค่ว่าจะโดนเฉ่งจนหน้าแตกยับเยินเมื่อไหร่?…ให้ตาย…ออกปากด่าอะไรก็ได้เพราะมาแบบนี้ดูไม่ออกสักนิดว่าโกรธผมหรือเปล่า?…และกำลังคิดอะไรแต่อยู่ๆหญิงสาวก็พูดสวนกลับมาแบบนี้…
“ถูกต้องหรือเปล่าที่พี่พูดมาทั้งหมด?”
“ชะ…ใช่ครับ…พี่แคทพูดถูกต้องทุกอย่าง…ผม…ผมเป็นฝ่ายผิดและจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วครับ”
…พี่แคทฟังแล้วนิ่งไปอีกครั้ง…สาวสวยรุ่นพี่กระพริบตาช้าๆบางทีก็หลับตาลงเป็นช่วงๆเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่…เธอยืนกอดอกนิ้วมือแตะปลายคางสีหน้าเครียดลงเล็กน้อย…แลเห็นดอกบัวคู่งามเต่งตูมซ่อนในผ้าเช็ดตัวส่วนที่โผล่เหนือขมวดปมของผ้าที่หญิงสาวห่มมองเห็นเป็นฐานเนินเนื้ออกขาวผ่อง…เต้าสวรรค์ในร่มผ้านูนเด่นแต่ซ่อนหัวนมบนยอดอกไว้อย่างมิดชิดและถูกประคองอยู่ในวงแขนจนมองเป็นลูกเป็นเต้าขนาดสัก…เว้ย!!!…ภาวะตึงเครียดอย่างนี้ผมยังมัวดูอะไรอยู่ได้เนี่ย??…สาววัย 21 ปล่อยท่อนแขนลงข้างตัวปรายตามองไปรอบๆห้องสุดท้ายมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมและพูดต่อไป…
“เธอรู้เพราะได้ศึกษาเล่าเรียนแต่ไม่ใช่สักว่าเรียนเพียงอย่างเดียวต้องจดจำใส่สมองและหัดรู้จักเอาออกมาใช้ด้วย…ถ้าไปกระทำแบบนี้นอกบ้านคนอื่นเขาจะคิดยังไง?…บอลเคยคิดถึงจุดนี้บ้างมั้ย?”
…อึ๊ก…พี่แคทพูดประชดว่าเราไม่มีมารยาทและไม่รู้จักเอาสิ่งที่ร่ำเรียนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองน่ะสิ…พูดแบบเน้นๆเนื้อๆไม่มีอ้อมค้อมไปเลยว่าขนาดน้องสาวแท้ๆต้องเคาะประตูบอกแล้วผมเป็นใครเล่า?…ก็แค่ลูกพี่ลูกน้องเท่านั้นเอง…ถึงไม่ได้ด่าหยาบแต่คำพูดแต่ละคำมันช่างทิ่มแทงความรู้สึกอย่างเจ็บแปลบแสบสันต์ยิ่งกว่าอีกมากมายนัก…พี่แคทวางหนังสือลงบนโต๊ะตามเดิมและยืนพิงโต๊ะมองหน้าผม…แก้มก้นโค้งเว้าสุดอวบอั๋นของสาวงามผู้เยือกเย็นถูกวางเกยอยู่บนโต๊ะนั่นเองจากนั้นก็เอ่ยถามในสิ่งที่ผมสงสัย…
“เรื่องนั้นน่ะพอแล้วแต่เธอเห็นหนังสือเล่มนี้แล้วคงสงสัยว่าพี่เอามาทำไม??…”
“ชะ…ใช่ครับ…ความจริงไม่ใช่เรื่องที่ผมจะแปลกใจอะไร…แต่มัน…” (เสือกอยากรู้ไม่เข้าเรื่อง)
“หึ!!…นั่นสิ…แต่…พี่ไม่คิดว่าจะมีเหตุผลที่ต้องบอกเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของพี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ…เมื่อวานนี้พวกเธอไปที่ไหนกันบ้างพี่ไม่เคยอยากรู้และไม่เคยคิดสนใจเพราะบางเรื่องที่เป็นเรื่องส่วนตัวของตัวเองย่อมไม่ต้องการให้คนอื่นล่วงรู้ซึ่งพี่ก็เหมือนกัน…เอาล่ะ!!…ไม่มีธุระอะไรที่เธอจะอยู่ในห้องนี้อีกและหวังว่าคงทําตามที่ตัวเองพูดในวันนี้ได้…เชิญ!!”
…พูดจบพี่แคทก็แบมือมาข้างหน้าเป็นการเชิญให้ผมออกจากห้องตามอย่างที่สุภาพชนทำกัน…อือ…แต่รู้สึกเจ็บปวดทั้งกายและใจจริงๆ…ผมออกจากห้องตามที่เธอสั่ง(ไล่)โดยไม่ชักช้าราวกับถูกมนต์ดำหรือไม่ก็ยาสั่ง…
“ถ้ายังไม่ได้ไปไหนก็จงฟังไว้…คราวนี้เธอโชคดีมหาศาลแต่เกิดมีครั้งต่อไปอาจจะถึงกับน้ำตาร่วงก็ได้…เพราะถือว่าวันนี้เธอรู้แล้ว”
…พี่แคทพูดอะไรจากข้างใน?…ผมยังอยู่หน้าห้องของเธอจึงยังพอได้ยินชัดแต่ไม่เข้าใจสักนิดเดียวว่าพี่เขาหมายถึงอะไร?…และไม่ได้รู้สึกโกรธอะไรหรอกแต่แค่รู้สึกผิดในใจอย่างบอกไม่ถูก…เข้าห้องส่วนตัวของผู้หญิงโดยไม่ได้รับอนุญาต…ข้อหานี้ผมเป็นฝ่ายผิดเต็มประตูและมีสิทธิ์อะไรไปว่าพี่เขาได้แต่เธอควรไว้หน้ากันบ้าง…นี่พูดประชดประชันกันซะ…ไม่…คราวนี้พี่แคทพูดแบบไว้หน้าผมสุดๆแล้วต่างหาก…มันต้องดีกว่าเธอจะด่าประจานให้ชาวบ้านชาวช่องหรือคนในบ้านได้ยินจนอับอายแทบมุดหัวแทรกแผ่นดินหนีเป็นไหนๆ…หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จก็พบสากลับมาแล้ว…ผมถือโอกาสถามความเคลื่อนไหวของฝนซึ่งยังอยู่ที่มหาลัยทำหน้าที่กองเชียร์ปี 1…สาถอนหายใจยาวทีนึงก่อนตอบแบบเซ็งๆ…
“เมื่อวานฝนไม่ได้ถามอะไรอีกเพราะสาตอบว่าน่องไปกระแทกกับผนังห้องตอนช่วยแม่ขนของ”
“อืม…คงไม่สงสัยอะไรแล้วล่ะมั้ง…ให้ตายสิ…ประมาท 2 คนนี้ไม่ได้เลย”
ปากพูดแบบนี้แต่ในใจกลับไม่คิดว่าพี่น้อง 2 สาวจะหายสงสัยกันง่ายๆ…ยิ่งพี่แคท…แววตาของเธอขณะมองอ้อยในร้านไอศกรีม Swensen`S เมื่อวันวานที่ผ่านมา…รู้สึกมันไม่ธรรมดาสักนิดเดียว…
“กลัวจังเลยว่าพี่แคทกับฝนจะรู้เรื่องของพวกเรา…ถึงรู้ว่าสากับพี่กุนเป็นแฟนของบอลแต่สาไม่อยากให้รู้เรื่องไปถึงอ้อย…แม่และป้าศรีน่ะ”
…ใช่…ฝนกับพี่แคทฉลาดแถมช่างสังเกตกันทั้งคู่…พวกเธอต้องนึกสงสัยอะไรบ้างไม่มากก็น้อยแล้วรีบบอกเรื่องนี้กับกุนและป้าศรีไว้ล่วงหน้าก่อนจะดีกว่า…สาฟังผมบอกก็มีทีท่าเห็นด้วยเต็มที่…
“อื้อ…งั้นสารับหน้าที่คุยกับพี่และป้าเอง…เวลากลับมาบ้านจะได้วางตัวกันถูก…แย่จริง…เพราะสาแท้ๆ…ไม่ควรออกความคิดชวนบอลกับอ้อยออกไป…น่าอยู่แต่ในบ้าน”
“ไม่เป็นไรๆ…ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอก…เออ…บอกอ้อยกับแม่ด้วยนะสา”
…ระหว่างทางผมพูดกับตัวเองขณะขี่รถมุ่งหน้าไปร้าน…ใช่แล้วสา…น่ากลัวจริงๆโดยเฉพาะพี่แคท…ต่อไปนี้การพูดคุยกับเธอแต่ละครั้งคงเปรียบได้กับการออกไปรบในสงคราม…ถ้าเกิดพลาดพลั้งเสียทีให้กับความเฉลียวฉลาดรู้เท่าทันคนของสาวงามผู้แสนอันตรายนางนี้แม้แต่นิดเดียว…ดูไม่จืด…ศพไม่สวย…อยู่ด้วยกันแค่ไม่ถึง 2 เดือนแต่ผมชักเริ่มรู้ถึงตัวตนแท้จริงของพี่แคทแล้วถึงจะเพียงแค่เศษเสี้ยวเดียวก็เถอะ…ยังไงวันนี้ได้รู้ล่ะว่าการเข้าไปยุ่มย่ามในชีวิตส่วนตัวของพี่แคทเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอีกต่อไป…ลืมเตือนสาอีกเรื่อง…เรื่องนี้สำคัญและน่ากลัวมากซะด้วยคือให้ระวังจะโดนฝนหลอกถามล้วงเอาความลับ…ก็สาวน้อยนางนี้ธรรมดาซะที่ไหนกัน?…เจ้าเล่ห์…ตาไว…หูไว…หัวแหลมอย่างกับลิงแถมตื๊อเก่งสุดๆ…สาก็ยิ่งมีนิสัยซื่อๆชอบพูดอะไรตรงๆอยู่ด้วยทำให้มีความเสี่ยงสูงว่าอาจจะพลาดท่ายัยหูผีจมูกมดผู้เป็นคู่หูดูโอ้เพื่อนร่วมห้อง…เพื่อนเล่นและรวมไปถึงเพื่อนสนิท…
………………………………………………………………………………………………………

…วันต่อมาหลังจากหมดชั่วโมงเรียนและเป็นเวลาพักเที่ยง…ผมนั่งเซ็งอารมณ์บ่จอยหัวซบนอนเกยโต๊ะเรียนไม่อยากลุกไปไหน…จิตใจตอนนี้เต็มไปด้วยความขุ่นข้องหมองใจเพราะเหตุการณ์เมื่อเย็นวานมันตราตรึงในหัวสมองอยู่…แทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าไอ้เชนเพื่อนรักเข้ามานั่งใกล้ๆตั้งแต่เมื่อไหร่…หมู่นี่มันร่าเริงเบิกบานดีจริงๆคงเป็นเพราะเที่ยวหลีน้องใหม่สาวๆทุกวันและสาวคนไหนดวงดี(ซวย)บุญหล่นทับโชคดี(ร้าย)มหาศาลได้เป็นแฟนมันบ้างนะ?…เจ้าเชนกระซิบบอกผมตามประสาคนมีความลับเฉพาะซึ่งบอกใครคนอื่นอีกไม่ได้…
“คืนนี้กูนัดน้องขวัญกับน้องโบว์ไว้นะเว้ย…ไปด้วยกันมั้ยเล่า?”
…พอได้ยินเจ้าเชนพูดว่านัดกับ 2 เด็กหญิงวัยใสพราวเสน่ห์เพื่อนรักเพื่อนสนิทของอ้อย…ผมยังจดจำรสรักกลิ่นอายสวาทอันแสนหอมหวานซึ่งน้องๆน่ารักหยิบยื่นให้เชยชมทั้งกายและใจเมื่อตอนปิดเทอมหน้าร้อนที่ผ่านมาได้อย่างตราตรึงแม่นยำทำให้เกิดอาการหูผึ่งด้วยความสนใจ…หืม?…น้องขวัญกับน้องโบว์…อยากไปเจอเหมือนกันแฮะแต่จิตใจผมตอนนี้มันไม่สนุกรื่นเริงเอาซะเลย…คำพูดบาดใจบาดความรู้สึกของพี่แคทเมื่อเย็นวานมันดังก้องกังวานในหัวไม่รู้ลืมและยังฝนอีกเล่า…เกิดยัยจอมยุ่งปูดเรื่องผมจับเธอนอนหงายและตัวเองขึ้นคร่อมทำท่าเหมือนปลุกปล้ำกระทำชำเราให้ใครรู้ล่ะก็…ตาย!!…โดยเฉพาะพี่แคท…เธอซัดผมตายคาที่แน่ๆ…ดังนั้นเมื่อจิตใจมันไม่พร้อมจึงจำต้องตอบปฎิเสธคำชวนของเพื่อนรักทั้งที่อีกใจอยากตอบ “ไป” ใจจะขาด…
“เฮ่ย!!…ลางานสักวันจะเป็นอะไรวะ?…น้องๆเขาชวนเองนะโว้ย…อย่าให้น้องๆน่ารักเสียใจดิ”
“แล้วพ่อแม่น้องเขาไม่ว่าหรือไง?…ออกจากบ้านดึกๆดื่นๆ”
“ใครว่า…นัดกันตอน 6 โมงเย็นเนี่ย…หาอะไรกินและไปดึ๊กดึ๋ยกันไง…2 – 3 ทุ่มก็กลับแล้ว”
…ดึ๊กดึ๋ย?…พูดซะกูเกิดอยากขึ้นมาเลยนะมึง…แต่ผมยังทำใจแข็งตอบปฎิเสธไปอีกครั้งซึ่งเชนมันก็ยังตื๊อ…
“เหอะน่า…ไปเป็นเพื่อนกัน”
“บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปซี่…มึงอย่ามาเซ้าซี้กูมาก”
“มึงแน่ใจ?”
“……………………………..……”
…เมื่อเห็นว่าผมไม่เปลี่ยนใจแน่…
“เอ้า…ตามใจๆ…งั้นคืนนี้กูขอรับไปคนเดียวแล้วมึงอย่ามาบ่นเสียดายให้ได้ยินทีหลังนะ”
…เชอะ…นึกอิจฉามันตงิดๆ…ฮี่โธ่…ใช่ว่าผมไร้ซึ่งสาวงามแวดล้อมข้างกายแต่มันไม่มีอารมณ์เว้ย…ไอ้เคย์เพื่อนสนิทในกลุ่มอีกคนหนึ่งเก็บของลงกระเป๋าเสร็จก็เอ่ยปากชวนพวกเราในก๊วนไปกินข้าว…ระหว่างทางไอ้เชนมันย้ำถามอีกครั้งว่าไม่เปลี่ยนใจไปสวิงกิ้งกับเด็กสาวๆสักหน่อยหรือ…ผมก็ยืนยันหนักแน่นว่าไม่ไปเหมือนเดิม(แต่ในใจรู้สึกเพียงอย่างเดียว…เสียดายๆ)พวกเราเดินออกจากลิฟท์ตั้งใจจะไปกินข้าวในโรงอาหารใกล้ๆอาคารเรียน…ไม่ต้องไปไหนไกลเพราะตอนบ่ายยังเรียนอยู่ห้องเดิมก่อนไปดูแลน้องปี 1 ร้องเพลงเชียร์ในตอนเย็นจากนั้นไปทำงานที่ร้านตามปกติ…
……………………………………………………………………………………………………….

(“บอลคงคิดมากไปเองแหละ…กุนว่ามันไม่มีอะไรที่ต้องเอามากังวลใจสักนิด”
“แต่…ยังไงดีล่ะ…พี่แคทต้องเริ่มเอะใจแล้วนะกุน…ฝนด้วย…บอลกับสาไม่ต้องการให้ 2 คนนั้นรู้เรื่องอะไรไปมากกว่านี้”
“บอลทําใจให้สบายและทําตัวไปตามปกติเถอะจ๊ะ…อย่าแสดงพิรุธอะไรออกมาโจ่งแจ้ง…ระงับความอยากของตัวเองไว้บ้าง…ฮิ…สาโทรบอกว่าบอลพาเธอกับอ้อยไปทำอะไรกันนอกบ้าน…ช่างเข้าใจคิดกันจริงเล้ย…แล้วเป็นไงล่ะจ๊ะต้องมานั่งกลุ้มแถมยังก่อเรื่องจะปล้ำฝน…แอบเข้าห้องแคทอีก…หึๆ…ร้ายหาตัวจับยากนัก”
“ก็บอลบอกนี่ว่าไม่ได้ตั้งใจ…ไม่เคยคิดทำแบบนั้นกับฝนส่วนพี่แคทบอลขอโทษไปแล้ว”
“แหม…กุนล้อบอลเล่นน่า…คิกๆ…แต่ห้ามบอลไปเจ๊าะแจ๊ะกับ 2 คนนั่นเด็ดขาดนะ…อันนี้พูดจริงๆ”
…โธ่…กุนไม่ได้มาเจอแบบผมน่ะสิถึงยังทำใจเย็นพูดเล่นๆได้และผมไม่มีทางทำรุ่มร่ามด้วยแน่ๆก็หน้าของพี่แคทเวลานั้นน่ากลัวจะตายนึกถึงทีไรเสียวสันหลังวาบใจคอไม่ดีทุกทีแต่เป็นอย่างที่กุนเตือนคืออย่าแสดงพิรุธอะไรออกมาโจ่งแจ้งแล้วระงับความอยากของตัวเองไว้บ้างรวมทั้งต่อไปทําอะไรต้องระมัดระวังยิ่งกว่าเดิมเพื่อให้รอดพ้นจากพี่สุรีย์พรรณหญิงสาวผู้ฉลาดหลักแหลมชอบจับผิด(มั้ง)และสาวน้อยจอมเจ้าเล่ห์แสนกลฉลาดเป็นกรดซนเป็นลิงนามหยาดฝน…
“หรือถ้าบอลยังกังวลอยู่…ไว้กลับไปบ้านกุนจะคุยกับแคทเขาเองแต่ให้รู้แบบค่อยเป็นค่อยไปก่อนดีกว่า…แคทเป็นคนมีเหตุมีผลและโตเป็นผู้ใหญ่พอ…กุนเชื่อว่าเธอต้องเข้าใจและยอมรับได้”
“ขอบคุณมากจ้ะ…บอลจะเฝ้ารอกุนกลับมาทุกวัน…รักกุนมากนะ”)
…ผมนึกถึงตอนโทรไปหาแฟนสาวสุดรักเมื่อเย็นที่ผ่านมาขณะนั่งพักเหนื่อยหลังจากไม่มีลูกค้าเข้าร้านเพิ่ม…กุนยังกำชับทิ้งท้ายว่าอย่าแอบเข้าห้องพี่แคทโดยพลการอีก…คราวนี้เพราะเห็นผมไม่รู้จึงยกให้แต่ต่อไปรับรองว่าไม่มีโชคดีแบบนี้แน่…กุนพูดอย่างกับเธอเป็นพี่แคทซะเองแถมเตือนคล้ายๆกัน??…อืม…แต่ยังไงผมควรจะเชื่อคำตักเตือนของแฟนสาวไว้เป็นดีคือกันไว้ดีกว่าแก้…อุ!!…เพิ่งทำงานได้ไม่เท่าไหร่แต่ตามันจะปิดซะแล้ว?…นี่คิดว่าพักผ่อนเพียงพอแล้วนะ…
“บอลไม่สบายหรือเปล่า??…ดูหน้าตาเซียวๆ”
“ไม่นี่ครับพี่แก้ว…ผมสบายดีแต่แค่รู้สึกง่วงนิดหน่อยครับ”
…พี่แก้วเอาฝ่ามือแนบหน้าผากผม…สักครู่เธอก็บอก…
“บอลตัวอุ่นๆนี่…กลับไปนอนพักดีกว่า…หน้าฝนคนมักเป็นหวัดกัน…ถ้าเป็นแล้วมันจะไม่ดี”
…ผมแย้งกลับไปว่าไม่เป็นอะไรมากขนาดต้องลาหยุดแค่มันไม่สบายใจเท่านั้นแต่ไม่ได้บอกพี่แก้ว…
“เอาน่าวันนี้ลูกค้าคงไม่มาก…เชื่อพี่…ไปพักเถอะ…รับรองพี่ไม่หักเงินเดือนบอลหรอกจ้ะวางใจได้”
…ไม่ได้ห่วงเรื่องเงินหรอก…หรือว่าเราจะไม่สบายไปจริงๆ…งั้นสบโอกาสกลับไปนอนพักที่บ้านคงดี…วันนี้ดันขี้เกียจไม่ค่อยอยากทำงานซะแล้ว…โชคดีพรุ่งนี้เรียนบ่ายนอนตื่นสายได้…ผมรีบขี่รถออกจากร้านมุ่งหน้ากลับบ้าน…ตอนติดไฟแดงมองนาฬิกาข้อมือซึ่งสาวกับเก๋ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด…เวลาเกือบ 2 ทุ่มแล้ว…ป่านนี้ไอ้เชนคงกำลังสนุกสุขเสียวกับขวัญและโบว์อยู่ล่ะสิ…ฮึ่ย!!…โม้หรือเปล่าวะ…ลองโทรไปหามันซิ…คิดแล้วจึงขี่รถต่อไปจนใกล้ถึงแต่จอดเพียงหน้าปากซอยทางเข้าบ้านกดมือถือยิงเบอร์ไปหามัน…รอสายอยู่นานเชียว?…
“อะ…อะไรวะ…โทรมามีไร…อูววว…ดูดเก่งจังน้องรักของพี่…อุ…นะ…นั่นแหละ…โออออออออออ”
…ผมได้ยินก็เผลอร้องอุทานความตกใจแต่เริ่มจะทราบแล้วว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นในขณะนี้…มันพูดจริงไม่ได้โกหก…ไอ้เพื่อนสนิทคนนี้ของผมมันกำลัง…รู้สึกว่าจะให้ผู้หญิงอมควยให้นี่นา??…
“อาาา…พะ…พี่ขา…หนูได้ที่แล้ว…เร็วๆหน่อย…นะ…หนูเงี่ยน…โอวววว…มา…หนูจะแหกหีรอ”
…เจอแบบนี้เข้าผมชักตาลายหูอื้อแต่ยังได้ยินเสียงหายใจหอบและเสียงครางอย่างซ่านเสียวแกมขอควยเย็ดของเด็กสาวดังแทรกมาด้วย…แต่เป็นใครล่ะ??…หัวใจเริ่มพองโตด้วยความตื่นเต้นโลหิตมันลงไปหล่อเลี้ยงเจ้าท่อนเอ็นประจำตัวจนมันแข็งโด่…
“ไอ้บอล…กูเพิ่งเล่น 69 เสร็จกำลังอัดควยเย็ดหีว่ะ…มาได้จังหวะพอดีเลยนะมึง…อาาา…เสียวหัวควยชิบ”
“อาาาาา…พี่บอลขา…พี่อยู่ไหน…รีบมาเย็ดขวัญเถอะ…อื๊ออออออ…อูยยยย…เอาปลายควยสะกิดแตดหนูด้วย…เขี่ยมันก่อนแล้วค่อยเอาเข้า…แหม…พี่เชนน่ารักจัง…ฮิๆๆ”
“ขะ…นี่ขวัญ…ขวัญอยู่กับเชนหรือ??…แล้ว…โบว์มาด้วยมั้ย??”
“ค่ะ…พี่…อืมมม…แต่โบว์…ไม่มาค่ะ…ซีดสส…อ๊าา…พี่เชน…หัวควยทิ่มหีทิ่มมดลูก…ขะ…ขวัญเลย…อูยยยย…อาาาา”
“หีน้องขวัญร้อนดีจัง…รูหีครูดควยพี่ม๊าก…โอออออ…สุดยอด…ได้ฟันหีเด็ก…กูตายไม่เสียดายแล้วววว”
“ซีดสสสส…ถ้าชอบก็แรงขึ้น…แรงอีกสิค่ะ…ขวัญสู้ไม่ถอยนะ…สุด…สุดยอด…โอยย…หีหนูบานหมดแน่…”
“พี่จะเย็ดทั้งหีทั้งตูด…เอาให้พรุ่งนี้ไปเรียนไม่ได้เลย…ใช่มั้ยวะบอล?”
…โอ่ย…บรรเลงเพลงเย็ดกันถึงพริกถึงขิงเชียวนะ…ไอ้เชน…น้องขวัญ…ห่าเอ้ย…ได้ยินแบบนี้ควยผม แข็งเต็มเป้ากางเกงซะแล้ว…ทรมานชิบหาย…ไม่เกรงใจกู…
“อึบบบบ…ท่าหมาแบบนี้ขวัญชอบมั้ยจ๊ะ”
“ค่ะพี่…ควยมันเข้าลึก…เต็มรูเลยอ่ะ…อึ๊ยยยยย…กระโปกพี่เชนมันตีหนอกของหนู…เสียวจังเลยพี่จ๋า…หนูชอบท่านี้จัง”
…บรรยายจนเห็นภาพเชียวนะน้องขวัญ…ให้ตายเถอะ…นี่ทำไมกูต้องขี่รถกลับมาทางบ้านตัวเองด้วยวะ?…
“พี่บอลขา…ฟังอยู่หรือเปล่า?…อืมมมม…ตอนนี้หนูนอนโก่งตูดแหกหีให้พี่เชนกระเด้าอยู่…มาสนุกกับหนูสิ…โอวววว”
…เสียงของน้องขวัญยามได้เสพรสเสียวช่างยั่วยวนอารมณ์กำหนัดมากซะเหลือเกิน…ทําให้ควยมันแข็งแบบไม่เกรงใจเจ้าของ…ผมใจเต้นถี่ระรัวเหงื่อกาฬแตกซิกทั่วตัว…
“บอล…ก้นน้องขวัญสวยมากเลยนะโว้ย…ทั้งขาวทั้งอวบ…นมก็ใหญ่เกินตัว…รูหีนี้แดงแจ๋สุดๆ…
น้ำหีก็ออกเยอะด้วย…อาาาา…เยิ้มเลยนะเฟ้ย…ลื่นควยดีจริงว่ะ”
“บีบนมขวัญด้วยสิ…พี่เชนบอกเองไม่ใช่หรอว่าใหญ่…ซีดสสส…กระเด้าควยมาอีก…ลึกๆเลยค่ะ…อ๊าาาาา…สุดควยเลย”
…โธ่เว้ย!!…ผมไม่น่าโทรหามัน…ดันต้องมาได้ยินเสียงอันบาดตาบาดใจ(บาดกระดอ)…ฟังเสียงคนร้องครางตอนกำลังเย็ดกันอย่างมีความสุข…จะปิดมือถือก็ไม่กล้าเพราะมันอยากฟังต่อจนจบ…แต่ว่า…
“สะ…สนุกจัง…เปลี่ยนท่ากันเถอะพี่เชน…ขอหนูขย่มบ้างนะ”
…ผมแนบหูกับโทรศัพท์อย่างลุ้นระทึก…พยายามนึกภาพตามไปด้วยตลอดและได้ยินเสียงไอ้เชนดัง…
“บอล…น้องขวัญจะขย่มตอกูว่ะ…หูย…ส่ายสะโพกยั่วร่านผู้ชายสุดๆเลยโว้ยย…ฟังสิ…โอ้วววว…ควยถูกหีกลืนไปแล้ววว”
“แฮ่กๆ…พี่บอล…พี่เชนจะโดนหนูขย่มอยู่ร่อมร่อ…ไม่คิดจะมาช่วยเพื่อนบ้างหรอ?…อุ๊บบ…อืออออ…เข้าไปแล้ว…ควยเข้ารูหมดแล้วค่ะ”
“เอาเลยน้องรัก…พี่จะเด้งสู้แบบไม่มีถอยแม้แต่ก้าวเดียว”
“อึ๊กกกก…พี่จ๋า…เย็ดมันส์อย่างนี้…ขวัญต้องมาให้พี่เย็ดบ่อยๆ…คันหีเมื่อไหร่ขวัญจะมาหาพี่อีก…โออออ”
“อูวววว…ได้เลยได้…มาเวลาไหนก็ได้…พี่เชนจะแกว่งควยรอน้องทุกวัน”
…ทําพูดดีไปนะไอ้บ้า…แล้วหมอนวดของมึงล่ะเอาไปไว้ไหน?…โอ้โห!!…เสียงเนื้อต่อเนื้อกระแทกกันดังก้องมาตามโทรศัพท์…สนั่นหวั่นไหวเชียว…หรือขวัญเอามือถือไปจ่อใกล้ๆหีถึงได้ยินเสียงแจะๆชัดเจนขนาดนี้หนอ??…
“ได้ยินมั้ยค่ะพี่บอล?…หีขวัญไม่เล็กนะ…เย็ดควยใหญ่ๆได้มิดดุ้นเลยล่ะ…อือออ…ถ้าพี่มาหาก็ต้องโดนแบบนี้แหละ…อืมมมมม…เสียวหีจังเลย”
“พี่…พี่ก็อยากไปหาขวัญ…ควยพี่แข็งจะตายแล้ว”
“ไอ้บอล…มึงก็มาสิ…มาที่ห้องกูเลย…น้องขวัญอยากเจอมึงนะ”
“กู”
“พะ…พี่บอล…มาเถอะ…มาเย็ดกับหนู…ซีดสสส…จะเย็ดหีหรือเย็ดตูดก็ได้…มาสิคะ…ขวัญจะแหกหีแหกตูดรอพี่…โอ้ยยยยย”
“บอลมึงต้องมานะ…อ๊ออออ…สนุกจริงโว้ยยย”
…เอาไงดี??…ได้ยินน้องขวัญออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงหวานจนควยแทบจะระเบิด…ผมอยากจะบึ่งรถกลับไปที่หอของเจ้าเชนซะเดี๋ยวนี้แต่มันใกล้ถึงบ้านแล้ว…ขณะยังหันรีหันขวาง 2 จิต 2 ใจอยู่นั่นเอง…
“พี่…พี่เชน…ขะ…ขวัญจะไม่ไหวแล้ววว…ใกล้จะออกแล้วค่ะพี่…อึ๊ยยยยย…อะ…ออกแล้ววว”
“อะ…ออกมาเลยน้องจ๋า…อ้ากกก…น้ำหีน้องขวัญอุ่นจังเลย…อูยยย…หีบีบตอดควยแรงจริงๆ”
…ผมนั่งตัวสั่นมือกุมเป้ากางเกงบนรถขณะฟังทั้ง 2 ร้องครางออกมาเกือบพร้อมๆกันและก็มีเสียงหายใจหอบของทั้งคู่ดังผสานตามมาไม่ขาดระยะ…เสร็จสมกันไปแล้วแต่คงไม่มีทางหยุดแค่นี้…ต้องเล่นเกมส์เสียวใต้สะดืออีกแน่ๆเพราะชอบเย็ดกันทั้ง 2 คนนี่นา…ไม่ได้…เราต้องไปบ้างสิโว้ย…ขอไปแจมด้วยอีกสักคนเถอะ…จะยอมให้เจ้าเชนมีความสุขกับน้องขวัญแค่ 2 คนได้ยังไงกันเล่า…ทว่า?…
“บอลทำอะไรอยู่ตรงนั้น…ตอนนี้เวลาทำงานไม่ใช่หรือ?….แล้วมาถึงนี่ทําไมไม่เข้าบ้านล่ะจ๊ะ?”
………………………………………………………………………………………………………

Share the Post:

Related Posts

น้องสาวผมอายุ 14 ”หนูเจ็บแสบไปหมดแล้ว พี่ยังไม่พออีก หรอ?”

น้องสาวผมอายุ 14 ”หนูเจ็บแสบไปหมดแล้ว พี่ยังไม่พออีก หรอ?”

เรื่องเสียว น้องสาวผมอายุ 14 ”หนูเจ็บแสบไปหมดแล้ว พี่ยังไม่พออีก หรอ?” เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน พฤษภาคม 2568 นี้เอง ก่อนเข้าเรื่องจำแนะนำตัวน๊ะครั๊บ ผมชื่อเอก อายุ 15 ปี เรียนอยู่ ม.3 ครับ ที่บ้านผมอยู่กัน 4

Read More
เย็ดน้องสาวแตกใน

เย็ดน้องสาวแตกใน

เรื่องเสียว เย็ดน้องสาวแตกใน สวัสดีคับ ผมชื่อ กัน บ้านผมอยู่กรุงเทพคับแต่ว่ามีบ้านพักอยู่ที่ ชลบุรี ผมมีน้องคนนึงไม่ใช่น้องแท้ๆหรอกคับเป็น ลูกของน้องแม่อีกทีเธอชื่อ แคท เป็นลูกครึ่งแต่ผมก็จำไม่ได้ว่าประเทศอะไร ผมมักจะเจอแคท เมื่อไปพักที่ชลบุรี เห็นและเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ช่วนที่ผ่าน 4-5 ปีมานี้ ผมไม่ได้เจอ แคท เลย

Read More