ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 61

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 61

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 61 “ลุ้นระทึกกลางดึก!?…เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผี!!!!” 

“ก่อนที่น้องจะใช้พลังพันธนาการท่านพี่…กรุณาบอกเหตุผลที่น้องรับฟังได้…จะอธิบายว่าอย่างไรเจ้าคะ?”
“พี่ก็บอกแล้วว่ามันเป็นแค่…ผลประโยชน์ต่างตอบแทนกัน”
“……………………………………………”
“ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ”
“เท่านี้หรือเจ้าคะ?”
“อืม–…อ๊ะๆ…อย่าเชียวนะ!!…พี่มีออกตรวจตอนบ่ายอีก”

“วานให้หมอคนอื่นทำแทนก็ได้ส่วนท่านพี่จงนอนหลับอยู่แต่ภายในห้องนี้เสียเถิด…ใบหน้ายามหลับนั่นช่างงดงามยิ่งนักเจ้าค่ะ”
“เฮ่ยเอาจริงน่ะ!?…แน่~~…ล้อพี่เล่นใช่ม๊า?”
“…น้องกำลังโกรธอยู่นะเจ้าคะ”
“ไหมๆๆๆ…อย่ามัวอยู่เฉยๆช่วยฉันด้วย!!!”
“คุณหนูรองเจ้าคะ…ดิฉันว่า…”
“หุบปากบัดเดี๋ยวนี้!!…เจ้าก็มีความผิดที่ช่วยท่านพี่ปกปิดเรา…สงสัยอยู่แล้วเทียวว่าทำไมเจ้าถึงพาเราไปโน่นไปนี่ที่แท้ก็เป็นการถ่วงเวลา”
“……………………………………………”
“น่าๆ…อีตาผอ.มะเขือเผานั่นมันแค่การละเล่นฆ่าเวลา”
“น้องเบื่อจะฟังท่านพี่ที่พูดแก้ตัวเช่นนี้มามิรู้กี่ครั้ง…เอาล่ะ”
“?”
“หากยังมิเลิกข้องเกี่ยวกับเฒ่าหัวงูผู้นั้นอีกก็อย่าหาว่าน้องใจร้ายล่ะกัน”
“เฮ่!!”
“……………………………………………”
“โอ๊ะไม่ได้การ!!…ต้องไปออกตรวจแล้ว”
“น้องยังพูดมิจบนะเจ้าคะท่านพี่!!!”
“หนีไวจัง”
“คอยดูเถิดไหม…มันผู้ใดที่จะเข้าใกล้ท่านพี่ด้วยเพราะมีเจตนาสกปรกลามกต้องพบกับจุดจบที่น่าสมเพช…ท่านพี่เป็นของเรา!!!”
“คุณหนูใหญ่ก็มีเหตุผลเป็นของตัวเองเจ้าค่ะ”
“เหตุผลที่หาได้มีความเข้าท่าแต่อย่างใดไม่น่ะหรือ?”
“……………………………………………”
“เราจะไปเรียนส่วนเจ้าคอยดูแลท่านพี่”
“เจ้าค่ะ”
“……………………………………………”
“……………………………………………”
“ไหมๆ”
“คุณหนูใหญ่!?”
“ม่อนไปแล้วใช่มั้ย?”
“เพิ่งออกไปเมื่อกี้เจ้าค่ะ”
“เฮ้อ~~…ช่วยบอกมันด้วยว่าอย่าไปทำอะไรอีตาผอ.นั่นเลยเพราะตอนนี้แพ้ภัยตัวเองไปนอนในห้องไอซียูเรียบร้อยแล้ว”
“หา?”
“มีประวัติเป็นโรคหัวใจอยู่ก่อนแต่สาเหตุที่แท้จริงก็เป็นเพราะขึ้นเตียงกับฉันนั่นแหละ…เธอเองก็อย่าเอะอะไปเชียวนะ”
“!?”
………………………………………………………………………………………………………………….

“กินข้าวกลางวันมาหรือยัง?”
“…เรียบร้อยครับ”
“นั่งเป็นเพื่อนพี่ก่อน…เดี๋ยวจะไปส่งที่ห้อง”
“…………………………………………..”
…พี่แคทมาอยู่ที่ร้านอาหารหน้าทางเข้ามหาวิทยาลัย?…ไม่แวะก็ไม่ได้เพราะสาวเจ้าผมยาวโทรจี้เข้ามือถือ…
(ไม่รู้ตั้งใจมาดักรอหรือเปล่าเพราะที่นี่มันก็ใกล้อาคารที่หล่อนเรียนอยู่เหมือนกัน!?)
“นายท่านคะ…พวกเราขอตัวกลับนะคะ”
“อืม”
“โอ–…แค่ไปพบกับคุณพัตราครั้งแรกในฐานะ…ว่าที่ผู้นำรุ่นสามก็ดูจะเพลินติดลมบน”
“…………………………………………..”
“หนูจ๊ะ…ข้าวได้แล้ว”
…พี่แคทลุกไปหยิบอาหารที่สั่งไว้ส่วนผมเดินไปซื้อน้ำอัดลมกระป๋องโดยตั้งใจซื้อมาเผื่อเธอด้วยแต่ทว่า…
“ไม่ได้สั่งสักหน่อย”
“งั้นผมเก็บไปฝากฝนก็ได้”
“…………………………………………..”
“ข้าวคะน้าผัดปลาอินทรีย์”
“ป้าเค้าทำอร่อย”
“แต่ผมอยากกินอาหารฝีมือพี่มากกว่า”
“ห๊ะ?”
…อึ้งไปเลยพี่สาวผม…หึๆ…ก็รู้อยู่แล้วว่าเธอทำอาหารไม่ได้เรื่องแต่อยากจะ(เอาคืน)แหย่เล่นเฉยๆ…
“เย็นนี้พี่ทำให้ผมกินนะ”
“พี่ทำเป็นที่ไหน?…ไปขอให้ฝนทำโน่น”
“แย่จัง…ผู้หญิงที่ไม่มีฝีมือปลายจวักใครจะมาขอไปเป็นแม่บ้านแม่เรือน?…น่าขันมากถ้าใครๆรู้ว่าคุณหนูสองผู้สูงส่งแห่งวิษณุมนตรีจะไร้ความสามารถที่ผู้หญิงส่วนใหญ่พึงมี”
“โห~~…แล้วไงต่อ?”
“นี่เรื่องใหญ่ครับ…อย่าล้อเล่น”
…เปรียบเปรยกับน้องสาว,แม่บ้านแม่เรือน,ชีวิตหลังแต่งงาน…ผมสบช่องยกมาถล่มเป็นระลอกทว่าญาติสาวผู้พี่วัย 22 นิ่งสงบกว่าที่คาดทั้งที่จี้แทงปมด้อยของหล่อนเต็มเปา…เอ๋!?…ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเรอะ?…
“…ความเห็นของเธอน่าสนใจทีเดียวแต่มันไม่สำคัญสำหรับพี่”
“เพราะมีฝนหรือ?”
“ไม่ใช่…ถ้าจะไปฝึกทำอาหาร…”
“?”
“พี่ว่าเอาเวลามาคอยจับตาดูคนชอบปิดบังความผิดของตัวเอง…มันน่าสนุกกว่าเยอะเลย”
“!?”
“ไปเอาน้ำให้หน่อยซิ”
“ก็ยังมีอยู่ในแก้ว…”
“…………………………………………..”
“ครับๆๆ”
“ขอบใจ…เอ้า!!…สักคำ”
“ผมไม่หิว”
“สุภาพบุรุษที่ดีไม่สมควรปฏิเสธคำขอของสุภาพสตรีนะจ๊ะ”
“…………………………………………..”
(เออๆ…กินก็ได้ฟะ!!)
“หืม?…โอ้วววววววว…เผ็ด…เผ็ดๆๆๆ…โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยย”
…หลงกลพี่แคทที่แกล้งเอาพริกขี้หนูมาให้กินจนผมตาลีตาเหลือกคว้าแก้วน้ำแทบไม่ทัน…
“เห็นมะ?…ดื่มหมดในอึดใจเดียวเลย”
“อะ…อะไรของพี่เนี่ย!?”
“พี่รู้สึกว่าเธอชักจะพูดมากก็เลยอยากให้หุบปากลงซะมั่ง”
“…………………………………………..”
“ไปทำอะไรมาอีกล่ะ?”
“ทำอะไร?…ผมก็บอกแล้วว่าไปพบคุณพัตรา…หากสงสัยนักก็เชิญไปเช็คเลย”
“พี่ไม่ได้สงสัยประเด็นที่ว่าพบจริงหรือเปล่าแต่ไอ้การที่ขับรถผ่านหน้าบริษัทตั้งสามสี่รอบน่ะมันอะไร?”
“!!!”
“อย่าบอกว่าตื่นเต้นที่ไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ครั้งแรกเลยขอเวลาเตรียมใจ”
“…นังปิศาจ!!”
“หึ!”
“ผมว่าพี่ๆยังจะมาหัวเราะเยาะ!!!”
“งั้นบอลก็พูดมา”
“แค่มันยังไม่ถึงเวลานัดหมายเลยสั่งให้ศุกร์ขับรถวนฆ่าเวลาก็เท่านั้น”
“ฆ่าเวลา?…ทำอะไรที่มันดูเด็กๆจัง”
“แล้วอะไรครับที่ดูเป็นผู้ใหญ่?…แกล้งเอาพริกให้คนอื่นกินอย่างนี้ใช่มั้ย?”
(ปากท้าทายแต่ความจริงกลัวแทบหยุดหายใจ…อะไรดลใจให้เรายื่นมือไปจับคางพี่แคทกันนะ?)
“โดนยั่วว่าทำอาหารไม่เป็นเข้าหน่อยก็แอบยัดพริกขี้หนูให้ผมกิน…ใช้วิธีหน่อมแน้มนี่น่ะเหรอ?”
“งั้นบอลจะให้พี่เปลี่ยนไปใช้วิธีโหดๆไหม?”
“………………………………………..”
“…มือสั่นนะ”
“ผมจะไปรอที่รถ!!”
…แสดงว่ามีสาย(ลับ)แฝงตัวอยู่ในบริษัทคุณพัตราซึ่งยัยพี่สาวจอมป่วนประสาทก็คงจะบอกเลขทะเบียนรถที่ผมนั่งไป…รู้ถึงขนาดขับรถวนผ่านหน้าบริษัทถึงสามรอบแต่จะเป็นใคร?…
(มีแนวโน้มสูงว่าจะเป็นยามหน้าประตูเพราะสามารถสังเกตรถทุกคันที่แล่นผ่านหรือวิ่งเข้ามา)
“ยังพอมีเวลาเหลือ…พี่ขอถามอะไรหน่อย”
“ก็พูดมาซะตรงนี้เลยสิครับ”
“ที่นี่ไม่ค่อยเหมาะ”
…พี่แคทเลี้ยวรถเข้าไปในถนนลูกรังสายนอกที่สามารถไปถึงอาคารที่ผมจะเรียนได้ซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครใช้เส้นทางนี้เพราะมันเปลี่ยวกับไม่มีเสาไฟอยู่เลยโดยเฉพาะเวลากลางคืน…หญิงสาวนำรถเก๋งคู่ใจจอดชิดขอบถนนแล้วเปิดประตูออกไป…
(ถึงกับต้องหยุดรถเชียว?)
“…ลงมา”
“มีอะไรจะถามครับ?”
“เธอกับศิมีอะไรกันหรือยัง?
(โอ้โห!?…ช่างไม่รู้จักอ้อมหรือเลี้ยวซะบ้างเลยจ้องจะพุ่งตรงอย่างเดียว!!!)
“ผมคงไม่ต้องตอบมั้งเพราะพี่จะตั้งธงไว้ในใจก่อนเสมอฉะนั้นถึงพูดไปพี่ก็ไม่เชื่อ?”
“ก็ลองพูดมาก่อน”
“มีแล้วครับ”
“!?”
“พี่หูไม่ฝาดหรอก”
…ว่ากันว่าคนที่ฉลาดเป็นกรดมักจะไม่เชื่อคำตอบกับประโยคแรกที่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาดังนั้นผมจึงพูด(ความจริง)ทันทีและคอยดูว่าญาติสาวผู้พี่จะมีปฏิกิริยายังไงต่อ…
“เรียกไปปรนนิบัติหรือ?”
“ปรนนิบัติ…ก็ประมาณนั้นแต่ผมไม่บังคับและปล่อยให้ศิตัดสินใจเอาเองครับ”
“ต่อให้เต็มใจแต่หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ…โตป่านนี้แล้วทำอะไรไม่รู้จักคิด”
“ฮ้า!?”
(เฮ้ย!!!…ไหงผลมันถึงออกมาตรงกันข้าม?)
“อย่าโกหก…ฮื่อ~~…ผมรู้ว่าพี่ไม่เชื่อ”
“แต่คราวนี้ฉันเกิดอยากจะเชื่อขึ้นมาน่ะ”
“เหตุผลล่ะ?”
“แววตาที่ศิมองเธอ…”
“แค่นั้นเองน่ะเหรอ?”
“อย่าดูถูก Sense ของผู้หญิงให้มันมากนัก…พี่ไม่เคยพูดว่าตัวเองฉลาดกว่าใครแต่การสังเกตอาการคนอื่นนี่ถือเป็นเรื่องถนัดและเธอน่ะมองออกง่ายมากหรืออีกความหมายคือ…ดูปราดเดียวก็รู้”
“…………………………………………..”
…ประสาทจะกิน!!!…หวังให้สาวเจ้าวัย 22 ตกหลุมพรางเพราะความเฉลียวฉลาดของตนแต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นผมเสียเอง…
“งั้นที่ขับรถวนอยู่หลายรอบก็แสดงว่าเธอกับศิกำลัง…”
“อย่ามาเดาส่งเดช!!”
“แต่ไอ้นี่น่ะ…”
“โอ๊ะ!?…ปะ…ปล่อยนะ!!!!”
“อ่อนยวบยาบแบบนี้…แสดงว่ารีดพิษมันออกไปแล้วสิ?”
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพี่…ปัทโธ่เว้ย!!!…คิดพิเรนทร์อะไรจู่ๆก็มาจับจู๋ผม?”
“แค่ภายนอกเอง…ไม่ได้จับตรงๆสักหน่อย”
“จะตรงหรือจะเลี้ยวมันก็ใช่ที่ๆนึกอยากจับก็จับได้ตามใจหรือไง?”
“จู่ๆก็รักนวลสงวนตัวขึ้นมาซะงั้น?”
“หยุดแดกดันกันซะที!!”
“พี่เปล่านะ…ก็ถ้าเธอไม่ไปมีอะไรกับใครมันจะต้องแข็งตัวนี่?”
“มันใช่ซะที่ไหน?…กรอด!!!”
“น่า–…อย่าลืมว่าพี่นุ่งกระโปรงสั้นแล้วตอนนั่งในรถเธอก็เหลือบมองขาอ่อนพี่ตั้งหลายครั้งฉะนั้นตามความเป็นจริงเธอย่อมเกิดความรู้สึกแล้วไอ้นั่นจะต้องขยายใหญ่ขึ้นบ้างแต่นี่ไม่เลย”
“วิธีพิสูจน์บ้าๆแบบนี้มันไม่ได้ผลหรอก”
“เอ–…มันก็น่าจะช่วยสันนิษฐานเบื้องต้นได้ไม่ใช่รึ?”
“นี่ไม่รู้จริงหรือว่าแกล้งโง่กันแน่?…งั้นผมทำกับพี่บ้างจะเป็นยังไงล่ะ?”
“……………………………………………”
“พี่ยังไม่รู้จักผู้ชายดีพอ…เริ่มมาก็จับไอ้นั่นหมับพี่มั่นใจว่ามันจะต้องแข็งตัวทันทีงั้นเรอะ?…คิดตื้นๆ…นี่ถ้าไม่ใช่ผมล่ะก็น่ากลัวพี่โดนจับข้อหาทำอนาจารไปแล้วแน่!!!”
“งั้นเธอช่วยอธิบายหน่อยถือเป็นการประดับความรู้”
“…ผู้ชายน่ะต่อให้สำเร็จความใคร่มาแล้วแต่ก็ใช่ว่าอวัยวะเพศจะอ่อนยวบยาบไม่หือไม่อือไปหลายชั่วโมงอย่างที่พี่เข้าใจโดยเฉพาะหนุ่มวัยรุ่นความรู้สึกไวจะตาย…ต่อให้เอาผู้หญิงมาแล้วแต่อวัยวะเพศก็สามารถแข็งตัวได้เมื่อหัวสมองคิดกับเห็นสิ่งเร้าอารมณ์”
“แล้วทำไมของเธอไม่แข็งทั้งที่แอบดูขาพี่?”
“ใครว่า?…ผมไม่ใช่อิฐใช่ปูนแต่มันสงบใจได้ต่างหาก”
“สงบใจ”
“แบบพอได้เห็นหน้าของพี่ผมก็แทบจะหมดอารมณ์ทันที…เฮอะๆ”
“อะไร!?…นี่ใบหน้าฉันดูน่าเกลียดขนาดนั้นเชียว?”
“ไม่ใช่ๆ…ความหมายของผมคือพี่ชอบปั้นหน้าบึ้งใส่คนอื่นใครๆก็เลยกลัวจนหดไงครับแล้วอย่างเมื่อกี้ผมก็ตกใจด้วยที่อยู่ๆพี่แคทก็เล่นอะไรสัปดน”
“โอ–…หมายความว่าพี่เข้าใจผิดมาตลอด?”
“ตรงนั้นของผู้ชายไม่ใช่ประเภทจับปุ๊บก็โด่ปั๊บ…ไปศึกษามาใหม่เถอะพี่เป็นคนฉลาดรับรองไม่นานก็เข้าใจ”
“ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก…”
“?”
“ไม่มีอะไร…บอลช่วยขับรถให้ทีสิ”
…อื้อหือ?…ดูคุณเธอทำหน้าเข้า…ท่าทางจะใช้ความคิดเป็นจริงเป็นจังเสียเหลือเกินจนไม่มีกะใจจะขับรถ…
“ช้าๆ…ถนนแถวนี้ไม่ค่อยดี”
“………………………………………….”
“………………………………………….”
“มองหน้าผมทำไม?”
“พี่ยอมรับว่ายิ้มไม่ค่อยเก่งทำตาเซ็กส์ซี่ก็ไม่เป็น…พอจะบอกได้ไหมล่ะว่าพวกเพื่อนๆของบอลเวลาเห็นพี่แล้วเขามีอาการยังไงมั่ง?”
“…ให้พูดจริงๆเหรอ?
“อื้ม!!”
“สัญญามาก่อนว่าพี่อย่าโกรธหรือไปทำอะไรพวกมันนะ”
“ได้”
“พวกมัน…อยากมีอะไรกับพี่มากครับ”
“………………………………………….”
“พี่แคท?”
“พูดต่อ”
“พวก…พวกมันชอบมองตอนที่พี่นั่งกับเดินไปเดินมา…สังเกตดีๆก็จะรู้ว่าแววตางี้หื่นกระหายกันทั้งนั้น”
“ทำไม?”
“เพราะเวลานั่ง…เอ่อ–…อย่างที่เห็นๆกันว่าพี่มักจะใส่กระโปรงสั้นรัดรูป…เอ่อ…”
“ก็มันทำไมเล่า?”
“จะ…จะเห็นขอบกางเกงใน”
“ขอบกางเกงใน!?…ได้เห็นแค่นั้นพวกเพื่อนของเธอก็มีความสุขกันงั้นหรือเนี่ย?…แล้ว…ตอนพี่เดินล่ะ?”
“ก็…ก็บั้นท้ายของพี่ไง…ผมคงไม่ต้องอธิบายนะ”
“…ทะลึ่งกันจัง”
“นี่ยังน้อย…ทุกส่วนสัดในร่างกายพี่แคทล้วนแต่โดนพวกผู้ชายในมหาลัยเก็บเอาไปฝันกันหมดแล้ว…เชื่อมั้ยว่าแม้แต่อาจารย์ผู้ชายก็ชอบมองพี่?”
“หึ!!…ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จะเรียกว่าน่าหัวเราะหรือน่าสงสารดี…อืม–…จะว่าไปพี่เซคก็เคยเปรยๆไว้เหมือนกัน”
“เรียกว่าความบันเทิงใจอย่างหนึ่งจะดีกว่าครับ…พวกผู้หญิงก็ยังชอบพูดถึงร่างกายผู้ชายนี่นา?”
“พี่พูดอยู่หลายครั้งว่าเห็นแล้วยังไงเอาไปก็ไม่ได้ด้วย…แม้แต่หน้าอกพี่ก็เหมือนกันสิ?”
“ก็บอกว่าทุกส่วน”
“แค่เห็นยกทรงหรือกางเกงในวับๆแวมก็ชอบใจกันใหญ่”
“แต่ผมไม่ตื่นเต้นหรอก”
“เพราะเห็นอยู่บ่อยๆใช่มั้ย?”
“หา?”
“นับว่าเธอโชคดีกว่าคนอื่นเพราะไม่ได้เห็นแค่ขอบรางๆแต่มันชัดแบบเต็มตัว”
“แล้วนั่น…พี่…จะปลดกระดุมทำไม?”
“ทำแบบนี้…เธอน่าจะเกิดอารมณ์บ้าง”
…พี่แคทปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาสองเม็ดเผยให้เห็นยกทรงสีชมพูอ่อนพลางมองหน้าผมไม่กระพริบ…เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?…มันจะทำให้ผมฟุ้งซ่านจนไม่มีสมาธิขับรถต่อและอาจเกิดอันตราย…
(หูยแม่คุณเอ้ย!!!…นมเต่งเป็นกระเปาะแถมมีตั้งสองเต้า…ว้ากกกกกกกกก~~…นี่ใช่เวลามาดูที่ไหนเล่า!?)
“ผม…ผมขับรถอยู่”
“ก็ถึงบอกให้ช้าๆไง”
“พี่…พี่ตั้งใจ?”
“อ่ะ!…ดูให้ดีๆ”
“ว้าว~~…อุ๊บ!!”
“ชอบหรือเปล่า?”
“ผะ…ผะ…ผม”
“อย่าคิดมาก…เป็นการขอโทษที่พี่ถือวิสาสะจับของเธอ”
…จะไม่ให้คิดมากยังไงไหวเล่า?…สาวเจ้าผมยาวเลิกกระโปรงจีบสั้นขึ้นเกือบครึ่งจนกางเกงในสีชมพูแผลมออกมา…อู๊ย~~…ขนสีดำที่ซ่อนอยู่ด้านหลังผืนผ้าอันบางเบานั้น…บ้าจริง!!!…ตัวของผมร้อนขึ้นเรื่อยๆคล้ายกับเป็นไข้และเหงื่อเม็ดโป้งๆก็ผุดขึ้นทั่วร่างกายทั้งที่ในรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำ…
“ใหญ่ขึ้นนี่…”
“อย่ามอง!!”
“เธอดูของพี่ซะตาแทบถลนแต่ทีพี่จะมองมั่งทำเป็นห้าม…เอาเปรียบ–”
“ถึง…ถึง…ถึงอาคารแล้ว…ผมลงล่ะ!!!”
(โธ่ว้อยควยแข็งปั๋งเลย!!!!…ถ้าขืนเราขับต่ออีกไม่กี่เมตรมีหวังทั้งคนทั้งรถได้ปีนขอบทางเท้าพุ่งเข้าชนประตูอาคารเรียนแหงๆ)
“แล้วก็อย่าไปบอกฝนนะ…จะหาว่าพี่ไม่เตือน”
“ติดกระดุมเสื้อเถอะ…อยากจะโชว์ไปถึงไหน?”
“พี่กะว่า…จะโชว์ให้ผู้ชายแถวๆนี้น้ำลายหกเล่นอีกสักหน่อย…ดีไหม?”
“………………………………………….”
…พี่แคทเอ่ยพลางมองด้วยแววตาคล้ายๆจะยิ้มเยาะผม!?…ผู้ชายแถวๆนี้ในความหมายของเธอไม่มี “ใครอื่น” หรอก…
(ยิ้มไม่ค่อยเก่งรึ?…ทำตาเซ็กส์ซี่ไม่ค่อยเป็นรึ?…ทว่าไอ้ที่พี่ทำให้ดูเมื่อกี้นี่ถือเป็นอาวุธที่ร้ายกาจขนาดทำให้ชายหนุ่มมากมายคลั่งตายได้เลยนะ!!!!)
…………………………………………………………………………………………………………………….

“ตกลงมึงกับน้องฝนเป็นอะไรกันแน่?”
“เป็นลูกพี่ลูกน้องแน่เรอะ?”
“ถามอะไรไม่เข้าท่า”
“ก็เห็นมาคอยเฝ้าอยู่ทุกวันนี่หว่า…มึงรู้มั้ยว่าเค้าลือกันไปทั่วแล้ว?”
“พวกมึงก็เชื่อ?”
“เปล่า–…กูไม่สงสัยเหตุผลของพี่แคทแต่”
“ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละโว้ย!!!”
“…ทำเพื่อพี่สะใภ้อย่างงั้นเหรอ?”
“……………………………………….”
“พักเบรกสิบนาทีนะครับ…กลับมาอาจารย์จะทดสอบบทเรียนที่สอนไป”
…ฉิบหา-แล้วไง!!…บทเรียนไม่เข้าหัวสมองเลยเพราะมัวแต่ไปคิดถึงซอตเด็ดกระชากใจของพี่แคทซ้ำไปซ้ำมาจนปวดกระดอไปหมดแล้วทีนี้จะทำประการใดดีเล่าไอ้คุณเอกคเชนทร์?…
“ลงไปเดินเล่นข้างล่างกันเถอะ”
“ไม่ล่ะฉันต้องทบทวนบทเรียน…เดี๋ยวจะสอบย่อย”
“แหงะ!!…เวลาเรียนมัวทำอะไรอยู่น่ะ?”
“ก็…”
“?”
…อึ๋ย!!…ฟุ้ง…ผมฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว!!!…เห็นหน้าฝนเป็นพี่แคทไปเสียได้แต่พวกเธอก็พี่น้องกันนี่หว่า…เอ๊ะผมกำลังบ่นบ้าอะไร?…
(ตั้งใจท่องหนังสือสิโว้ย!!!)
“วิ…วิธีที่นิยมใช้กันมากคือ…เฮ้ย!!”
“อะไรอ่ะ?”
“มานั่งใกล้ฉันทำไมเล่า?”
“เอ๋?…ทุกทีเค้าก็อยู่กับตัวเองตลอดนิ”
“ออกไปห่างๆก่อน…ฉันไม่มีสมาธิ”
“แปลกคนจังเลย~~”
…แต่แทนที่จะไปให้ลับสายตาล่ะก็เปล่า…สาวน้อยจอมแก่นแค่ลุกไปนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วก็มองผมตาแป๋วแหวว…ฝนน่ะไม่รู้เรื่องรู้ราวหรอกแต่ผมนั่นแหละที่หยุดคิดไม่ได้และผลของการสอบย่อยก็คือผ่านแบบฉิวเฉียดชนิดเจียนอยู่เจียนไป…
“นี่!!…ที่ตัวเองบอกว่าอยากให้เจ๊ทำคะน้าผัดปลาอินทรีย์ให้กิน…จะบ้าบิ่นไปรึป่าว?”
“แย่มากเลย?”
“ไม่อยากนึกภาพเชียวละ…เจ๊เค้าไร้ทักษะด้านนี้และมือก็หนักเกินไปด้วยคือคุ้นเคยกับดาบมากกว่ามีดทำครัว…ครั้งนึงเค้าเคยให้เจ๊ช่วยหั่นเนื้อแต่เพราะความที่ใช้มีดไม่ถนัดจึงยกแขนขึ้นสูงสับเอาๆจนเขียงขาดเป็นสองท่อนเลยขอบอก”
“ฮะๆๆ…ตลกชะมัด”
“ฉะนั้นอย่าเสี่ยงดีกว่า…ถ้าบอลอยากกินฝนจะทำให้”
“………………………………………….”
“เลิกเร็วนะ”
(อุ!!…เขินจนไม่กล้ามองหน้าหญิงสาวเจ้าของยกทรงสีชมพูกับหน้าอกขาวอวบและกางเกงในสีชมพูกับเส้นขนดำขลับ…น่าเจ็บใจตัวเองจริงๆทำไมเราถึงไม่ดูให้นานกว่านี้ว๊า!?)
“เจ๊…ไปตลาดซื้อของ”
“อืม”
“ตัวเองเหม่ออะไรอีกน่ะ?…ขึ้นรถสิ”
“อะ…เอ้อ!!”
………………………………………………………………………………………………………………………….

…พวกเราแวะซื้ออาหารสดที่ตลาดนัดใกล้บ้าน…ที่นี่คนไม่เยอะพลุกพล่านและราคาก็ไม่แพงเพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเอาผลผลิตที่ปลูกเองมาขาย…
“หนูเอาไข่มดแดงมั้ยจ๊ะ?”
“โอ้!…น่ากินจัง”
“จะไปทำยังไงล่ะ?”
“ก็แกงผักหวานใส่ไข่มดแดงไง”
“วันนี้พี่สาวไม่มาเหรอ?”
“มาจ้ะมา…เห็นเดินอยู่ตรงนั้น…อ้าว!?”
“หายไปไหนไม่รู้”
“คงจะอยู่แถวๆนี้แหละ…ลุงจ๋า~~…ผักวันนี้สวยมั้ยอ่ะ?”
“ยังสวยสู้หนูไม่ได้ร้อก!!…ฮ่าๆๆ”
“ว้ายตายล่ะ!!…ระวังป้าเค้าได้ยินจะตีหัวแตกนะเออ~~”
“ฮะๆๆ…สำหรับสาวน้อยน่ารักอย่างหนูน่ะลุงเต็มใจ”
…มาอยู่แถวนี้ยังไม่ถึงเดือนแต่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างรู้จักฝนกันเกือบหมดแล้วเพราะความที่เจ้าหล่อนมีอัธยาศัยดีชอบพูดชอบคุยและก็ไม่ถือตัวดังนั้นเวลามาซื้อของจึงมักจะได้ของแถมกลับไปด้วย…
“ซื้อปลาเนื้ออ่อนมั้ยเดี๋ยวน้าแถมให้?”
“อืม–…ปลายังสดใหม่…เอาไปทอดก็ดีนะบอล”
“ทำต้มยำก็อร่อย”
“น้าต้องแถมให้หนูจริงๆนา?”
“จะเพิ่มให้เป็นพิเศษเลย…ว่าแต่พี่สาวไม่มารึ?”
“มาจ้ะแต่อยู่ไหนไม่รู้”
“พี่หนูนี่ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยยิ้มกับใครเลยนะ?”
“เค้าเป็นแบบนั้นเองจ้ะน้า!…อย่าไปถือสา”
“แต่เธอสวยมาก…มานี่ทีไรคนก็แตกตื่นอย่างกับเห็นดารา”
…เพราะเหตุผลนี้ล่ะมั้งพี่แคทถึงไม่ค่อยอยากมาเดินในตลาด…บางทีคงจะกลับไปรอที่รถแล้วก็ได้…
“จะเยอะไปหรือเปล่า?”
“นี่ยังไม่หมดนะ…เค้ามีของจะซื้ออีก”
“เฮ่ย!…เอาไปทำอะไรนักหนา?…มีกันแค่สามคน”
“เผื่อป้าเอ็มจะมาบ้านไง…ฝากตัวเองไปไว้ที่รถสักรอบล่ะกัน…บอกให้เจ๊มาหาเค้าด้วย”
“………………………………………….”
“………………………………………….”
(นึกว่าหายไปไหนที่แท้ก็กำลังก้มๆเงยๆอยู่หน้าทางเข้า)
“หาอะไรครับ?”
“พี่ทำหวีหล่น”
“หาในตลาดหรือยัง?”
“เมื่อกี้ไปหาดูแล้วแต่ไม่เจอ…พี่จะต้องหาให้เจอเพราะหวีอันนี้พี่เซคซื้อให้”
“พี่ไปหาในตลาดอีกทีเถอะส่วนผมจะช่วยหาแถวๆนี้จะได้ไปช่วยฝนถือของด้วย…ขานั้นติดลมบนจะเหมาหมดทั้งตลาดแน่มั้ง?”
“เข้าใจแล้ว…นี่กุญแจ”
“หึ!…แต่แค่หวีอันเดียวก็หาซะขนาดนั้น”
“…………………………………………”
“?”
“ขอเวลาสักครู่จะได้ไหมขอรับ?”
…เอ้ย!?…ไอ้คนนี้แต่งตัวแปลก!!!…อากาศร้อนอบอ้าวแต่ใส่ชุดคลุมยาวเกือบถึงเท้าแถมสวมถุงมือด้วย…
“…มีธุระอะไรกับผม?”
“ในมือซ้ายแลมือขวาของกระผมมีไพ่อยู่ 24 ใบ…คุณช่วยกรุณาเลือกสักหนึ่งใบ”
“อะไร?”
“เชิญเลือกตามใจชอบขอรับ”
“คุณ…เป็นหมอดูเรอะ?”
“…………………………………………”
“ขอโทษที…ผมไม่ค่อยเชื่อถือพวกหมอดูหมอเดาเท่าไหร่นักหรอก”
“…คุณ…กำลังมีเรื่องกลุ้มใจอยู่สินะขอรับ?”
(ฮะ!…มามุกนี้จริงๆด้วย)
“แลก็น่าจะเกิดจากญาติพี่น้องของคุณเอง…ถูกต้องหรือไม่ขอรับ?”
(เฮ้ย!?)
“…คุณรู้ได้ยังไง?”
“กระผมจะตอบคำถามนั่นก็ต่อเมื่อคุณเลือกไพ่หนึ่งในยี่สิบใบนี้ขอรับ”
“…………………………………………”
“…………………………………………”
“เอ้า!!”
…หน้าตาก็ไม่เห็นเพราะใส่แว่นกันแดดกับสวมหมวกปีกกว้างและเป็นคนร้ายหรือเปล่าไม่รู้แต่ผมคอยระวังตัวอยู่แล้วอีกอย่างดูรูปการก็น่าจะเป็นผู้ชายเพราะพูดแทนตัวเองว่า “กระผม” แต่ไอ้ลงท้าย “ขอรับ” นี่มันอะไรกันฟะ?…
(หลุดมาจากลิเกโรงไหน?)
“คุณเกิดช่วงเวลาเจ็ดโมงถึงแปดโมงเช้าใช่หรือไม่ขอรับ?”
“ฮ้า!!!…ระ…รู้ได้ไง?”
“ก็คุณเลือกได้ไพ่ใบนี้”
“ผมขอดูหน่อย!!!!”
…ไพ่ที่ว่าไม่ใช่ของพิสดารอะไรแต่เป็นแผ่นกระดาษแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีขาวและเขียนเลข “7” แค่ตัวเดียวด้วยหมึกสีแดงพลิกหน้าพลิกหลังก็ไม่มีอะไรที่เป็นพิรุธหรือทำเครื่องหมายพิเศษ…
“แล้วไง?…ผมเกิดตอนเจ็ดโมงเช้าจริงแต่มันก็แค่บังเอิญ”
“เช่นนั้นคุณลองดูไพ่ที่เหลือในมือกระผม”
“เลขศูนย์ถึง…เลขยี่สิบสาม…ยัง…ผมยังไม่เชื่อหรอก!!!”
“งั้นคุณเลือกใหม่”
“ได้”
…ผมส่งไพ่หมายเลขเจ็ดคืนจากนั้นเขาก็กางไพ่ทั้งยี่สิบสี่ใบให้ดูเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีลูกเล่นอะไร…
“คุณจะจับได้เลขเจ็ดอีกครั้ง…อย่างแน่นอน”
“มั่นใจ?”
“ขอรับ…เพราะนั่น…คือชะตาชีวิตของคุณ”
…ชายคนนี้ใช้มือซ้ายและขวาสับไพ่ทั้งหมดอย่างคล่องแคล่วซึ่งผมก็พยายามดูที่มือของเขาเป็นจุดเดียวแต่มันเร็วซะจนมองตามไม่ทันเลย!?…ฮึ!!…ท่าทางมั่นอกมั่นใจมากทีเดียวนะว่าผมจะเลือกได้ไพ่หมายเลขเจ็ดเป็นครั้งที่สอง…
“เชิญขอรับ”
“…จะเลือกล่ะนะ”
“…………………………………………..”
“นี่”
“…………………………………………..”
“ว่าไง?”
“กระผม…หาได้กล่าวผิดแต่อย่างใดไม่”
“เฮ้ยเอามาดูซิ!!!…มันเกิดอะไรขึ้นไพ่มีตั้งเยอะแยะแต่จับได้อยู่ใบเดียว?”
“กระผมก็บอกแล้วว่านี่คือชะตาชีวิตของคุณ”
“ขออีกครั้งๆ”
“หากจับได้หมายเลขเจ็ดอีกล่ะขอรับ?”
“มันจะไม่มีครั้งที่สามหรอก!!”
“……………………………………….”
(เร็วจริงวุ้ย!!!…ตกลงเจ้านี่มันเป็นหมอดูหรือเซียนไพ่กันแน่?)
“สิบสองใบในมือซ้ายแลสิบสองใบในมือขวา…เชิญขอรับ”
“คราว…คราวนี้แหละ!!!”
…ผมใช้วิธีเล็งว่าจะเลือกแต่เปลี่ยนใจไปหยิบอีกใบทันทีและทีนี้ผลมันจะต้องออกมาแตกต่างจากสองครั้งแรกแน่…
“ว่าไงล่ะครับ?”
“………………………………………..”
“บะ…บ้าน่า!!!!”
“สามครั้งผลลัพธ์เหมือนกันทั้งหมด”
“ผมจะต้องเป็นคนโง่ใช่มั้ยถ้ายังดื้อไม่ยอมรับอีก?”
“มิได้…นั่นคือความคิดของตัวคุณเองแลกระผมก็มิได้บังคับให้เชื่อ”
“หาก…ใครไม่เจอกับตัวเองไม่มีทางรู้จริงๆแต่เมื่อครู่คุณพูดออกมาว่าผมมีเรื่องกลุ้มใจที่สาเหตุเกิดจากญาติพี่น้อง”
“ขอรับ”
“ผม…กำลังกลุ้มใจจริงๆ”
“เช่นนั้นกระผมก็อาจช่วยเหลืออะไรได้บ้าง…กระผมรับปรึกษาปัญหาต่างๆและช่วยชี้แนะแนวทางตามสมควรทว่าก็มิได้โน้มน้าวให้ผู้ใดมาเชื่อถือดอก…หากคุณสนใจใคร่รู้ก็ขอเชิญติดต่อมาตามที่เขียนไว้ให้แลกระผมจะแจ้งสถานที่กับนัดหมายวันเวลาอีกครั้ง”
(นามบัตร?…ไม่ใช่…แค่กระดาษจดเบอร์มือถือเท่านั้นแต่ชื่อที่อยู่ไม่มี)
“แล้วคุณชื่ออะไร?”
“…ตะวันอัสดง…สำนักหมอดูประจิมลิขิตขอรับ”
“……………………………………….”
“ถือเป็นกรณีพิเศษ…ช่วงนี้ระวังตัวไว้บ้างก็จะดีนะขอรับ”
“?”
“มันน่ากลัวขอรับ…เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผีน่ะ”
“สาวสวย…น่ากลัวกว่าผี?…เอ่อ–…ผมไม่เข้าใจความหมายเลย”
“ยิ่งเฉพาะยามวิกาล…เรียกว่าต้องลุ้นระทึกกันกลางดึกเชียว”
…ลุ้นระทึกกลางดึก…เมื่อสาวสวยน่ากลัวกว่าผี…พวกหมอดูหมอเดาชอบพูดคลุมเครืออย่างนี้กันทุกคนหรือเปล่า?…
………………………………………………………………………………………………………………………….

…กลางดึกคืนนั้น…
“หลับไม่เต็มตาโว้ยให้ตายซี่!!…หมอดูคนนั้นถึงจะแปลกๆแต่ก็ทำนายเวลาเกิดของเราได้แม่นยำทั้งที่ไม่เคยบอกด้วยไพ่…ไม่…เรียกว่ากระดาษแข็งทำเองถึงจะถูก”
(สับไพ่เร็วขนาดนั้นสงสัยเคยเป็นเจ้ามือที่บ่อนไหนสักแห่ง!?…ต้องใช่แหงๆ)
“……………………………………….”
“เอ้ย!?…ยัยผีแอบเข้ามานอนกับเราอีกแล้ว?”
“งั่มๆ”
“วา–…ท่าทางจะละเมออยู่เสียด้วย”
“……………………………………….”
“แต่ไม่เข้าใจสักทีว่าทำไมฝนเวลามานอนที่ห้องเราจะต้องสวมผ้าคาดตา?…จะว่าเป็นคนหลับยากก็ไม่ใช่”
“อือออออออออ~~”
“หึ!!…เมื่อก่อนหน้าตามอมแมมผิวดำกร้านหัวหูก็ดูแทบไม่ได้แต่พอโตเป็นสาว…ฉิบ…ฉิบหา-แล้ว!!!!”
“……………………………………….”
…จะอะไรซะอีกเล่าก็ช่วงที่คุณเธอขยับขานั้นกางเกงนอนมันหลุดร่นลงมาได้ไงไม่รู้!?…ในความมืดที่ยังพอมีแสงสลัวๆนี้ผมแลเห็นกลุ่มเส้นผมตรงนั้นเพราะญาติสาวผู้น้องไม่ได้สวมใส่กางเกงชั้นใน…
“ถะ…ถ้าสว่างกว่านี้สักหน่อยแม่งก็เห็นหมดเลยนะโว้ย!!!”
“อื๊ออออออออออ”
“ยัยขี้เซาตื่น!!”
“คิกๆ…ฮื่ออออออออออ”
“ยังจะละเมอหัวเราะแน่ะ!?”
“จั๊บๆๆ”
…พยายามแตะตัวอยู่นานเพื่อจะให้ตื่นแต่สาวน้อยก็หลับสนิท(กัดฟันอีกต่างหาก)อย่างไม่รู้สึกรู้สาเลยต้องคว้าผ้าห่มมาปิด…ไม่…ไม่ได้!!…ผมเป็นหนุ่มสุขภาพดีคิดเรื่องลามกทุกวันนะฉะนั้นจะอยู่ใกล้เชื้อไฟคงไม่ใช่เรื่อง…ออกไปเดินเล่นสงบสติอารมณ์น่าจะดีแม้ยังรู้สึกหวาดๆ(ผี)อยู่บ้างก็เถอะ…
(แต่ขืนอยู่ในห้องต่อไปยังไงมันก็อดจะเหลือบมองไม่ได้และมีแนวโน้มที่จะก่อคดีเพราะหน้ามืด)
“สบายๆนี่บ้านเราเอง…เอ๊ะพี่แคท?”
“…………………………………………”
“ดึกดื่นป่านนี้ยังมีแก่ใจมานั่งดูทีวีอีกแน่ะ…ไฟก็ไม่เปิดด้วย…อุ๊บ!”
(คุณเธอกำลังดูหนังผีญี่ปุ่นที่ฝนซื้อมาจากตลาดนัดเมื่อช่วงเย็น…สองพี่น้องนี่ยังไงชอบดูหนังสยองขวัญทั้งคู่เลย?)
“พี่ช่างเป็นคนจิตแข็งเหลือเกิน”
“…อย่าไปกลัวมันนักเลย”
“!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“…………………………………………”
(หัวใจแทบจะหยุดเต้น…ไม่…มันคงหยุดไปวินึงแล้วล่ะ)
“ฮั่กๆ…ผะ…ผม…ผมเข้าใจความหมายละ!!…อูย~~…ตกใจหมด!!!!”
“เข้าใจอะไร?”
“เมื่อ…สาวสวยน่ากลัวกว่าผีไงครับ”
“เสียมารยาทที่สุด!!!…พี่ทาครีมบำรุงหน้าอยู่ต่างหาก”
…ประโยคที่หมอดูเอ่ยไว้เมื่อตอนเย็นคงจะหมายถึงพี่แคทที่เวลานี้พอกหน้าด้วยครีมบำรุงซะขาววอกไปหมดและดวงตาสองข้างของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยแต่ยังไม่เข้มขลังเท่ากับครั้งอาละวาดที่หอพักเก่า…
“งั้นลูกกะตานั่นมันอะไร?…เข้าโหมดสุริยะโลหิตอีกแล้วเหรอ?”
“ไม่ใช่…หลับสนิทและตื่นนอนใหม่ๆมันก็แดงแบบนี้แหละ…ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็หาย…อ้อ!…ไม่เคยสงสัยบ้างรึว่าฝนใช้ผ้าคาดตาทำไม?”
(แสดงว่ายัยจอมแก่นไม่อยากให้เราเห็นดวงตาที่แดงโร่เพราะกลัวเราจะตกใจ!?)
“ตื่นนอนกลางดึกมาดูหนังสยองขวัญ…ผมเพิ่งจะเคยเห็นก็คราวนี้”
“ยกมือไหว้ซะ…สำหรับคนลามกอย่างเธอต้องหนังโป๊ล่ะมั้งถึงจะปกติ?”
…ไม่จริง!!!…ถ้าผมลามกบ้ากามอย่างว่าป่านนี้น้องสาวสุดที่รักของพี่เสียความบริสุทธิ์ให้ผมไปนานแล้ว…
………………………………………………………………………………………………………………………….

…ส่วนอีกด้านหนึ่ง…เมื่อแน่ใจว่านายบอลออกจากห้องไปแล้วสาวเจ้าหยาดฝนก็ดึงผ้าคาดตาออกพลางพูดกับตัวเอง…
“แหม~~…ใจไม่กล้าเอาซะเลยนึกว่าคืนนี้จะมีอะไรดีๆเสียอีกแต่ช่างเหอะ…ฮิๆ…อยากรู้นักว่าจะใจแข็งไปได้ถึงไหน?”
………………………………………………………………………………………………………………………….

…ตัวอย่างในตอนหน้า…

“เธอไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน?”
“จะพูดว่าบังเอิญหรือโชคชะตานำพาก็ได้จ้า!!”
“นั่นคือความสัมพันธ์ต้องห้ามนะ”
………………………………………………
“นี่ตกลงพี่แคทไปทำอะไรมากันแน่?…แล้วจะให้ผมขับไปถึงไหน?”
“…น่าจะอยู่แถวๆนี้…นั่นไง!!…เลี้ยวเข้าไปเลย”
“เอ๊ะนี่มัน?…โรงแรมม่านรูด!!!!”
……………………………………………..
“แกจะมาเป็นคนดีเอาป่านนี้ฉันว่ามันสายไปซะแล้วมั้ง?…ไอ้สุภาพบุรุษจอมปลอม”
“ถ้าผมเป็นสุภาพบุรุษจอมปลอม…งั้นพี่ก็คือสุภาพสตรีขี้เหล้าที่ไม่มีคุณสมบัติจะไปเป็นเมียที่ดีกับแม่ที่ดี”
“โอ้!?…ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครบังอาจจะสบประมาทฉันได้ถึงขนาดนี้…แกกล้ามาก!!!”
…………………………………………………………………………………………………………………………..

…ทีนี้เชื่อกันหรือยังว่าบางครั้งสาวงามก็น่ากลัวกว่าภูติผีหลายเท่านะ?…
………………………………………………………………………………………………………………

Share the Post:

Related Posts

วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่

เรื่องเสียว วันวุ่นวายกับเจ้านายควยใหญ่ วันนี้ละอองฟองถูกเรียกเข้าไปในห้องของหัวหน้าอีกแล้ว เธอรู้ดีว่าเธอต้องทำอะไร ในเมื่อหน้าที่การงานของเธอนั้นไม่ได้ทำมันออกมาดีเหมือนที่เธอคิด แต่เธอไม่ได้ต้องการออกจากบริษัทแห่งนี้ ละองงฟองพยายามที่จะเข้ามาอ้อนวอนคุณภพ หัวหน้าของเธอ บอกกับเขาว่าเธอจะพยายาม ไม่ว่าจะให้ทำอะไรก็ได้ เธอยอมทุก ๆ อย่าง…และใช่ เรื่องเสียวคือเรื่องเสียวที่ถูกเอ่ยออกมาจากปากของคุณภพ วันนี้งานเหนื่อยทั้งวัน ละอองฟองยังคงต้องแก้งานมากมายในเวลานี้ ซึ่งมันไม่ได้น้อยเลย แต่เมื่อมันเสร็จแล้ว ก็ยังต้องมาสรุปรวบยอดใหม่ งานทุก

Read More

ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก

เรื่องเสียว ลองเย็ดกันดูเฉย ๆ ไม่เป็นไรหรอก เราเริ่มจูบกันแล้วครับ จะบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นหหลังจากนี้ไม่รู้ ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าเราต่างฝ่ายต่างมีความต้องการซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เราเงี่ยน เราอยู่ในวัยอยากรู้อยากเห็น เรื่องเสียวกลายเป็นเรื่องราวยอดฮิตสำหรับคนรุ่นนี้แล้ว และผมเองก็ไม่อยากจะอายเพื่อน เพราะต้องยอมรับว่าตัวเองยังซิงอยู่ ทั้ง ๆ ที่กำลังจะเรียนจบมอปลายแล้วแท้ ๆ ดังนั้น ในวันที่ผมไปปดูหนังกับแฟนของผมรุ่นน้องมอห้า เธอก็ชวนให้ผมไปนั่งเล่นที่บ้านของเธอก่อน

Read More