หนูเกือบโดนแฟนเย็ดหีแล้วค่ะ วันนั้นหนูเรียนอยู่ ม.3 อายุ 15 ปี ย่าง 16 ปี กำลังโตเป็นสาวแรกรุ่นหน้าตาดี ผิวขาวนวลออกชมพูระเรื่อคิกขุน่ารักน่าชังตามประสาวัยแรกสาว และ รูปร่างหนูก็ดูไม่เด็ก และ ยังไม่เป็นผู้ใหญ่มาก (แต่ก็มีสัญลักษณ์ ที่สร้างแรงดึงดูดเพศตรงข้ามให้มีความสนใจ และ มีอารมณ์สารพัด อย่างอยากทำโน่นทำนี่กับหนูต่างๆ นานากับหนูมากทีเดียว) ในเทอมปลายช่วงสอบไล่ ก่อนปิดเทอมใหญ่หลังจากการสอบปลายภาคในวันสุดท้าย
ตามที่หนูได้พูดในตอนต้น หนูและเพื่อนๆ ได้ลงขันกันจัดงานฉลองการสอบปลายภาคและการจบช่วงมัธยมต้นกัน ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเรียน ตามโรงเรียนและสาขาวิชาที่แต่ละคนถนัด วันนั้นพอเลิกจากโรงเรียน ก็ย้ายไปจัดงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันมาก ในห้องคนหนึ่ง คือบ้านน้องเล็ก (น้องเล็ก คนนี้แหละค่ะภายหลังได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับหนู โดยที่เราทั้งสองไม่ตั้งใจ
มาดเขาจะออกทอมบอยหน่อยหนึ่งในสายตาคนอื่น แต่ไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะหนูรู้เนื่องจากคบกันมานานเขาเป็นคนขี้เล่นแก่นๆ สนุกสนานเฮฮาใน กลุ่มเพื่อนๆ มากกว่า) ซึ่งทุกคนก็ไปโดยไม่ได้เปลี่ยนชุดนักเรียนกันสักคน โดยบ้านน้องเล็กอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ มีพื้นที่กว้างขวางเกือบๆ 1 ไร่เห็นจะได้และพอดีวันนั้นคุณ พ่อคุณแม่น้องเล็กไม่อยู่ ไปธุระต่างจังหวัดกว่าจะกลับก็อีกสองสามวัน จังหวะเลยมีโอกาสกันพวกเราก็เฮฮากันไป
โดยได้มีเพื่อนผู้ชายต่างโรงเรียนที่สนิท และ รู้จักกันมาร่วมด้วยซึ่งก็รวมเพื่อนชายที่สนิทหนูที่ชื่อ เอก ด้วย (สนิทมากแต่ไม่ใช่แฟน โดยเพื่อนๆ พยายามยุหนูกับเขาให้เป็นแฟนกันแต่หนูสงวนท่าทีอยู่ ไม่เอาด้วยและอีกอย่าง ก็ยังรู้สึกว่าหนูยังเด็กอยู่ยังไม่ควรจะเรียนรู้ เรื่องพวกนี้ซึ่งคุณพ่อก็สอนตลอดเวลา) พวกเราก็จัดหาหาเหล้าเบียร์มาดื่ม ซื้ออาหารมาทำรับประทานกันเอง ตามประสาวัยรุ่นส่วนใหญ่
พวกผู้หญิงก็นั่งดื่มน้ำหวานและไวน์ผลไม้กัน บางคนก็เข้าครัวไปสาระวนกับกับแกล้ม และ กับข้าวในครัว หนูเองไม่ชำนาญเรื่องเข้าครัว เลยมานั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ในวงกับพวกเพื่อนผู้ชาย ตอนแรกๆหนูก็ดื่มแค่น้ำหวานเพราะไม่เคยดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ แต่เพื่อนๆ คอยยุให้หนูลองดูบ้างพูดอย่างเดียวไม่พอพร้อมกับยื่นแก้วไวน์มาให้ หนูก็รับมาดื่มหนูจำไม่ได้ว่าหนูได้ดื่มเข้าไปมากแค่ไหน แต่ไม่นาน เท่าไหร่หนูก็รู้สึกมึนมาก จึงขอตัวออกไปยืนรับลมที่หน้าบ้านของบ้านน้องเล็กคนเดียว
ขณะที่หนูกำลังยืนคิดอะไรเพลินๆ อยู่นั้นไม่ทัน ระวังตัว เอกแอบมาทางด้านหลังของหนูโดยไม่ส่งเสียง แล้วเขาเข้ามาสวมกอดด้านหลัง หนูตกใจสะบัดให้หลุดจากแขนของเขา และ ได้ต่อว่าเอกไปหลายคำและเอกเขาก็ขอโทษหนูเป็นการใหญ่ และสัญญาว่าจะไม่ทำอีกหนูก็ยืนร้องให้อยู่ที่ตรงนั้น จนเพื่อนๆ ได้ยินเสียงหนูก็ ออกมาดูแล้วร้องถามหนูว่า “เต่าเป็นอะไร” เอกเขาไม่พูดเงยหน้ามองหน้าหนูสักพัก หนูจึงตอบเพื่อนไปว่า
“ไม่มีอะไรพอดีมีอะไรบินผ่านหน้าไปเลยตกใจเท่านั้นพอดีเอก เขาเดินมา” แต่เพื่อนๆ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นใจให้เอกร้องแซวกับมาว่า “ไอ้เอกมึงอย่าไปรังแกเต่าเค้านะเว้ย ทำอะไรอายฟ้าดินมั่ง” หนูก็ไม่ได้คิดอะไร พออยู่กันตามลำพังสองคนเอกเข้าก็เริ่มต้นอธิบายเป็นการใหญ่ เขาชักเหตุผลจนหนูอ่อนใจยกโทษให้เขา จึงชวนหนูเดินรอบๆบ้านน้องเล็ก เพื่อรับลมจนเดินมาที่มานั่งหินอ่อนข้างบ้านอีกด้านหนึ่ง
ซึ่งบริเวณบ้านตรงด้านนี้เงียบสงัดเพราะเพื่อนๆ เฮฮากันอยู่อีกด้านหนึ่งของบ้าน เอกเขาก็ชวนหนูนั่งคุยกันที่ม้านั่ง โดยหนูนั่งอยู่ด้านซ้ายมือของเขา ตอนแรกก็ห่างกันเป็นเมตร คุยกันไปคุยกันมาสักพักเอกก็เริ่มเขยิบตัวเข้ามา จนเกือบประชิดตัวหนู เอกเขาได้พูดกับหนูหลายเรื่อง โดยเขาระบายความรู้สึกต่างๆ ที่มีต่อหนูและเขาได้สารภาพในเวลานั้นว่าเขารักหนู อยากให้หนูคบกับเขาไปนานๆ
หนูก็อายจนหน้าแดง เพราะในชีวิตไม่เคยมีผู้ชายมาขอสารภาพรัก และ ขอความรักอย่างนี้ หนูก็บอกเอกเขาว่าเรายังเด็กอยู่ทั้งสองคน อย่าคิดเรื่องนี้เลย เป็นเพื่อนกันนะดีแล้ว หนูก็ถามเขาเชิงสัพยอกว่าเอกเมาหรือเปล่าที่พูดออกมาอย่างนี้ แต่เอกเขายืนยันว่าถึงจะเมาบ้าง แต่เขามีสติที่จะพูดในสิ่งที่เขาอยากพูดกับหนู พอเขาพูดอย่างนั้นหนูเลยไม่ได้พูดอะไรนั่งเงียบๆ เฉยสักพักเอกก็เขยิบมาใกล้หนูมากขึ้น เขานำมือสองข้างเข้าโอบกอดหนู
โดยในตอนแรกหนูก็ดูขัดขืนแต่มันให้ความรู้สึกที่ประหลาดยังไงก็ไม่รู้ จึงปล่อยให้เขาทำอย่างนั้น มือซ้ายเอกโอบอยู่ที่ไหล่หนูแต่เขา ละมือขวามาเชยคางหนูให้หนูหันหน้ามาทางเขา พอหนูหันหน้ามาทางเขาเท่านั้นแหละ ไม่มีสัญญาญบอกล่วงหน้าเอกก้มลงมาจูบที่ปากหนูทันที หนูตกใจแต่ก็ปล่อยให้เขาทำ แต่ดูเหมือนว่าเอกเขาจะจูบไม่เป็นเก้ๆ กังๆ คิดว่าไปจำตามอย่างหนังมา (เหตุผลนี้หนูเปรียบเทียบกับตอนที่คุณพ่อท่าน จูบหนูตอนที่หนูมีความสัมพันธ์กับท่านแล้ว เพราะเมื่อเปรียบเทียบระหว่างการทำของเอก และ คุณพ่อต่างกันอย่างมากคุณพ่อท่านมืออาชีพแล้วค่ะ)
หนูได้แต่ครางในลำคอฮือๆ “บอกเอกว่าอย่าทำอย่างนี้มันไม่เหมาะ เรายังเด็กอยู่นะ” แต่เสียงหนูอาจจะเบามาก จนเอกไม่ได้ยินหรือเขาได้ยิน แต่ไม่สนใจคำห้ามปรามของหนูก็ไม่รู้ เอกทำได้สักพัก มือขวาเขาที่เดิมเคยเชยคางหนูเชิดไว้เพื่อที่เขาจะจูบหนูก็เลื่อนเปลี่ยนไปจุดอื่นบนตัวหนู เช่น ลำตัวของหนู เอกมาลูบไล้ที่หน้าอกหนูอยู่ที่ภายนอก โดยที่เอกพยายามที่จะปลดเสื้อกระดุมนักเรียนหนูออก เพื่อที่จะล้วงเข้าไปภายใน เพื่อสัมผัสหน้าอกหนูซึ่งกำลังเบ่งบาน
หนูได้ยกมือมาผลักใสมือเอกออกไป แต่เอกก็ยังซุกซนอีก เมื่อหนูไม่ยอมให้เขาจับที่หน้าอก เอกก็เปลี่ยนเป้าหมายของเขา โดยเอกได้เลื่อนมือลงมาลูบไล้ที่หัวเข่าหนู ผ่านมาทางชายกระโปรงนักเรียน และ เลื่อนเข้าไปยังต้นขาอ่อนของหนู ทำให้หนูรู้สึกสยิวดีขนไรหนูลุกชันไปทั่วตัวซาบซ่านอย่างบอกไม่ถูก ตรงนี้หนูไม่ได้ห้ามเอก เขาทำอยู่สักพักมือเขาก็จู่โจมเข้าไปหาจิ๋มของหนูทันที
หนูรู้ตัวก็หนีบขาไว้ไม่ให้เอกล้วงเข้าไปถึงข้างใน แต่ทำได้สักพักก็ทนต่อสิ่งที่เอกเขาปลุกเร้าไม่ได้ หนูก็ค่อยๆ คลายขาที่หนีบไว้ออก โอกาสนี้เอกได้ใช้มือขวาลูบคลำที่จิ๋มของหนูจนสักพัก หนูเองรู้สึกมีน้ำเหนียวๆ ไหลออกมามากจากช่องของหนู จนกางเกงในหนูเปียกแฉะไปหมด หนูคิดว่าเอกก็คงรู้เพราะเขาสัมผัสกับมือตนเอง เอกทำแบบนั้นกับหนู โดยที่เราสองคนไม่มีเสียงสนทนากันเลย
คงเป็นเพราะตกอยู่ในอารมณ์ของความต้องการทางธรรมชาติเองมากกว่า ที่จะเกิดจากความรักที่แท้จริง ระหว่างนั้นเอกได้เลื่อนตัวเองลงไปโดยให้ศรีษะ ของเขาตรงกับจิ๋มของหนูพอดี เขาทำท่าจะมุดกระโปรงนักเรียนหนูเข้าไปภายในตอนนั้นหนูไม่รู้ว่าเอกจะทำอะไรต่อ แต่ก่อนที่จะเกิดอะไรต่อไปสักพัก ก็มีเสียงจุดประทัดฉลองดังขึ้นมาจากทางซีกหนึ่งของบ้าน และ เราได้ยินเสียงเพื่อนๆตะโกนตามหลังมา
“ไอ้เอกกับเต่า พอได้แล้วมาสนุกทางนี้ดีกว่า” เท่านั้นแหละหนู และ เอกแยกออกจากกันทันทีหนูจัดสื้อผ้าที่สวมใส่ให้เรียบร้อย ทำตัวปกติเดินมาพร้อมกัน กับเอกมายังกลุ่มเพื่อนที่นั้งเฮฮากันอยู่พอมาถึงน้องเล็กก็แซวหนูกับเอกทันที “เอกกับ เต่าเป็นยังไงบ้างเข้ากันได้หรือไม่” หนูได้ฟังอย่างนั้น ไม่เข้าใจความหมายที่น้องเล็กแซงนึกว่าเขารู้ว่าเมื่อตะกี้หนูทำอะไรกับเอกมา แต่หนูแน่ใจว่าตอนที่เอกทำกับหนูไม่มีคนอื่นแน่ๆ หนูก็ค้อนน้องเล็กเข้าให้
น้องเล็กเขาคิดว่าหนูโกรธเขาเลยอธิบายเพิ่มว่าที่แซวนะ หมายถึงว่าทั้งสองคนพูดคุยกันเข้าใจกันดีหรือเปล่าไม่ ได้หมายความเป็นอย่างอื่น หนูก็ตอบทุกคนอยางเสียงดังฟังชัดว่า “ก็เป็นเพื่อนกันก็ต้องเข้าใจกันดีสิ” ต่อจากนั้น หนูก็นั่งร่วมวงกับเพื่อนๆ โดยมีสายตาเอกคอยจับจ้องส่งสายตาเจ้าชู้มาที่หนูตลอดเวลา และดูเหมือนว่าตอนนั้น เอกคงนึกเสียดายที่ไม่ได้ทำอะไรกับหนูต่อ
หนูนั่งดื่มกับเพื่อนสักพักรู้สึกว่าดึกมากแล้ว กลัวคุณพ่อเป็นห่วง และ ออกอาการมึนมากแล้วจึงขอตัวกลับบ้านก่อน ตอนแรกเอกอาสาที่จะไปส่งตามลำพัง แต่หนูคิดว่าเขาคิดอะไรอยู่ จึงขอให้เขานั่งร่วมวงกับเพื่อนต่อไป โดยหนูให้น้องเล็กคือเพื่อนสนิท ที่เป็นเจ้าของบ้านมาส่ง เนื่องจากบ้านหนูไกลจากสมุทรปราการพอสมควร (อยู่แถวจรัลฯส่วนหนูเรียนอยู่โรงเรียนสตรีทีมีชื่อแห่งหนึ่งแถวพรานนก อย่างที่พูด แนะนำในตอนต้น)
น้องเล็กซึ่งเป็นเพื่อนทีมีความสนิทมากที่สุดในห้องได้มาส่งที่บ้าน โดยได้รบกวนพี่ชายขับรถมาส่ง และ น้องเล็กก็นั่งมา ส่งหนูด้วย จำได้ว่าวันนั้น มาถึงบ้านราวๆ ห้าทุ่มเห็นจะได้ บ้านหนูเป็นบ้านเดี่ยวมีพื้นที่กว้างราวๆ 100 ตารางวา ปกติก็อยู่กัน 4 คนคือ คุณพ่อ, คุณแม่, หนู และ น้องชาย อายุราว 14 ปี วันที่สอบปลายภาคช่วงนั้นคุณแม่ไปเยี่ยมคุณยายที่นครปฐม โดยชวนน้องชายไปเป็นเพื่อนด้วย
ที่บ้านจึงเหลือหนูกับคุณพ่อเพียงสองคน คุณพ่อทำงานเป็นทหารทำงานรับผิดชอบมาก และ ท่านค่อยข้างจะหวงลูกสาวคือหนูพอสมควร ใครจะมาข้องแวะง่ายๆ ไม่ได้ และ ท่านก็สอนหนูให้ระมัดระวังตัวตลอดเวลา บางวันคุณพ่อท่านมีงานมาก หลังเลิกงานบางทีก็ไปสังสรรเฮฮากับเพื่อนฝูงนายทหารที่ทำงาน ฉนั้นบางวัน คุณพ่อก็กลับบ้านดึก บางทีเลยเที่ยงคืนไปก็มี วันนั้นหนูมาถึงบ้านไม่มีใครอยู่ เข้าใจว่าคุณพ่อคงไปทำธุระของท่านต่อยังไม่กลับ
พอหนูส่งเสียงเท่านั้นเจ้าอึ่งซึ่งเป็นหมาพันธ์โดเบอร์แมน ที่คุณพ่อได้มาจากกรมการสัตว์ทหารบก ก็วิ่งกระดิกหางเข้ามาทักทายหนูตามประสาของมัน หนูเลยเข้าครัวไปหาอาหารสำเร็จรูปใส่ถาดวางไว้ให้มันที่หน้ากรง
อ่านตอนที่ 1 : หนูเกือบโดนแฟนเย็ดหี
อ่านตอนที่ 2 : ก่อนจะโดนพ่อเย็ดก็กะว่าจะขัดขืน
อ่านตอนที่ 3 : ควยใหญ่ของพ่อเข้ามาอยู่ในหี
อ่านตอนที่ 4 : ฉันชอบโดนคุณพ่อควยใหญ่เย็ดหี