แอบเสียวกับหัวหน้า


ฉันเป็นผู้หญิงเซ็กส์จัดถึงจัดมากคนหนึ่ง ฉันย้ายมาอยู่ใกล้ครอบครัวซึ่งเป็นเป็นคนใต้เดิมฉันเป็นคนโคราช ต้องย้ายที่ทำงานหลายแห่งเหมือนกันเพราะฉันรับราชการกระทรวงสาธารณสุข ฉันได้มาทำงานที่โรงพยาบาล อำเภอแห่งหนึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองมากนักเรียกว่าไปเช้าเย็นกลับได้สบายๆ
ตอนนี้ฉันอายุ 31 ฉันมีลูกตั้งสามคนแล้วโดยคนล่าสุด อายุ ได้ขวบกว่าๆ เรียกว่าฉันแต่งงานค่อนข้างเร็วคือพอจบพาณิชย์ปีสามปุ๊บฉันสอบได้งานปั๊บก็ แต่งงานเลย ฉันไม่ได้เป็นพยาบาลหรือสายงานอย่างพวกหมอๆ เค้าหรอกก็จบพาณิชย์แต่สอบบรรจุติดกระทรวงนี้ก็เลยได้ลงพวกธุรการหรือการ เงินทำนองนี้แหละ

สามีฉันเค้าทำงานคนละที่กับฉันคืออยู่คนละจังหวัดนานๆ จะกลับบ้านที ขานั้นมีเพื่อนฝูงเยอะกลับมาแต่ละทีขนเอาเพื่อนซึ่งเมามายมา ทั้งนั้น ก็เป็นภาระของฉันที่ต้องดูแลคนเหล่านี้ ซึ่งเกิดเหตุการณ์แบบนี้(คือเมากันมา) บ่อยมาก หนักๆ เข้าฉันก็ขี้เกียจจะดูแลพวกเค้าเหมือนกันเตรียมของกินของใช้ไว้ให้แล้วก็ จัดการกันเอง ก็เพื่อนมากนักไง

ด้วยเหตุที่สามีมักมองข้ามเรื่องแบบนี้ไปมั้ง โดยอาจคิดว่ามีลูกตั้งสามคนแล้วคงไม่มัวพะวงอยู่กับเรื่องเหล่านี้แน่นอน (ไม่มีเวลาพอที่แม้จะคิด เพราะเจ้าทโมนสามตัวนั้นคงแย่งเวลาไปหมดแล้ว) แต่เค้าคิดผิดคงลืมไปว่าฉันเป็นคนเซ็กส์จัดประกอบกับอายุไม่มาก (น่าจะเป็นวัยกำดัด) จึงทำให้ฉันค่อนข้างอ้างว้างและว้าเหว่ เพราะฉันไม่ใช่คนที่นี่ ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องของคนใต้ซักเท่าไหร่ ดังนั้นไฟโลกีย์ของฉันจึงลุกโพลงอยู่ในกายและในใจตลอด จนก่อนที่จะมาเกิดเหตุที่จะเล่าต่อไปนี้ฉันก็เป็นคู่นอนของผู้ชายไม่น้อย กว่าสามคน แต่ฉันจะยุ่งเป็นคนๆ ไป ไม่มั่วทีเดียวสามคน ในช่วงอายุระหว่าง 25-30 ปี

ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าสามีเค้าจะระแคะระคายบ้างหรือไม่แต่ทุกครั้ง ที่สามีมีเซ็กส์กับฉัน(ซึ่งประมาณเดือนละไม่เกินสองครั้ง) สามีก็ไม่เห็นแสดงอาการอะไรที่ส่อพิรุธเลย ฉันมีเชื้อของคนญวนผิวขาวซึ่งหากอยู่ในหมู่คนใต้แม้จะเป็นผู้หญิงด้วยกันก็ จะรู้ว่าฉันไม่ใช่คนที่นี่ นอกจากผิวขาวแล้วฉันจัดเป็นผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งสัดส่วนได้รูปน้ำหนักไม่ เกิน50 กก. สูง 165 ซม. หน้าอก 35 เอว 25 สะโพก 38 ตรงสะโพกนี่แหละใครมองคงต้องเหลียวหลังเพราะมันใหญ่ที่คนโบราณเรียกว่าสุด เสียงสังข์จริงๆ ถึงจะมีลูกแต่ก็มีทีเด็ดนะจะบอกให้ ไม่งั้นจะมีผัวอีกหลายๆ คนได้อย่างไรจริงมั๊ย

ตอนที่คลอดลูกคนแรกฉันกลัวมากที่จะคลอดเองด้วยมีการเล่าต่อๆ กันมา จึงบอกคุณหมอให้เอาออกทางหน้าท้อง ซึ่งแน่นอนคนต่อๆ มาต้องทำอย่างเดียวกันคือเอาออกทางหน้าท้องทั้งหมด จึงทำให้มีแผลซ้อนๆ กันอยู่บริเวณขอบกางเกงในสั้นๆ ยาวประมาณห้านิ้วขนาดก้านคอตตอนบัด แต่ก็แลกกับความคงเดิมของรูที่เด็กควรจะออกตามธรรมชาติของเค้าไว้ให้ใกล้ เคียงกับของเดิมมากที่สุด อย่างไรก็ตามแม้ว่าเด็กจะไม่คลอดทางช่องคลอดแต่ด้วยเหตุที่ฉันใช้งานรูของ ฉันมากเกินไป (ที่มิใช่สามี) จึงไม่ค่อยมีความมั่นใจกับการนอนในระยะหลังๆ จึงตัดสินใจลงทุนไปยกเครื่องใหม่ (เฉพาะช่วงล่าง) ก็ล่อเสียหลายหมื่นเหมือนกันแต่ก็ได้ความมั่นใจกลับมาสุดๆ คุ้มเกินคุ้ม รู้งี้ไปทำเสียตั้งนานแล้ว

ฉันเคยเขียนไปหาหมอนพพรเมื่อประมาณสิบปีที่แล้วซึ่งท่านตอบปัญหาทางเพศใน หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ โดยที่คอลัมน์ของท่านจะดังมากแทบจะแย่งกันอ่านในสมัยนั้น ฉันถามถึงเรื่องอารมณ์ทางเพศที่รุนแรงและค่อนข้างมากของฉัน โดยฉันเล่ารายละเอียดในการนอนกับผู้ชาย (ที่ไม่ใช่สามี) ให้ท่านประกอบการตอบคำถามด้วย ปรากฏว่าแทนที่จะได้รับคำตอบท่านกลับสั่งสอนเสียยกใหญ่ บอกให้หันเข้าหาธรรมมะเสียบ้างจะได้เพลาๆ ลงท่านบอกว่าเรื่องทางเพศทุกคนที่ร่างกายปกติมันมีความรู้สึกกันได้ส่วนจะ มากหรือน้อยก็แล้วแต่บุคคล แต่ที่ควรกระทำอย่างยิ่งคือการรู้จักเก็บความรู้สึกเอาไว้บ้างโดยเฉาะสตรี ไทยที่ต้องยึดถือขนบธรรมเนียมและศีลธรรมอันดี เท่านี้ท่านว่าคงจะช่วยได้และในตอนท้ายท่านบอกว่าแม้ว่าจะติดใจรสรักจากชาย อื่นที่มิใช่สามีของตัวเองซึ่งเป็นเรื่องไม่ควรอย่างยิ่ง ดังนั้นต้องพยายามตัดใจและมีสามีเดียวจะดีที่สุด หลังจากที่ได้รับคำตอบครานั้นฉันจำได้ว่าไม่หันกลับไปอ่านคอลัมน์ของท่านอีก เลย

ฉันมาทำงานที่โรงพยาบาลได้ประมาณสามเดือนก็พอสนิทกับเพื่อนร่วมงานบ้างแต่ก็ ไม่มากนักด้วยนิสัยฉันเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครซึ่งปกติจะดูเหมือนคนหยิ่งหากเทียบกับคนใต้ทั่วๆไป ที่ทั้งหญิงและชายมักจะสรวลเสเฮฮา และบังเอิญฉันมารู้จักหัวหน้าที่เป็นผู้ชาย ซึ่งก็เป็นคนขรึมๆ เช่นกัน หัวหน้าฉันอายุอ่อนกว่าฉันหนึ่งปีขณะที่ฉันมาทำงานปีแรกเค้าอายุสามสิบปีพอ ดี ยังโสดแต่มีแฟนแล้วนัยว่ามีแฟนหลายคนด้วย เค้าเป็นคนหน้าตาดีสไตล์คนใต้คือเข้มผิวดำแดงสูง 170 กว่าๆ ร่างกายแข็งแรงตามวัยของเค้าอีกอย่างเค้าชอบออกกำลังกายจึงทำให้หน้าตาและ ร่างกายดูดีสมวัย ด้วยความที่ทั้งเค้าและฉันไม่ค่อยจะพูดจึงไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ในช่วงแรกๆ แต่ล่วงเข้าเดือนที่หกฉันก็มีความสนิทกับเค้ามากขึ้นเพราะตอนนั้นฉันไปลง เรียน หลักสูตร กศ.บป. ที่สถาบันราชภัฎ ซึ่งคนทำงานจะนิยมเรียนกันมากในวันเสาร์อาทิตย์

ด้วยเหตุที่หัวหน้าฉัน เค้าค่อนข้างเรียนเก่งจึงขอคำแนะนำในหลายๆ วิชา แล้วเวลาที่พอว่างก็คือตอนเที่ยง ปกติตอนเที่ยงคนในห้องซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงก็มักจะชวนกันไปทานข้าวข้าง นอกบางคนที่บ้านอยู่ใกล้ก็กลับบ้าน จะมาอีกทีก็บ่ายโมงล่วงแล้ว ฉันนั้นมักจะหาเวลาว่างลงไปกินช่วงสิบโมงกว่าๆ เกือบทุกวันเพราะตอนเช้าจะไม่ทาน ส่วนหัวหน้าเค้าก็จะลงไปทานก่อนเที่ยงราวๆ สิบเอ็ดโมงครึ่งกับพรรคพวกเค้าพอตอนเที่ยงก็มักจะมาเป็นติวเตอร์ให้ฉัน ซึ่งฉันเรียกแทนตัวเค้าว่า “ตัวเอง” ส่วนเค้าเรียกฉันว่า “เจ๊นิด”

ในตอนเที่ยงของวันหนึ่งหลังจากที่เค้าช่วยติวให้ฉันมาได้ประมาณหนึ่งเดือน โดยในวันนั้นเค้าเริ่มติวให้ฉันไปได้ประมาณสิบนาที เค้าบอกว่าวันนี้ใจสั่นยังไงพิกล ฉันกลัวว่าเค้าจะเป็นอะไรไปจึงบอกถ้างั้นวันนี้ไม่ต้องติวก่อนก็ได้ แต่เค้าบอกไม่ใช่สั่นจะเป็นลมแต่สั่นเพราะอยู่ใกล้คนสวยต่างหาก ฉันก็คิดว่าเค้าจะมาไม้ใหนกันแน่จู่ๆ เกิดอารมณ์แบบนี้ขึ้นมาทั้งๆ ที่ไม่เคยปรากฏ (รึว่าปรากฏมานานแล้วแต่ฉันไม่รู้) เค้าไม่พูดเฉยๆ นะแต่ละจากหนังสือเข้ามากอดฉันเอาดื้อๆ อย่างนั้นแหละ เล่นเอาฉันงงเต็กไปเลยเพราะจะโกรธก็โกรธไม่ทันก็พวกเล่นจู่โจมอย่างนั้นใคร จะตั้งตัวได้

ห้องทำงานของหัวหน้าฉันเป็นห้องส่วนตัวไม่ใหญ่มากนักโดยอยู่ภายในห้องใหญ่ รวมอีกทีหนึ่งซึ่งตอนเที่ยงฉันจะล๊อคประตูห้องใหญ่ทั้งหมดและปิดม่านทุกบาน หน้าต่างเรียกว่าใครจะมาติดต่อธุระห้องนี้ก็ต้องเลยบ่ายโมงไปโน่นแหละห้อง จึงเปิดอีกครั้ง ส่วนห้องหัวหน้าก็มีประตูล๊อคได้อีกชั้นหนึ่งเช่นกันโดยเฉพาะห้องนี้ไม่ค่อย มีใครกล้าเข้าออกเท่าไรหากไม่จำเป็น ฉันจึงใช้ห้องนี้ให้หัวหน้าติวหนังสือ(และต่อมาติวอย่างอื่นด้วย)
“ตัวเองทำอะไรน่ะ….เค้าให้ตัวเองติวหนังสือให้เค้านะไม่ได้ให้ทำอย่างงี้” ฉันทำเป็นงอน
“หนังสือน่ะติวเมื่อไหร่ก็ได้ อีกหลายวันกว่าจะสอบ แต่วันนี้เค้าอยากลองอย่างอื่นดูบ้าง” เค้าทำเป็นกล้าที่จะตอบฉันซึ่งต่อมาเค้าบอกว่าเค้ากลัวโดนด่าและร้องโวยวาย มากที่สุดในตอนที่ตัดสินใจกอดฉัน
“ไม่เอานะตัวเอง….เอามือออกก่อน…เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้าจะเป็นเรื่อง ใหญ่” ฉันพยายามบ่ายเบี่ยงจากการกอดของเค้า แต่ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุเค้ายิ่งกอดแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกและแถมด้วยหอมแก้ม
“ออกนะ…ไม่เอาจริงๆ ด้วย….ตัวเองก็รู้ว่าเค้ามีครอบครัวแล้ว..มีลูกแล้วด้วย…ทำอย่างนี้มัน ไม่ดีรู้มั๊ย….” ฉันพยายาม(แกล้ง) อ้อนวอนโดยยกเหตุผลง่ายๆ แต่แทนที่เค้าจะกลัวหรือสำนึกได้กลับเป็นเอามือสองข้างของเค้าประคองใบหน้า ฉันพร้อมทั้งจูบที่ปาก ฉันไม่ทันระวังช่วงที่กำลังขอร้องเค้าอยู่ปากเลยเปิดอยู่ทำให้เค้าเอาลิ้น เข้ามาในปากฉันได้
“อือ….อออ…อึม..มมมม…….อ้า..ส์ส์ส์…..”ฉันส่งเสียงอู้อี้อยู่ในลำ คอ เวลาผ่านไปสองสามนาทีเค้าก็ยังจูบปากฉันอย่างเมามัน เอาล่ะสิเรี่ยวแรงที่คิดจะผลักเค้าในตอนต้นขณะนี้ไม่รู้ว่ามันหายไปใหนหมด มือที่ห้อยอยู่แนบตัวและกำลังจะผลักอกเค้าเพื่อให้เค้าเลิกการกระทำกลับเป็น มือฉันสองข้างนี่แหละที่เริ่มโอบกอดแผ่นหลังเค้าแน่นขึ้นๆ
“อุ๊ย….ซี๊ด..ดดด…สสสส….อ๊าย…สสส….” ฉันเริ่มออกอาการเดิมของฉันยามเมื่อต้องมือชายขณะที่เค้าเริ่มคลายปากจากปาก ฉันจึงมีเวลาที่ฉันจะซี๊ดปากได้
“ตัวเองจะทำอะไรเค้าน่ะ…เดี๋ยวมีคนเห็นนะ….”ฉันเตือนเค้า
“ถ้างั้นก็ให้ความร่วมมือหน่อยสิจะได้เสร็จเร็วๆ” เค้ารีบตัดบท ฉันด้วยความกลัวที่คนจะเข้ามาเห็นจริงๆ จึงคล้อยตามเค้าทุกอย่างเหมือนแมวเชื่องๆ ตัวหนึ่ง ในขณะที่ใจฉันว้าวุ่นว่าจะเอาอย่างไรดีในสถานการณ์แบบนั้นเพราะไม่เคยเจอคน รุกแบบสายฟ้าแลบเหมือนครั้งนี้มาก่อน อีกใจหนึ่งก็อยากลองเพราะเงี่ยนเต็มทนแล้วเรียกว่ากล้าๆ กลัวๆ จึงจะถูก แต่ใจหนึ่งก็คิดว่าเจ้าหมอนี้กินดีหมีหัวใจเสือมาจากใหนจึงกล้าที่หักหาญ น้ำใจเราผู้มาใหม่ถึงเพียงนี้เรียกว่าแม้ว่าฉันจะยอมก็ไม่น่าจะรวดเร็วถึง เพียงนี้และเป็นสถานที่แบบนี้ ต่อมาภายหลังจึงรู้ว่าเค้าทำการบ้านเรื่องของฉันมามากกว่าที่ฉันคิดเสียอีก เรียกว่ารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวฉัน รู้ว่าฉันมีผัวมาแล้วกี่คน ใครบ้าง โดยเฉพาะรู้ว่าฉันเป็นผู้หญิงไฟแรงสูงแต่ซ่อนตัวเท่านั้น

“อย่าแหย่นิ้วเข้าไปตรงนั้น…มันเสียวมากรู้มั๊ย….อุ๊ย….ซี๊ด..ดดด.. สสส….ว้าย….ตายแล้ว…จะทำอะไรน่ะ..” ฉันตกใจมากขึ้นเมื่อเค้าผลักฉันเบาๆ ให้ก้มไปที่โต๊ะทำงานเค้าแล้วขณะเดียวกันเค้ารั้งกระโปรงซึ่งเป็นกระโปรง หลวมๆ แบบผ้าอัดกลีบรอบความยาวเลยเข่านิดๆ ซึ่งสมัยนั้นเป็นที่นิยมของผู้หญิงทำงานและก็เป็นความโชคดีของหัวหน้าที่ดึง กระโปรงทีเดียวก็ขึ้นไปกองอยู่ที่บั้นเอวแล้วไม่รอช้าเค้ารีบดึง กกน.ซึ่งฉันชอบใช้ชนิดผ้าสังเคราะห์เนื้อบางๆ ไม่รัดมากนักจึงง่ายในการถอดเรียกว่าดึงทีเดียวมากองอยู่ที่เท้าแล้ว ดูเหมือนเค้าทำงานแข่งกับเวลาจริงๆ เพราะหลังจากที่ดึง กกน. ฉันมากองที่ปลายเท้าแล้วเค้าก็รูดซิปดึงเอาหัวควยที่แข็งโด่อยู่นานแล้วออก มาถอกสองสามครั้งเห็นหัวแดงช้ำเลือดหัวบานโร่ขนาดประมาณ 6×6 ซึ่งแม้ว่ามันจะไม่ใหญ่มากนักแต่เป็นหัวควยที่ฉันพูดได้ว่าฉันชอบมากที่สุด ตั้งแต่เจอหัวควยมาแล้วจะเล่าให้อ่านในตอนต่อไป

เค้ารีบแม้กระทั่งตะขอกางเกงก็ไม่แกะออกเข็มขัดก็ยังรัดอยู่อย่างนั้นแค่เอา หัวควยโผล่ร่องซิบออกมาอย่างเดียวเหมือนผู้ชายกำลังจะไปฉี่แค่นั้นเอง โดยไม่รอช้าเค้าบอกว่าใกล้จะบ่ายโมงแล้วมัวเล่นมากไม่ได้ ฉันจะโอ้เอ้หรือจะมารยาอะไรก็ไม่ทันแล้วมาถึงขั้นนี้แล้วเอาไงก็เอากัน ว่าแล้วเค้าก็จ่อหัวควยที่บานเหมือนดอกเห็ดเข้าที่ร่องหีทางด้านหลังในท่า โก้งโค้งแล้วก็ดันเข้าใช้เวลาไม่นานนักหัวควยก็หลุดพรวดเดียวเข้าไปชนมดลูก ฉันเสียงดังกึกๆๆ ตามแรงกระแทกของเค้า
“โอย….เสียวควยจังเลยเจ๊จ๋า….อูย..ยย…..” เค้าใช้สองมือจับที่บั้นเอวแล้วซอยไม่ยั้ง เราคิดว่าหมอนี่ตายอดตายอยากมาจากใหนแม้ในห้องทำงานก็ไม่เว้น แต่ก็ได้เพียงคิด
“อุ๊ย….ยยย……เค้าก็เสียวนะตัวเอง….ว้าย….ยยย……เค้าแตกแล้ว นะ….”ฉันเผลอตัวพูดออกมาด้วยความเคยชินกับผัวคนก่อนๆ เมื่อยามน้ำแตกฉันจะพูดเพื่อเร่งกระตุ้นผู้ชายเพื่อให้เค้าภูมิใจและเร่งให้ ทำเร็วขึ้น
“เค้าก็จะออกแล้ว….อูย….ซี๊ด…ดด…เสียวควยจังเจ๊จ๋า….” เค้าก็รีบซอยหนักๆ ไม่เกินสิบนาทีฉันรู้สึกอุ่นวาบในช่องคลอดพร้อมๆ กับหีฉันตอดตุ๊บๆๆๆ เป็นจังหวะซึ่งนั่นบ่งบอกให้รู้ว่าฉันถึงสวรรค์วิมานแล้ว
“หีเจ๊ตอดดีจังเลย นี่ยังตอดควยเค้าอยู่เลย..แต่เค้าต้องเอาควยออกก่อนนะ..เดี๋ยวไม่ทัน” ว่าแล้วเค้าก็ถอยตัวออกจากฉันเสียงควยหลุดจากหีซึ่งกำลังตอดอยู่ตุ๊บๆ เสียงดังปล๊อค น้ำหีและน้ำควยที่ออกผสมกันมากมายหยดไหลตามพื้นเป็นทางจนฉันต้องควานหาทิชชู มาเช็ดเพื่อปิดร่องรอยอย่างรีบด่วนหลังจากดึง กกน.มาเข้าที่เรียบร้อยพร้อมเอากระโปรงลง ส่วนเค้าก็เก็บเจ้าโลกไว้ในกางเกงและรูดซิปแค่นั้นก็เรียบร้อย แต่ยังทำให้ฉันยืนงงๆ อยู่พักใหญ่ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นในที่ตรงนี้เมื่อครู่ที่ผ่านมา มันเหมือนฝันไปจริงๆ เมื่อหายงงแล้วฉันจึงเปิดประตูทั้งห้องหัวหน้าและประตูใหญ่ห้องรวมเพื่อเข้า ห้องน้ำ ก็จะปล่อยไว้ให้น้ำมันไหลออกมาประจานทำไมต้องรีบหาทิชชูพับเป็นแผ่นแทนผ้า อนามัยซับไว้ใน กกน. เพราะน้ำคนโสดมันหลั่งออกมามากมายจริงๆ

หลังจากทุกคนกลับเข้ามาทำงานแล้วไม่มีใครรู้ว่าเมื่อครู่ที่ผ่านมาฉันสร้าง วีรกรรมไว้กับหัวหน้า ฉันทำเป็นจับปากกามาเขียนเกี่ยวกับงานที่ฉันรับผิดชอบอยู่พักนึงเพื่อไม่ให้ ตื่นเต้นจนเกินไปแต่ก็ไม่หายฉันต้องออกไปเดินเล่นที่ระเบียงทางเดินเข็นคนไข้อยู่พักใหญ่ๆ จึงกลับเข้ามาทำงานอีกครั้งซึ่งครั้งหลังนี่ถ้าใครแอบสังเกตุจะเห็นฉันนั่ง อมยิ้มเล็กๆ เป็นยิ้มที่ให้แก่ความบ้าบิ่นของตัวเองและหัวหน้าที่กล้าเอากันกลางวันแสกๆ ในห้องทำงาน
เมื่อมีครั้งแรกคงไม่มีใครเชื่อว่ามันจะจบลงแค่นั้น แน่นอนมันต้องมีตอนต่อๆ ไป ซึ่งฉันจะเล่าตามความพอใจของฉันเพราะตอนนี้ฉันเป็นอิสระแล้วแยกตัวเองไปอยู่ กับลูกไม่ต้องกังวลเรื่องสามีให้กวนใจอีกต่อไป คอยติดตามนะคะ

Share the Post:

Related Posts

หนูโดนคนขับรถลวงไปข่มขืน

เรื่องเสียว หนูโดนคนขับรถลวงไปข่มขืน ลวงไปข่มขืน “ต้นเตย” เธอเป็นเด็กสาวอายุ 17 ปี ที่เข้ามาในเมืองกรุงเป็นครั้งแรก หลังจากที่ตัดสินใจเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ เพื่อที่จะมาหาพี่สาวของเธอ ซึ่งหลังจากพี่สาวเรียนจบ เธอก็ไม่ได้กลับไปบ้านเลย เพราะบอกว่าชอบบรรยากาศของเมืองกรุง และอยากจะทำงานที่นี่ ดังนั้น ธุรกิจที่บ้านทั้งหมด จึงต้องโยกย้ายความหวังมาให้เธอผู้เป็นน้องสาว ความหวังทุกๆ อย่างมันจบลงที่เธอต้องแบกรับ แต่กะเพราเธอเพิ่งอายุแค่นี้เอง

Read More

เพื่อนแม่ก็น่าเย็ดดีนะครับ

เรื่องเสียว เพื่อนแม่ก็น่าเย็ดดีนะครับ สวัสดีครับ ชาวนักอ่านเรื่องเสียวทุกๆ ท่าน ผมชื่อว่า ก้อง ครับ อายุก็เพิ่งจะ 21 ปีเท่านั้นเองครับ แต่เพราะว่าพ่อให้มาใหญ่ แม่ให้มาดี จนทุกๆ วันนี้ก็เป็นผู้ชายที่มากไปด้วยเรื่องเสียว ประสบการณ์เสียวแบบแทบจะใช้นิ้วนับไม่ได้แล้วครับ แต่ถ้าจะเอาเรื่องที่ผมยังจดจำได้จนถึงทุกวันนี้ก็น่าจะเป็น เรื่องที่ผมเผลอตัวปล่อยใจไปเย็ดกับเพื่อนแม่นี่แหละครับ ไม่ใช่ว่าที่เล่าเพราะมันไม่ดีนะครับ แต่ว่ามันดีจนต้องเอามาเล่าเลยนั่นละครับ

Read More