ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 13

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 13

ตราบเท่าที่ยังมีชีวิต ตอนที่ 13 “Ice Lady!!” 

“ทะ…ทำยังไงดีพี่!!!…มีคนอยู่ข้างนอก!!!”
…จอยหน้าตาหวาดหวั่นนั่งนิ่งแช่รูหีกดทับร่างผมซึ่งได้อมกลืนแท่งควยซะมิดมองไม่เห็นแม้แต่โคน…กิจกรรมโยกย้ายส่ายสะโพกต้องหยุดชะงัก…มีเพียงเสียงลมพ่นออกปากและเสียงหายใจของพวกเราเท่านั้นที่ถี่ระรัวไม่หยุด…น้องถามพี่แล้วพี่จะถามใครกันเล่า?
…ขณะนี้ไม่เข้าใจว่าความเสียวซ่านที่เกิดมันมาจากกิจกรรมร่วมเพศร่วมเสียวกับเด็กหญิง“ไอริณ”หรืออาการเสียวสันหลังเพราะว่ามีบุคคลมารู้เห็น“ความรักต้องห้ามในรั้วโรงเรียน”…
“ถามแล้วไม่ตอบน๊า~~…ไม่ต้องตกใจหรอกจอย…อ้อยเอง…พี่บอลก็คงอยู่ในนั่นด้วยสินะคะ”
…คนที่อยู่ข้างนอกคือน้องสาวผม?…
“อ้าว!!…อ้อยหรอ?…โอ้ย!!…ค่อยยังชั่ว…นึกว่าอาจารย์…อื้อออออ…งั้นก็ต่อกันเถอะพี่”
…พอรู้ว่าคนนอกห้องคือเพื่อนรัก…จอยถึงกับเป่าปากเฮือกใหญ่อย่างโล่งอกแล้วก็โยกคลึงสะโพกร่อนต่อ…ผมก็พลอยโล่งใจไปเป็นกองเสยควยสวนสู้เช่นเดียวกัน…ทีแรกมันทำท่าจะหดกลับพองตัวแข็งยืนหยัดสู้แรงบดกระทั้นซึ่งถาโถมเข้ามาอีกครั้ง…
“โอววววว…ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วพี่…ซีดสสส…มีคนเป็นต้นทางให้เราแล้ว…อื๊อออออ”
“เออ!!…ยัยบ้า!!!…รีบเย็ดให้เสร็จๆเถอะ…เกิดมีอาจารย์หรือใครมาจะแย่”
“ระ…รู้แล้วน่า…อ้าสสสสส…พี่ขา…น้ำหีจอยไหลเต็มรู…เยิ้มไปทั่ว…อุ๊ก!!”
…จอยยกก้นกระแทกหน้าขาพั่บๆๆ…เที่ยวนี้เธอขย่มแบบนันสต๊อปเหมือนต้องการให้น้ำควยผมกระฉูดอย่างรวดเร็ว…
“อ๊าวววว…พี่บอลขา…ยอดไปเลย…ความรู้สึกนี้…รู้สึกแบบนี้…อูยยยยย”
…ความรู้สึกของเธอคือหวั่นใจว่าใครนอกจากอ้อยจะมาได้ยินเสียงเสพสุขกามรักซึ่งได้แปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นและคึกคนอง…จอยรวบรวมกำลังโยกบั้นท้ายส่ายเอวอย่างรุนแรงทำให้ผมร้องอย่างเหลืออดต่ออาการเสียวซ่าน…คล้ายขวัญมาก…เด็กคนนั้นเวลาเย็ดก็เรี่ยวแรงดีเหลือเกิน…ขณะนี้ตัวผมแทบจมลงไปในเบาะทุกขณะๆเพราะแรงขย่มบดหีขยี้อย่างนับครั้งไม่ถ้วนจากเด็กหญิงที่อายุน้อยกว่าเกือบ 5 ปี…
“อูววววว…จอย…น้องจอยจ๋า…สุดยอดๆๆ…โอออออ”
…จอยแยกขาออกยกตูดขึ้นสูงและบดขยี้ลงมาอย่างแรงหลายต่อหลายครั้งติดต่อกัน…ทั่วร่างเธอสั่นเทาและเขม็งเกร็ง…
“อ๊าาาาา…เสียวแทบน้ำหีเล็ด…ลีลาจอย…ปะ…เป็นไงคะ…เด็ดมั้ย?”
“เด็ดดวง…หีจอยรสชาติเด็ดจริงๆ…พี่อร่อยควยเหลือเกิน…มาขอพี่เด้งสู้บ้าง…น้องจะได้ไม่เหนื่อย…อึบบบ…อ้าสสสส…รู้มั้ย…พี่ชอบหีเด็ก…เด็กผู้หญิงอย่างน้องๆเย็ดมันส์…โอววววว…พี่ชอบทุกคน”
…เสียงอ้อยเงียบไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้…เธอคงเงี่ยหูฟังพี่ชายกับเพื่อนรักเย่อควยแอ่นหีเย็ดโต้ตอบด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านไม่น้อยแน่ๆ…
“อ้อยยังอยู่หรือเปล่าจ๊ะ?…อุ…อูยยยย”
“อยู่ค่ะพี่…ไม่ต้องเป็นห่วง…มะ…ไม่มีใครมาค่ะ”
…เสียงน้องสาวดังขาดช่วงเช่นนี้แสดงว่าเธอหงี่เงี่ยนจริงๆ…ทำไงได้น้องรักพี่อยากให้อ้อยเข้ามาด้วยแต่จอย(กับผม)ดันเอาสิ่งกีดขวางปิดประตูซะแน่นหนา…ครั้นจะลุกเปิดให้เด็กน้อยใส่แว่นก็กําลังบีบไหล่ยกตูดขย่มควยพรึ่บพรั่บอย่างบ้าระห่ำแถมอารมณ์เสียวสยิวมันจะสะดุดไม่ต่อเนื่อง…
“อ๊อก!!…โอ้ยยยย…หนูใกล้เสร็จแล้ว…ควยพี่ครูดแตดจอยทุกที…อึ๊ยยยยย…เสียวจะขาดใจตายอยู่แล้วววว…ถ้าพี่ชอบ…หีจอย…ก็เย็ดให้หนูหีแหกน้ำแตก…เร็วเข้า…ซีดสสสสสส”
…ผมจำเป็นต้องลืมน้องสาวชั่วคราวก่อนรีบปฎิบัติการส่งสาวน้อยเด็กเรียนใส่แว่นวัย 14 ไปสวรรค์ซะที…ก้นขาวๆถูกมือผมบีบขยำเป็นรูปมือสีแดง…ผมเกร็งฟันจับบั้นท้ายเด็กหญิงกระแทกขึ้นลงพร้อมสวนควยตัวเองเป็นระวิง…จอยตัวสั่นพั่บๆส่ายหน้าบีบนมลูกน้อยๆครางอย่างกระสันต์หฤหรรษ์…
“อูยยยยย…โอววววว…ครั้งนี้…พี่บอลออก…ข้างนอกนะคะ…ซีดสสสสส…จอยอยากให้อ้อยเห็นน้ำควยของพี่”
…เอ้ย!!…แล้วน้องก็ไม่บอกก่อน…ผมก็จะน้ำแตกจวนพุ่งแหล่มิแหล่…เราเปลี่ยนท่าเป็นเย็ดท่าหมาอีกครั้งเป็นการส่งท้าย…ผมกระเด้าไม่กี่ครั้งสาวน้อยก็กรีดร้องอย่างมีความสุขโดยไม่ยอมอดกลั้นเสียงไว้อีกแล้ว…
“กรี๊ดดดดด!!!!…ออกแล้วววว”
…พี่ก็จะออกแล้ว!!!!…หีบีบควยเหลือเกิน…อาาาาา…ทั้งดูดทั้งตอดแน่นหนึบไปหมด…แม้จะติดใจในความกระชับของช่องรักของจอยจนอยากน้ำแตกข้างในอีกครั้งแค่ไหนแต่ต้องอดใจไว้…พยายามตัดใจดึงมังกรออกจากถ้ำจ่อมันไปที่ร่องก้นเด็กหญิงและพุ่งน้ำควยปรี๊ดเป็นสายสีขาวปะทะเลอะเปรอะแก้มก้น…จอยพลิกตัวนอนตะแคงทำให้น้ำสืบพันธุ์ไหลไปทางช่องคลอดไม่ได้…ท่อนเอ็นกระตุกเป็นระยะพลางส่งน้ำขาวขุ่นคาวคลุ้งออกเป็นชุดๆ…ผมเหงื่อไหลโทรมร่างรู้สึกราวกับจะเป็นลมหน้ามืดเพราะภายในห้องมันร้อนอบเหลือเกิน…รวบรวมแรงลุกดันรถเข็นเก็บลูกบอลออกและเปิดประตู…อ้อยรีบก้าวมาข้างในโดยไม่ลืมปิดประตูล๊อคชั่วคราวพอเธอเห็นสภาพของพี่ชายและเพื่อนสาวก็หน้ามุ่ยบ่นอุบอิบ…
“หมดสภาพ…รีบลุกซิยะหล่อน…นี่น้ำ…เช็ดหน้าล้างตัวล้างหีซะ…น้ำเงี่ยนเต็มตูดเลย…พี่ก็ด้วยค่ะ”
“ช่วยพยุงหน่อยอ้อย…โอย~~…ระบมขาจัง…เล่นวอลเลย์ก็ยังไม่ใช้แรงมากขนาดนี้”
“เดียะ!!…ทำครวญ…เตะขาพับซะดีมั้ง?”
“อ้อยนี่รู้ใจดีจริงๆ…มาให้พี่หอมแก้มทีสิ”
“อย่าเพิ่งเข้ามานะคะ…กลิ่นคาวหึ่งเชียว…รีบๆล้างตัวซี่…ช้าเดี๋ยวมีใครมาเห็น”
“ไม่มีใครมาใช่มั้ย?”
“ถ้ามีมาเธอจะอยู่รอดปลอดภัยเห็นหน้าฉันอีกหรือยะ?”
“อุแหม…ขอบใจๆ”
…พวกเราล้างเนื้อล้างตัวแบบลวกๆและรีบแต่งตัวตามเดิม…พอแน่ใจว่าไม่หลงลืมเหลือหลักฐานอะไรไว้ในห้องแล้ว…จอยก็ปิดประตูห้องเก็บอุปกรณ์ตามเดิม…คราวนี้เป็นการถาวร?…
…………………………………………………………………………………………………………

“มอมแมมเชียวนะ 2 คนเนี้ย~~”
…น้องสาวยังกอดอกค่อนแคะพี่ชายกับเพื่อนรักไม่มีเลิกราขณะเดินไปหน้าโรงเรียนด้วยกัน…
“อ้อยรู้ได้ไงว่าจอยอยู่นี่?”
“จะยากอะไร?…ก็เธอเคยพูดเองนิว่าจะพาพี่บอลมาที่นี่…แหม~~…พอยัยขวัญอวดเข้าหน่อยก็รีบแจ้นพาพี่ฉันมาทำสนุกสมใจอยากจนได้”
“ฮิๆๆ…คราวนี้จอยสมหวังแล้ว…ก็อ้อยน่ะใจดีแบ่งให้ฉันบ้างสิ…ตัวเองกกพี่บอลอยู่แล้วบ่อยๆน๊า~~”
“ไม่สมหวังก็แปลก…ทำพี่ฉันโทรมซะขนาดนี้…ขอบคุณอ้อยด้วยนะคะพี่…หนูอุตส่าห์มาคอยดูเป็นต้นทางให้”
“ขอบใจจ้า…น้องรักของพี่น่ารักจริ๊งๆ”
“กลิ่นยังมีติดตัวนะคะ”
“อ้อยไม่สานต่อรึ?…รู้นะว่าอยู่เป็นต้นทางแต่ก็คงแอบฟังฉันกับพี่บอลเย็ดกัน…แอบฟังเสียงครวญครางอย่างเร่าร้อนของพวกเรา…ฟังเสียงควยเฉาะกับหีจนชุ่มฉ่ำ…เงี่ยนไม่เบาสิท่า?”
“เฮ้ยๆๆ!!!…อย่ามายั่วกระสันต์ฉันนะยะแค่นี้ก็หีแฉะแย่แล้ว…ก็อยากคร่อมตอหรอกแต่พี่บอลหมดแรงหอบแฮ่กๆแบบนี้จึงยังไม่ซ้ำเติมดีกว่า”
“ห้องมันทึบก็เลยร้อนน่ะสิ…เหงื่องี้ไหลเต็มตัว…ตอนน้ำเงี่ยนพุ่งพี่แทบเป็นลม…หีจอยทั้งรัดทั้งตอด”
“พอได้แล้ว!!…พี่ก็จะแกล้งยั่วอ้อยอีกคนใช่มั้ยคะ?…ระวังเถอะยั่วมากๆจะโดนน้องสาวข่มขืนไม่รู้เนื้อรู้ตัว”
…อ้อยคงทั้งงอนทั้งเงี่ยนสังเกตจากแก้มงี้แดงสุกปลั่ง…ตอนช่วยพยุงเดินผมก็โดนเธอหยิกเอวซะทีหนึ่ง…
“ก่อนไปทำงานหนูจะคิดบัญชีพี่”
“โอ๋ย!!!…งั้นพี่ก็ทำงานไม่ไหวสิอ้อย”
“น้องไม่รู้หนูไม่รับทราบ!!…อยากแอบมาเอากันก่อนดีนัก…เตรียมใจไว้เลยนะคะ”
…สงสัยงานนี้มีหวังผมเหลือแต่หนังแน่มั้ง…จอยโบกมือบ๊ายบายด้วยความแช่มชื่นทั้งใจและกาย…เธอคงรู้ว่าต่อไปผมจะโดนน้องสาวสําเร็จโทษอีท่าไหน…
…………………………………………………………………………………………………………

…วันรุ่งขึ้น…
“บอล…ทำไมมึงถึงมากับพี่แคท…น้องฝนไม่มาเรียนเหรอ?”
“วันนี้ฝนไม่มา…ถ้าอยากรู้รายละเอียดมึงก็ถามตัวพี่สาวเองสิ…ชั้น 6 แน่ะ”
…ผมตัดบทรีบเข้าห้องเรียนปล่อยให้เชนไปถามพี่แคทเองว่าทำไมฝนน้องรหัสขวัญใจของมันถึงไม่มาเรียน…สักครู่ก็กลับ…คงได้คำตอบดีๆสมใจ…
“นี่เธอเหม็นหน้าใครมาจากไหนมิทราบครับ?”
“ฮ่าๆๆ…คงเหม็นตอนเห็นหน้าอุบาทส์ๆของมึงน่ะแหละ…พี่เขาพูดอะไรบ้าง?”
“กูถามว่าฝนเป็นอะไรทำไมถึงไม่มาเรียน…พี่แคทมองเขม็งตอบแบบไม่เต็มใจตอบว่าฝนไม่สบาย…
พอถามเป็นไข้หรือเป็นอะไร?…คุณเธอพูดเสียงขุ่นทันที…แค่รู้ฝนไม่สบายก็พอแล้วไม่จำเป็นจะต้องรู้อะไรมากนัก”
“กูนึกแล้วพี่เขาต้องพูดอะไรในทำนองนี้…ประจำ”
“พูดเสร็จหล่อนสาวเท้าสวบๆไม่มีเหลียวหลังกลับอีกเว้ย…ให้ตายสิ…หยิ่งเป็นบ้า”
…เคย์เพื่อนผมอีกคนหนึ่งในก๊วนเข้ามาร่วมวงสนทนาอีกคน…
“แต่กูชอบพี่เขามากๆว่ะ…บอลมึงช่วยหน่อยสิ…กูตัดสินใจแล้ว”
“อย่าเลย…กูขอเตือน…มึงรับมือพี่เขาไม่ไหวหรอกก็ดูพี่ยุทธของเราสิ…เป็นยังไงล่ะ?…หน้าแตกแหลกละเอียด”
“มึงอ้างแบบนี้อยากเก็บไว้กินคนเดียวใช่มั้ยเล่า?…หนอย!….มีแฟนน่ารักอยู่ทั้งคนแล้วยังจะคิดรวบสาวที่กูปิ๊งอีก”
“ไม่ใช่โว้ย!!…กูเตือนมึงนี่เพราะว่าโอกาสจีบพี่แคทสำเร็จมีน้อยกว่า 1 ในหมื่นอีก…รู้ไว้ซะ”
“พี่เขามีแฟนแล้ว?”
“เท่าที่กูรู้…ไม่มีหรอกมั้ง?…เดาตามนิสัยน่ะ”
“ไหงงั้น?…ครั้นจะเป็นเลสเปี้ยนหรือเป็นทอมแต่ท่าทางก็ไม่ใช่เลยนี่หว่า”
“ช่วยกูหน่อยสิ…นะกูขอร้อง…คนนี้น่ะใช่เลย”
…ใจจริงผมไม่ค่อยอยากช่วยไอ้เคย์สักเท่าไหร่…ไม่ใช่คิดจีบพี่เขาซะเองหรอก(แค่นี้ก็ปวดหัวมากพอ…ใครจะกล้ากันวะ?…ลูกพี่ลูกน้องกันอีกต่างหาก)แต่มีบทเรียนจากพี่ยุทธนามาหมาดๆจึงไม่อยากเสี่ยงส่วนสาเหตุที่ฝนไม่มาเรียนต้องนึกย้อนไปเมื่อเช้าเป็นเพราะว่าสาวน้อยจอมซนมิสร่างซาซื้อซุปหน่อไม้และผลไม้ดองมากินบรรเทาอาการเปรี้ยวปากกับสาและอ้อยตั้งแต่เย็นวานพอตอนเช้าวันนี้ก็ได้เรื่องเกิดอาการปวดท้อง…ร่างกายอ่อนเพลียต้องดื่มนํ้าเกลือแร่และกินยาแก้ปวดท้อง…แม่กวางบอกถ้าอาการไม่ดีขึ้นคงต้องนอนให้น้ำเกลือ…ผมยังจําหน้าตาที่แสดงออกถึงความหวาดกลัวไม่เข้าเรื่องเข้าราวรวมทั้งเสียงร้องโหยหวนของญาติสาวผู้น้องได้แม่น…หรือนี่คือจุดอ่อน?…
(“แง~~ไม่อาวนะป้า…ม่ายอ๊าว~~~ให้ตายยังไงฝนก็ไม่นอนโรง`บาล…ไม่ๆๆๆ”
…สาวเขี้ยวแหลมได้ยินถึงกับร้องจ๊ากยืนกรานดึงดันนอนคุดคู้กอดหมอนข้างแน่นหนาจะไม่ยอมไปโรงพยาบาลแม้แต่ห้องของสาเธอก็บอกจะไม่ย่างกรายออกไปสักเพียงก้าวเดียว…แม่กวางจะปลอบประโลมใช้น้ำเย็นเข้าลูบยังไงก็ไม่เอาท่าเดียว…อารมณ์พี่แคทจึงเกิดซ็อตฟิวส์ขาดดุน้องสาวสุดดื้อยกใหญ่ด้วยระดับความขุ่นเคืองที่ไม่น้อยเพราะเธอเคยสั่งห้ามไม่ให้กินของหมักของดองพวกนี้หลายครั้งแล้วแต่ฝนไม่เชื่อฟัง…ปกติชอบทำตัวเงียบๆไม่ค่อยสุงสิงกับใครแต่เวลาโมโหก็ว่าได้แสบสันต์เหมือนกัน…
“เห็นแก่กินตามใจปาก!!…เป็นไง?…นี่ไม่รู้ว่าจะเข็ดหลาบมั้ย…พี่เตือนตั้งหลายครั้งแต่ไม่เคยฟังกันบ้าง
…โรงพยาบาลน่ะถ้าอาการไม่ดีขึ้นมันก็จำเป็น…คุณป้าถ้าจะพาไปก็บอกแคท…หนูจะจับเด็กดื้อยัดใส่รถเองค่ะ…ถึงเวลานั้นต้องรักษาโรคกลัวเข็มฉีดยาให้หายขาดด้วย”
“อือ~~~”
…ฝนหน้าสลดซึมจ๋อยเมื่อถูกพี่สาวตําหนิเป็นชุดๆ…ผมเห็นแล้วชักสงสารรู้สึกว่าพี่แคทพูดแรงไปหน่อย…
“อย่าดุฝนเลยค่ะพี่…สาก็เป็นฝ่ายผิดที่ไม่ห้าม”
“อ้อยก็ผิดที่ไม่ช่วยห้ามพี่ฝนด้วยค่ะ”
“แล้วทำไมสากับหนูอ้อยถึงไม่เป็นอะไรอ่ะ?…ไม่แฟร์เลยนี่นา…ฝนเป็นคนเดียว”
“ก็คงเป็นเพราะว่าเธอกินมากกว่าใครเพื่อนน่ะสิ”
“เอาเถอะๆ…ไม่มีใครผิดทั้งนั้น…แม่จะหยุดงานวันหนึ่งอยู่ดูแลฝนเองจ้ะ”
“ขอบพระคุณมากค่ะคุณป้า…ถ้ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นรีบโทรบอกหนูนะคะ…ฟู่~~!!…เด็กคนนี้ทำไมชอบก่อแต่เรื่องยุ่งยากน่ารำคาญนักน้า~~…พ่อแม่ตักเตือนเท่าไหร่ๆก็ไม่ฟัง”
“พี่ใจร้าย!!…พี่แกล้งฝน…ใจร้ายๆๆๆ…คอยดูสิคอยดู…ต่อให้ตายหนูก็ไม่ไปโรง`บาลแน่…ฮึ!!”
“ฝน!!…ทําไมน้องถึงได้ดื้อแบบนี้?…ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”
…ฝนทิฐิพุ่งแรงไม่ยอมสนใจพลิกตัวคว้าผ้าห่มคลุมโปงนอนหลบหน้าพวกเราซะงั้น…หญิงสาวผู้พี่คงเบื่อหน่ายจึงไม่พูดไม่จาอะไรอีก…ผมอยู่ในเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดและได้ยินพี่แคทพูดทุกประโยค…อืม…ต่อว่าฝนอย่างโน้นอย่างนี้แต่เนื้อแท้ก็ร้อนใจห่วงใยน้องสาวมากพูดง่ายๆคือเป็นประเภทปากร้ายใจอ่อน…นึกแล้วก็ขำเผลอยิ้มจนโดนสังเกตเห็นแต่ไม่พูดอะไรต่อก็ต้องรีบไปเรียนเหมือนกันส่วนอ้อยสาจะรับหน้าที่ไปส่ง…
“เราอุตส่าห์ตักเตือนดีๆก็หาว่าใจร้าย…หาว่าแกล้ง…??…โธ่เอ้ย!!…อะไรอีกเนี่ย?”
…ถัดจากบ่นพึมพำพี่แคทก็ร้องโวยลั่นเพราะยางรถด้านหน้ายุบไปล้อหนึ่ง…
“โดนตะปูตำหรือเปล่าก็ไม่รู้?…บ้า!!”
“ค่อยตามช่างซ่อมทีหลังเถอะครับ…นี่ใกล้ได้เวลาแล้ว”
“เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย…แย่จัง…ใครแกล้งเจาะยางหรือเปล่า?”
…เอ่อ…ไม่อยากจะซํ้าเติมนะ…ก็พี่หยิ่งเชิดใครต่อใครไปทั่วจนโดนเขม่นล่ะมั้งแต่คงไม่มีใครแกล้งหรอกครับ…ของแบบนี้มันเกิดขึ้นได้…อุบัติเหตุ…อาจรั่วแต่เมื่อวานแล้วเพิ่งมาเห็นตอนนี้…
“ถ้ารู้ว่าเป็นใครจะซัดให้น่วมทีเดียว…มันน่านัก!!…ทำไมฉันต้องเจอเรื่องบ้าๆตั้งแต่เช้าตรู่เลย”
…โหว~~ “ซัดให้น่วม?” ปากกล้าท้าทายเก่งเหมือนกันนะเนี่ยพี่แคท…อืม…ก็ลูกสาวตำรวจนี่หว่า…
“เดี๋ยวป้าตามช่างมาดูให้เองจ้ะ…รีบไปเรียนเถอะ”
“พี่ไปกับพวกหนูก็ได้”
“ไม่ต้องจ้ะสา…คนละทางเลยรบกวนเปล่าๆ…เอางี้…พี่จะไปกับบอล”
…เฮ่ย?…ไหงจะไปกับเรา…ร้อยวันพันปีไม่เคยคิดซ้อนท้ายรถผมเลยสักครั้ง…พูดใหม่อีกทีซิครับ…
“ไม่รบกวนบอลจนเกินไปใช่มั้ย?”
…จะรบกวนเกินไปได้ยังไง?…โอ้เยส!!…ความจริงไม่ได้ฝันไปว่ะ…สาวสวยอันดับ1ของคณะจะซ้อนท้ายรถผมเพื่อไปเรียนด้วยกัน…คุยอวดยืดอกพวกเพื่อนๆได้อีกนานเพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสแบบครั้งนี้อีกเมื่อไหร่…คิดๆดูก็ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีและน่าภูมิใจเหมือนกันนะ…พี่แคทรวบมัดผมยาวก่อนสวมหมวกเพื่อไม่ให้เกะกะก่อนขึ้นนั่งซ้อนท้าย…เห็นแล้วทำให้ใจผมตื่นเต้นและเกร็งนิดๆ…จะคิดอะไรมากก็นึกซะว่าข้างหลังเราคือ…วุ้ย!!…เปรียบกับอะไรไม่ได้แฮะ…
“พี่ขี่ให้ก็ได้นะบอล”
“ไม่ต้องหรอกครับ…ผมจะทําอย่างงั้นได้ไง…อีกอย่างพี่ก็ใส่กระโปรงยาวมันไม่ถนัดหรอก”
“แต่พี่ขี่มอไซด์เก่งนะ…อาจจะเก่งกว่าเธอด้วย…เอ้า!!…รีบไปกันเถอะ”
…ใจยิ่งเต้นตึกตักๆ…พี่แคทใช้น้ำหอมและแป้งส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ…เส้นผมก็มีกลิ่นแชมพูจางๆเย็นๆโชยเข้าจมูก…หัวไหล่ของเธอแนบแซะหลังผมแถมยังสัมผัสถึงลมหายใจของหญิงสาวผู้พี่ได้อย่างแผ่วๆ…อยากจะขี่ช้าๆเพื่อให้ไปถึงช้าๆแต่เวลามันก็มีจำกัดเกินไป…ไอ้เคย์เอ้ย~~…มึงเห็นเข้าคงแทบวิ่งเข้ามาเขกกบาลกูแน่ๆว่ะ…นึกมาถึงตรงนี้ผมก็เริ่มจะขำญาติสาวเพราะพี่แคทก็มีความเขินอายเยี่ยงผู้หญิงทั่วๆไปแต่ผมไม่เคยเห็นแบบนี้จากเธอมาก่อน…คือช่วงทางที่ใกล้ถึงมหาลัย…พี่แคทถามว่า…
“เมื่อครู่เธอขำอะไรพี่?”
“อ๋อ!!…ไม่มีอะไรครับ…ผมแค่คิดว่าพี่น่ะก็รักฝนมากเหมือนกัน”
“พูดแปลก…ฝนเป็นน้องสาวถ้าไม่รักห่วงใยเด็กคนนั้นแล้วจะให้พี่ไปรักใคร?”
“ครับๆ…แต่พี่แคทมักชอบดุฝนบ่อยๆทั้งที่ความจริงพี่รักและเป็นห่วงฝนมากที่สุดยิ่งกว่าใครๆ”
“ไฟเขียว!!…อย่ามัวพูด”
…พี่สาวคนสวยได้ยินผมพูดแทงใจดำก็อาจจะรู้สึกเขินมั้งถึงเอากำปั้นเขกหมวกกันน็อคเบาๆ)นี่แหละคือเหตุการณ์ทางบ้านทั้งหมดก่อนมาเรียน…
“มึงยิ้มอะไรวะ?”
“เปล่า”
…เนื่องจากต้องกลับพร้อมกันเมื่อเธอเป็นฝ่ายเลิกเรียนก่อนจึงมานั่งคอยผมหน้าห้อง…ไอ้เคย์ตาโตราวไข่ห่านอาศัยจังหวะอาจารย์เผลอโบกไม้โบกมือพร้อมมอบรอยยิ้มที่มันคิดว่าหล่อเท่สุดๆให้แต่พี่แคทกลับเฉยเสียแถมไม่ยอมมองแม้แต่หน้ามันด้วยซ้ำ…ไอ้เคย์ยังไม่ละความพยายามลุกยกมือไหว้อาจารย์ก่อนเดินออกไป…ผมกับเชนดูการกระทำทุกอย่างของเพื่อน…
“คิดว่าไงวะ?”
“ก็ดูต่อไปสิ”
…ผมตอบไอ้เชนแต่ในใจคิด…โฉ่งฉ่างจริงๆทำเล่นหูเล่นตาแบบนี้พี่แคทคงจะชอบนี่นะ…เห็นมันตั้งหน้าตั้งตาชวนสาวสวยให้คุยด้วยแรกๆพี่เขาก็คุยหรอกแต่นานเข้าไอ้เคย์เริ่มออกลายไม่รู้พูดอีท่าไหนสักครู่รุ่นพี่สาวหน้าบึ้งลุกหนีไปเลย…เพื่อนจะตามแต่ผมให้เข้าห้องมาก่อน…สีหน้ามันดูผิดหวัง…
“ตอนแรกกูก็ชวนคุยเรื่องปกติแหละ…จากนั้นพี่แคทเหล่หน้ากูถามไม่อยากเรียนหนังสือหรือไงถึงออกมานั่งคุยได้…กูงี้อึ้งแดกในพริบตาแต่ยังลื่นชวนคุยต่อว่าวันนี้จะไปดูน้องๆปี 1 ร้องเพลงเชียร์หรือเปล่า…เธอตอบว่า…วันนี้ไม่มีเวลาว่างจะไปกูได้ช่องถามว่างั้นวันหยุดว่างมั้ย?…อยากชวนพี่ไปทานอาหารเดินเที่ยวหรือดูหนัง…พี่แคทไม่ตอบแต่ก็ไม่ปฏิเสธกูรีบเสียบว่าอยากจะโทรหาและขอเบอร์”
“โห!!…แล้วได้ป่ะ?”
“ได้ป๊ะมึงสิ!!…ถ้าได้กูจะหน้าเหี่ยวแบบนี้เร๊อะ?…พี่แคทตอบห้วนๆไร้สาระ…เอาเวลาไปร่ำเรียนหนังสือมันจะเข้าท่ากว่าแค่นั้นแหละลุกเดินหนีจากไปเลย…ใจแข็งไม่ใช่เล่นแต่กูไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่”
…ถึงช่วงเบรค15นาทีพี่แคทยังอยู่แถวนั้นเธอกวักมือเรียก…ไม่นานเกินรอไอ้เคย์ก็โดนสับเละผ่านทางผมทันที…
“เพื่อนเธอคนนี้มารยาทแย่มากๆ…เมื่อกี้พูดจาลามปามพี่อย่างไม่อายปาก…ถ้าไม่ติดว่ามีอาจารย์อยู่ใกล้ๆล่ะก็โดนตบปากไปแล้ว”
“หา?…เคย์มันแค่ถามว่าพี่เรียนเสร็จแล้วหรือแค่ชวนไปดูหนังเท่านั้นนี่ครับ”
…พี่แคทฟังผมพูดจบหน้าตาเธอก็มึนตึงยิ่งขึ้นอีก…สงสัยไอ้เคย์มันต้องทำบ้าอะไรมากกว่านั้น…
“ไม่ใช่แค่นี้!!!…เพื่อนเธอบอกว่าพี่น่ะสวยอย่างงั้นน่ารักอย่างงี้อยากขอคบด้วยเพราะเขายังไม่มีแฟนพูดไปก็มองตัวพี่ไปทําสายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มกิริยาน่าเกลียดน่าคลื่นไส้”
…เคย์…มึงนี่จีบผู้หญิงไม่ดูตาม้าตาเรือเล้ย~~…ไอ้นิสัยชอบเล่นหูเล่นตาแซวสาวๆแบบมึงทำบ่อยๆมันใช้กับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้…นี่ยังหาเรื่องให้กูติดร่างแหโดนว่าไปด้วย…เวลานี้พี่แคทยัวะน่าดูทีเดียว…
“ผมขอโทษพี่แทนเพื่อนด้วยแต่มันไม่มีเจตนาร้ายอะไรหรอกครับ”
…แม้จะกล่าวขออภัยอย่างสุภาพแต่ดีกรีโทสะในใจของรุ่นพี่สาวยังดูเหมือนไม่ค่อยลดลงสักเท่าไหร่…
“ถึงมีเจตนาดีแต่เพื่อนเธอคนนี้พี่ไม่มีทางไว้ใจอย่างเด็ดขาด…คนชื่อเชนก็เช่นเดียวกันพี่ไม่มีทางให้ฝนอยู่ด้วยตามลําพังแน่…เธอคบกับกลุ่มคนแบบนี้นานๆไปมันไม่เป็นผลดีต่อตัวเองหรอก”
“พี่…”
“เอ้า!!…ได้เวลาเรียนแล้วกลับเข้าห้องไปเถอะ…พี่จะเดินเล่นฆ่าเวลาแถวๆนี้ก่อน…โชคดีๆ”
…วันนี้พี่แคทก็ดูแปลกๆตามปกติ(?)ไม่ว่าการพูดหรือกระทำแต่ไอ้พวกนี้มันน่ามั้ย?…ตามกวนใจสร้างความรำคาญจนทำให้ “Ice Lady” ชังน้ำหน้าซะแถมพาลฉุนเฉียวมาถึงผมอีกคน…พอถึงตรงนี้กรุณาอย่าสงสัยว่าคืออะไร?…นี่คือฉายาของพี่สาวคนสวยที่ได้รับจากกลุ่มเพื่อนในห้องผมซึ่งเจ้าตัวคงยังไม่รับทราบ…ความหมายก็ตรงตัวและแต่งเติมให้ดูสวยหรูขึ้นจะได้ดังนี้“สตรีผู้เย็นชาและเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง”พวกเราทุกคนในห้องเห็นพ้องต้องกันว่าเหมาะสมกับพี่แคทอย่างสุดๆหรือใครจะเถียง?…
…………………………………………………………………………………………………………

…และวันรุ่งขึ้นคือวันหยุด…ที่บ้าน…ผมเอาแต่เดินวนไปเวียนมาในห้องรับแขกเพราะดันรับคำขอร้อง(แกมบังคับ)จากไอ้เคย์อย่างเสียไม่ได้และคำขอร้องนั้นก็สุดลำบากใจจะทำยังไงดี?…
“มีอะไรก็พูดออกมา”
“คือ…ผม”
“อ้ำๆอึ้งๆไม่ยอมพูดสักทีแบบนี้ต้องไม่ใช่เรื่องปกติสิ”
…พี่แคทก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ในห้องรับแขกส่วนอาการปวดท้องของฝนนั้นดีขึ้นมากซึ่งเจ้าตัวก็เอาแต่นอนในห้องพี่สาวตลอดเวลาเช้า…ล่วงจน10โมงแล้วยังไม่ปรากฏตัวให้เห็น…เมื่อวานทะเลาะกันแต่วันนี้ดันเข้าไปนอนห้องเขา…เออ…ดี…
“เอ่อ…เคย์มันอยากชวนพี่แคทไปดูหนังตอนบ่ายโมงวันนี้น่ะครับ”
…คิดในใจว่าพี่ต้องตอบสนองอย่างใดอย่างหนึ่งกลับแน่…ครั้งนี้เธอพับหนังสือพิมพ์เลิกอ่านทันที…
“งั้นเธอคงรู้คำตอบของพี่ดีอยู่แล้วนะ”
“ทราบดีครับ…แต่พี่จะไม่ไปหน่อยหรือแค่ดูหนังเองนะครับ”
“แค่นั่งคุยกันเมื่อวานพี่ยังไม่อยากคุยนาน…ดูหนังจึงไม่เคยคิดจะไป…ยิ่งกับเพื่อนคนนี้ของเธอ”
“พี่ไปหน่อยเถอะครับ…มันให้ผมขอร้องมา…ครั้งนี้ครั้งเดียวก็ยังดีครับ”
“ไม่”
…ทำไมหัวดื้ออย่างไม่มีเหตุผลแบบนี้?…มันเสียหายตรงไหนนักหนากะอีแค่…อารมณ์ผมก็ชักจะไม่ผ่องใสเหมือนกัน…
“ผมไม่เข้าใจจริงๆนะ…ทําไมพี่ถึงเกลียดผู้ชายนัก…แค่การที่เพื่อนผมชวนมันเป็นเรื่องลําบากใจให้กับพี่มากนักหรือครับ?…ผมเองก็ไปด้วยและทุกอย่างก็เตรียมพร้อมหมดแล้ว..”
…พูดจบหญิงสาววัย 21 ปีก็หัวเราะดังออกมาแต่คงเป็นการทําแบบประชดกันแน่ๆ…
“ฮึ!!…หึๆๆ…ฮะๆๆ…พี่ไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าแค่คําขอของเพื่อนใจเสาะคนหนึ่งก็ทําให้ครั้งนี้เธอกล้าต่อปากต่อคําพูดจาบังคับพี่…ฮะๆๆๆ…นึกไม่ถึงจริงๆ”
“พี่อย่าเปลี่ยนเรื่องพูด…บอกผมมาก่อนสิว่าทําไมพี่จึงปฏิเสธคําชวนของเพื่อนผมคนนี้และผ่านๆมาครั้งแล้วครั้งเล่าก็บอกปัดไมตรีจิตดีๆของผู้ชายทุกคนที่พยายามมอบให้”
…พี่แคทผู้มีจิตใจแข็งแกร่งราวหินผาได้ยินก็หยุดยิ้มประชดประชันทันที…เธอเปลี่ยนท่านั่งไขว่ห้างบนโซฟา…สะบัดเส้นผมแขนท้าวกับพนักพิงเชิดใบหน้ามอง…ร่างกายหยุดนิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปปั้นมีเพียงดวงตาที่ยังกระพริบ…ผมรู้ว่าหล่อนต้องไม่พอใจแต่เก็บอาการได้ซะสนิทไม่แสดงอาการไม่สบอารมณ์ออกมาให้เห็น…
“อยากรู้นักรึ?…ได้…คําตอบก็ง่ายๆสั้นๆ…พี่เกลียดผู้ชาย…เกลียดแบบไม่จําเป็นต้องบอกเหตุผล…เอาเป็นว่าเธอแค่นำคําตอบนี้ไปบอกนายเคย์นั่นก็พอ”
…ตอบแบบกําปั้นทุบดินจริงๆแต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากรู้…
“เสียใจ…ผมทําตามไม่ได้…พี่บอกมาก่อนสิว่าเพราะอะไร…ผมจะได้ไปบอกเพื่อนอย่างสมเหตุสมผล”
…พี่สาวหัวแข็งถอนหายใจยาวพลางถอดแว่นตาวางบนโต๊ะหยิบแก้วชานมขึ้นดื่ม…
“เฮ้อ~~…บีบคั้นจังนะ..เพื่อนคนนี้เป็นอะไร?…ถามจริงๆเถอะว่าระหว่างเพื่อนฝูงกับญาติพี่น้อง…เธอรักฝ่ายไหนมากกว่ากัน?”
…คําถามนี้ทําให้ผมอึ้ง…ประกายดวงตาของพี่แคทเยือกเย็นสงบนิ่งเงียบรอฟังคําตอบ…
“ผมรักทั้ง 2 ฝ่ายพอๆกันครับแต่สรุปพี่จะไม่ไป?”
“อย่างงั้นเราก็ไม่ต้องพูดเรื่องนี้กันอีก…จงจําไว้ด้วยว่าไม่มีใครจะมาออกคําสั่งให้พี่ทําตามได้ถ้าพี่ไม่เห็นด้วยและไปบอกเพื่อนเธอว่าความตั้งใจของเขานั้นใช้ได้แต่จงเอาไปใช้กับผู้หญิงคนอื่นกับพี่มันไม่มีทางสำเร็จอย่างเด็ดขาด”
…เมื่อเป็นเช่นนี้ผมก็เตรียมแจ้งข่าวน่าผิดหวังนี้ให้รู้และปลอบให้มันทําใจแต่ก่อนหน้านั้นสาวสวยพูดออกเสียงดังสำทับมาอีก…
“ส่วนเธอเองก็อย่าทําตัวให้พี่ไม่ชอบหน้ามากไปกว่านี้และคราวหลังอย่าริอาสาเป็นพ่อสื่อให้ใครอีก…นี่คือครั้งที่ 2 อย่าหาว่าพี่ไม่เตือนแต่ไม่ต้องเข้าใจอะไรหรอกนะแค่ไปบอกเพื่อนของเธอตามนี้ว่าให้เลิกหวังอะไรลมๆแล้งๆได้แล้ว…มันไม่มีทางเป็นจริงได้เลย”
…เข้าใจแล้ว…เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแล้วครับ…เป็นอันว่าไอ้เคย์คือรายที่2ต่อจากพี่ยุทธนาที่ถูกหญิงสาวนาม “สุรีย์พรรณ”ตัดเยื่อใยอย่างไม่มีชิ้นดี…จากนี้ใครจะเป็นรายต่อไปล่ะ?…เพราะรู้ว่ามีหนุ่มๆหลายคนในคณะและจากคณะอื่นคอยจ้องเข้ามา“หาโอกาสลองของ”กับผู้หญิงลูกพี่ลูกน้องคนนี้…มีเสน่ห์ชวนหลงไหลตรงไหนกันนะทำไมผู้ชายที่แวดล้อมผมถึงพากันติดบ่วงหลงชอบกันไปหมด…จะแจกแจงคร่าวๆให้ฟัง…นิสัยเงียบขรึมเย็นชาและไม่เคยปรนนิบัติเอาอกเอาใจใคร…กิริยาไม่อ่อนหวานนุ่มนวลพยายามตีตัวออกห่างจากเพศตรงข้ามอย่างชัดเจน…มารยาทก็นับว่าดีแต่กับผู้หญิงด้วยกันเท่านั้นส่วนกับผู้ชาย…สังเกตจากน้ำเสียงการพูดจะรับรู้ได้ทันทีว่าทั้งห้วนและแข็งกระด้างไม่ค่อยเป็นมิตร…โดยรวมแล้วนับว่าพี่แคทน่ะเป็นผู้หญิงที่แปลกประหลาดเอาการทีเดียวและผู้หญิงลักษณะนี้ก็ไม่ใช่สเป็คซะด้วย…ลักษณะหญิงสาวที่ผมชอบต้องเป็นอย่างกุน…สา…น้องอ้อย…คือมีนิสัยอ่อนหวานนุ่มนวลช่างปรนนิบัติเอาอกเอาใจ…กิริยาเรียบร้อยไม่แข็งกระด้างมีมนุษยสัมพันธ์ดีถึงจะเจ้าแง่แสนงอนนิดๆก็น่ารักดีไม่หยอก…มารยาทดีมีกาลเทศะรู้จักให้เกียรติให้ความเคารพต่ออีกฝ่าย…แต่อย่าง 2 พี่น้อง “เทวะกรนันท์” นี่ผมรับมือไม่ไหวไม่อยากตอแยสักนิดครับและลำพังผู้หญิงที่ผมข้องแวะด้วยก็มีไม่ใช่น้อย…ถึงตัวผมจะยอมรับมานานแล้วว่าพี่แคทสวยกว่ากุนและฝนก็น่ารักพอๆกับสา…ถึงแม้มีรูปโฉมงดงามแต่อุปนิสัยเข้ากันไม่ได้ก็ไม่อาจทําให้เป็นเงื่อนไขสำคัญในการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข…ดังนั้นขอยกเว้นแค่2คนนี้ล่ะกันเพราะพวกเธอมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง…เป็นบุตรสาวสุดรักสุดหวงของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คุณอาวงศ์ศักดิ์และคุณอาอรนิภาน้องสาวแท้ๆของคุณพ่อของผมเอง…

Share the Post:

Related Posts

เมียสวิงกับฝรั่ง ควยอันใหญ่เข้าไปอยู่ในจิ๋มเธอทั้งอันเลย

เรื่องเสียว เมียสวิงกับฝรั่ง ควยอันใหญ่เข้าไปอยู่ในจิ๋มเธอทั้งอันเลย คือผมกับแฟนผมเธอชื่อรัตนา เราสองคนมักจะคุยเรื่องเซ็กส์กันเป็นประจำ เพราะเราเห็นว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่เป็นแฟนกัน และเราก็มักจะหาโอกาสไปมีเซ็กส์กันตามที่ต่างๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโรงภาพยนตร์ ลานจอดรถ หรือแม้แต่ในที่ทำงาน โดยเฉพาะตามที่สาธารณะ มันทำให้รู้สึกตื่นเต้นดีเวลาที่มีเซ็กส์กันเพระต้องคอยลุ้นว่าจะมีใครเห็นหรือปล่าว ผมเคยถามแฟนผมว่า รู้สึกอย่างไรกับควยฝรั่ง เธอตอบว่า มันใหญ่และก็ยาวด้วยดูน่ากลัว คิดว่าเอาเข้าจิ๋มเธอไม่ได้แน่นอน ผมถามเธออีกว่าอยากเห็นของจริงๆ มั้ย และถ้าเห็นแล้วจะกล้าจับหรือปล่าว

Read More

เดี๋ยวพ่อจะสอนให้

เรื่องเสียว เดี๋ยวพ่อจะสอนให้  ชีวิตของผม คงเป็นชีวิตที่บ้าจริงๆ อีกคนนึง ครอบครัวผมมีแฟน ผมลูกสามคน หมาตัวนึง วันนึงเมียผมได้รับคนใช้มาเพิ่ม เป็นเด็กสาว 18 น่ารักดีมากเลย แฟนผมว่า เธอน่าสงสารมาก พ่อแม่ตาย ญาติไม่มี คุณช่วยเลี้ยงเด็กคนนี้เถอะ ปกติผมกับแฟนน่ะซาดิสม์ ชอบอะไรๆแบบพิเศษ อิอิได้เด็กมาคนจะเหลือเหรอ

Read More