แฟนกู ตอน 3 แฟนมึง

แฟนกู ตอน 3 แฟนมึง

แฟนกู ตอน 3 แฟนมึง

โดย magna67t

ผมเดินออกจากคอนโดของโบนัสเพื่อไปขึ้นรถเมล์กลับหอ แต่พอผมเดินไปได้สักครึ่งทางโบนัสโทรเข้ามา
“ป้อง… อยู่ไหนแล้ว มาหาเราหน่อยได้มั๊ย…”

เสียงโบนัสฟ้องเลยว่าเธอร้องไห้อย่างหนัก ผมวิ่งกลับไปทันทีและชะงักที่หน้าลิฟท์
“น้องชื่อป้องใช่มั๊ยครับ คุณโบนัสให้ขึ้นไปหาครับ ชั้น 20 ห้อง 2020 ครับ เดี๋ยวผมกดลิฟท์ไปให้”

พอผมถึงหน้าห้องเท่านั้น โบนัสวิ่งเข้ามากอดผมแน่น แล้วเธอก็ร้องไห้ๆๆๆ และร้องไห้ ผมไม่พูดอะไรเลย เพราะผมก็ไม่รู้จะปลอบไง ไม่เคยปลอบคน…ทำไมเป็น ผมแค่กอดโบนัสแน่นๆ และเอามือลูบหัวของเธอ

“เราเป็นตัวอะไรเหรอป้อง ทำไมไอ้อาร์มมันถึงคิดอย่างนั้น มันพูดแบบนี้กะเราตลอดเวลา มันเห็นว่าเราง่ายเหรอ”
“เออ…แม่งคงแค่โมโหแหละ ที่ติดต่อโบนัสไม่ได้อ่ะ..”
“แล้วทีโบนัสโทรเป็นสิบๆครั้งอ่ะ ทำไมมันไม่พูดอะไรมั่ง”
“เออ … ไม่รู้ดิ อย่าไปสนใจมันเลย ขุ่นมัวเปล่าๆ เอางี้..วันนี้ว่างนี่นา ไปดูหนังกันมั๊ย”

เฮ้ย…ผมเป็นไรไปวะเนี่ย ผมจำได้ว่าโรงหนังครั้งสุดท้ายของผมคือเมื่อตอนผมเข้ามาเรียน ม 4 ครั้งแรกเลย แล้วพี่รหัสที่โรงเรียนพาไป จากนั้น…ผมก็ไม่เคยดูหนังอีก แล้ววันนี้ผมไปชวนโบนัสเนี่ยนะ….

“เดี๋ยวนะ ขอเรานั่งพักแป๊บนะ ตาบวมหมดแล้ว ไม่สวยแล้วอ่ะ”
“เฮ้ย อย่ากังวล สำหรับเรา…เธอน่ารักเสมอ”

โห….ผมเก่งมากที่พูดออกไปได้ คำพูดแบบนี้ไม่เคยมีจากหัวของผมเลยในชีวิต โบนัสยิ้มออกมาได้ และดึงผมเข้าห้องไป เธอเทน้ำส้มให้ผมนั่งเก้าอี้รับแขกรอ ห้องโบนัสก็มีสองห้องน่าจะของพี่ห้องนึง มีครัวและมีห้องรับแขก จะว่าไปก็ใหญ่เอาการเมื่อเทียบกับห้องเล็กๆซอมซ่อที่หอของผม ผมนั่งดูทีวีเรื่อยเปื่อย ผมไม่ติดซีรีส์เกาหลี ญี่ป่น จีน ฝรั่งใดๆ ข่าวก็ไม่ดู…น่ารำคาญการเมือง จะว่าไปผมไม่รู้จะมีทีวีไว้ที่หอทำไม ผมฟังเพลงเป็นส่วนใหญ่ เกือบครึ่งชั่วโมง โบนัสกลับออกมาจากห้อง โห…คราวนี้โบนัสน่ารักกว่าเดิมมากๆ เธอปล่อยผม ใส่เสื้อสีส้มอ่อน กางเกงยีนส์สีขาว อะไรไม่รู้ทำให้ผมเดินเข้าไปกอดเธอและจุ๊บที่ปากครั้งนึง

“น่ารักจัง”
“อย่าชมมาก เขิน ไปกันยัง นั่งรถไฟฟ้าไปนะ…”
“ได้…”

ดูหนังวันนั้น ผมกลายเป็นคนเดินตาม โบนัสสอนผมทุกสิ่งทุกอย่าง เหมือนผมมาจากอีกโลกที่อยู่หลังเขาสุดลึกไร้ความเจริญ ผมซื้อตั๋วจากตู้ก็ซื้อไม่เป็น สยามพารากอนก็ไม่เคยเดิน ร้านอาหารก็ไม่เคยเข้าเลยสักร้าน

“ง้านนนน กินที่ศูนย์อาหารแล้วกัน ไม่แพงมาก…”
และแน่นอน…โบนัสต้องสอนระบบการใช้บัตรเติมเงิน ระหว่างกินข้าว ผมดูหน้าเพื่อนสาวของผม ผมอยากเก่งแบบโบนัสเหลือเกิน เธอดูคล่องแคล่วว่องไว เป็นสาวสมัยใหม่ที่เรียนเก่งด้วยและสังคมเก่งด้วย

“อิ่มยัง….เออ นี่ ป้อง เธอเกิดวันไหนอ่ะ”
“30 มิถุนา มีไรเหรอ”
“ใกล้แล้วอ่ะ อยากได้ไรอ่ะ ปีนี้”
“ป้องไม่เคยฉลองเลยอ่ะ จริงๆนะ ไม่ต้องก็ได้มั๊ย…เราก็ไม่อยากได้อะไร”
“งั้นเดินดูของเฉยๆนะ”

เดินดูของก็มีความสุขได้ โบนัสเดินจับมือผมโดยผมไม่ต้องขอเธอหรือไหว้เธออีกแล้ว เธอจับมือผมเดินไปไหนมาไหนราวกับเราสองคนเป็นแฟนกัน ผมยังไม่รู้เลยว่าเธอจะจัดการกับไอ้อาร์มยังไง หรือผมจะต้องทำไงกะไอ้อาร์ม ผมรู้แค่ว่าดูหนังวันนั้นผมมีความสุขมาก
………………………………………..

หลายวันผ่านไป เราเปิดเรียนแล้ว ไอ้โอมเดินเข้าเตะผมเป็นการทักทายหน้าห้องเลคเชอร์วิชาแรกในมหาลัย
“ไอ้เหี้ยป้อง …แม่งนกรู้ รู้งี้กูไม่อยู่หอหรอก แม่งไม่ไหวว่ะ เมื่อคืนแม่งซ่อมกูถึงห้าทุ่ม ตีสี่ครึ่งแม่งปลุกแล้ว เหี้ยอะไรจะมากมาย”
“ก็มึงอ่ะ….บอกกูแล้ว แต่มึงอยากจะเสือกไปอยู่เอง”
“เฮ้ย แต่สาวๆเยอะ ใช้ได้ๆๆ มึงทำไรเนี่ย ไม่เข้าห้อง รอใครวะ ไปกะกูเลยให้กูลอกด้วย”
“เดี๋ยวๆๆๆ มึงเข้าไปก่อน กูรอแป๊บนึง..”

ผมรอโบนัสแหละครับ แต่เธอขึ้นมาพร้อมกับไอ้อาร์ม พอผมเห็นผมเลยรีบเข้าไปนั่งกะไอ้โอม
“ไอ้เหี้ยนั่นท่าทางจีบโบนัส”
“มึงรู้ได้ไงไอ้โอม”
“เชี่ย มึงก็หัดดูตั้งแต่วันแรกสิวะ แม่งก็มากะยัยโบแล้ว กูเห็นแม่งไปไหนมาไหนตลอด ยกเว้นวันที่บ้านพี่แจ๋มที่มันไม่มา เออ..เห็นว่าไม่มารับไอ้โบ จริงป่ะ”
“จริงดิ กูออกมากะรถพี่แหวว ก็พามันมาด้วย”
“แล้วไง มึงก็ฟันไอ้โบนัสไปแล้ว 5555”
“เชี่ย มึงบ้าเหรอ …”

ผมรู้ไอ้โอมมันพูดเล่น แต่ถ้าโบนัสได้ยินคงไม่ยินดี ผมไม่เป็นอันเรียนเท่าไร สายตาจ้องอยู่ที่โบนัสที่นั่งข้างไอ้อาร์ม ไอ้อาร์มไม่จดอะไรเลย มือขวาของมันอยู่ข้างล่าง ผมเดาว่ามันจับมือซ้ายของโบนัสอยู่ โบนัสทำท่ารำคาญ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมจดได้มั่งไม่ได้มั่ง สมาธิไม่มีเลย ผมเข้าใจหละ…การมีแฟนมันทำให้วอกแวกขนาดนี้

“มึงเป็นเหี้ยไรเนี่ย ทั้งชั่วโมงมึงจด หน้าเดียวเนี่ยนะ แล้วกูจะลอกห่าได้ไงวะ”
“เออ น่า เดี๋ยวกูเรียนทันเองแหละ เฮ้ย…กูไปก่อนหละ…”
“มึงจะรีบไปไหน ก็มึงต้องไปเรียนห้องเดียวกะกู ก็ไปด้วยกันดิ รอเดี่ยวเก็บของก่อน”

ผมไม่ได้ฟัง แต่เดินตามโบนัสออกมา พอออกนอกห้องก็เห็นโบนัสเดินอยู่คนเดียว ผมเดินตามห่างๆไประยะนึงจนไอ้โอมเดินตามมาทันผม
“เชี่ย มึงแม่งเป็นบ้าไรวะ รีบไปไหนเนี่ย อ๋ออออ….เดินตามไอ้โบ ไมวะ…มึงจะจีบมันเหรอ ระวังตีนนะ อ้าว..แฟนแม่งไปไหนล่ะ”
“เออ….กูก็หาอยู่เนี่ย”
“เอาตามสบายเลยมึง เดี๋ยวกูไปนั่งกะคนอื่นก็ได้…”

ผมเดินข้ามสนามบอล ผ่านมาจนถึงพระรูปแล้ว ไม่เห็นวี่แววไอ้อาร์ม ผมเลยเร่งฝีเท้าจนถึงโบนัส
“โบนัส… รอก่อน โอ๊ย…เหนี่อยจัง เดินเร็วอ่ะ”
“อ้าว ป้อง มาเรียนด้วยเหรอ…”
“มาดิ โดดชั่วโมงแรกสุดนี่ไม่ดีแน่นอน เรานั่งหลังกะไอ้โอม ยังเห็นเธอนั่งกะไอ้อาร์มเลย”
“เออ มันโดดเรียนแล้ว บอกว่าเดี๋ยวเที่ยงมากินข้าว”

ไม่รู้สิครับ… ผมนั่งเรียนข้างๆโบนัสแล้วมีความสุขดีจัง มันเป็นความสุขที่ผมไม่เคยมีเลยสมัยเรียนมัธยม ซึ่งผมว่าสมัยนั้นผมเรียนเครียดกว่านี้มากๆ วิชาที่สองและสามผมโชว์ฟอร์มการจดเลคเชอร์ชนิดโบนัสหยุดดู

“เฮ้ย…โห เทพมากอ่ะ สะอาดเรียบร้อย เรียงอย่างดีเลยว่ะ ทำได้ไงเนี่ย มีสีด้วย”

ผมหันมายิ้ม และก็ก้มจดต่อไป ก่อนจะยัดเศษกระดาษใส่มือโบนัส
“อยากหอมแก้ม คิดถึงจัง กินข้าวเที่ยงด้วยกันนะ”

โบนัสอ่านจบแล้ว ก็หันมายิ้มแก้มแดง แล้วพูดแบบไม่มีเสียงว่า “ไอ้บ้า” แต่สายตาของเธอไม่ได้เป็นอย่างนั้น
“ป้อง เรา…เอ่อ…ไปกินด้วยไม่ได้ ไอ้อาร์มมันจะมากินข้าวกะเรา”
“อืมม์ ว่างก็มากินกันนะ เดี๋ยวเราไปกะไอ้โอมก่อน”

ผมก็เดินไปหยอกล้อกะไอ้โอมและผองเพื่อน ผมนั่งกินนานมาก เพราะมัวแต่ฟังไอ้โอมเล่าประสบการณ์หอของมัน แต่แล้วสายตาผมก็มองไปเห็นโบนัสเดินเข้ามาโรงอาหารเพียงคนเดียวตอนเที่ยงครึ่ง
“เฮ้ย กูไปก่อนนะ เจอกันที่แลป”

ผมเดินตรงไปที่โบนัส หน้าตาของเธอบอกบุญไม่รับอย่างมาก
“โบนัส ทำไมเพิ่งมาอ่ะ ไอ้อาร์มล่ะ”
“อย่าเพิ่งถามตอนนี้ หิวข้าวหละ เดี๋ยวขอกินก่อน”
“งั้นซื้อน้ำให้”

ผมนั่งเป็นเพื่อนโบนัสกินข้าว ท่ามกลางสายตาเพื่อนๆคณะแพทย์หลายคน ผมว่าผมบริสุทธิ์ใจนะ แต่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผมจีบโบนัสอยู่
“ไม่รู้มัน เราเริ่มเบื่อที่จะรอมันแล้วอ่ะ เบื่อมาก… เราต้องมารีบกินข้าวทั้งที่เลิกตั้งแต่ 11 โมงแล้ว”
“เอาเหอะ แล้วมันว่าไปไหนอ่ะ มันโดดสองชั่วโมงเลยนะ”
“ไม่รู้มัน ไม่ถาม…”

หลังจากเลิกเรียนแลปบ่าย พี่ๆทั้งหลายก็นัดเชียร์ และแน่นอนไอ้อาร์มหายหน้าไป โบนัสหน้าตายู่ยี่มากๆ เธอดูไม่ค่อยมีอารมณ์เท่าไร ผมกะเธออยู่เลขที่ห่างกันมากๆ แต่ระยะจากที่ผมนั่งก็เห็นโบนัสได้ไม่ยากนัก และระหว่างพี่ว้ากไปสักครู่โบนัสร้องไห้ออกมาตูมใหญ่ จนพี่ๆ เข้าไปช่วยดูกัน พี่แหววที่แสนใจดีของผมเข้าไปคนแรกและตามมาด้วยสิบนางฟ้า ผมไม่ค่อยมีกะใจซ้อมเชียร์เท่าไหร่

“โบนัส…” ผมเดินเข้ามาหา สายตาผมบอกเธอว่าผมเป็นห่วง เธอยิ้มพยักหน้า
“เย็นนี้นอนคอนโดเราได้มั๊ยป้อง เป็นเพื่อนเราหน่อย”

“อ้าว…พี่เธอล่ะ”
“วันนี้ขึ้นวอร์ด ไม่กลับมั๊ง”
“เอาไงดีอ่ะ เดี๋ยวแวะไปหอเอาเสื้อผ้าแป๊บนึงนะ แล้วเดี๋ยวเราตามไป”

ช่วงเย็นแถวปทุมวันมันก็รถติดมากมายเหลือเกิน กว่าผมจะถึงคอนโดของเธอก็เกือบทุ่มแล้ว โบนัสซื้อข้าวหมูแดงขึ้นไปกินกะผม ทันทีที่สองเท้าของเราก้าวเข้าห้อง โบนัสเข้ามากอดผม
…เธอร้องไห้น้ำตาไหลออกมา

“เป็นไรอ่ะ ไม่สบายใจเรื่องไอ้อาร์มเหรอ”
“มันขอเลิกกะโบนัส”
“ห๊า อะไรนะ…”

ผมงง..บอกแล้วผมไม่รู้เรื่องความรักบ้าบอหรอก ไม่เคยมีประสบการณ์ แต่ผมรู้สึกเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ใครร้องไห้ผมก็สงสาร นี่ยิ่งเป็นโบนัส ผมยิ่งสงสารมากๆ ผมไม่มีทักษะการปลอบคน ผมก็ทำเท่าที่ผมรู้ ผมเดินเข้าไปกอดโบนัสแน่น และลูบหัวเพื่อนผม แต่มันเหมือนเร่งเร้าให้โบนัสร้องไห้หนักขึ้นมาก
“ตกลงโบนัสเป็นแฟนมันเหรอ งั้นเราก็ทำผิดหละ ขอโทษโบนัสจริงๆนะ คืนนั้นเอ่อ…เราไม่ควรเลย”
“ไม่ใช่…ป้อง ไอ้อาร์มมันมีนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่เรียนแล้ว ไอ้อาร์มมันให้เกียรติผู้หญิงน้อยเกินไป”

ผมงงเป็นไก่ตาแตก ให้เกียรติผู้หญิงนี่ยังไงวะ สิ่งที่ผมทำคืนนั้น เข้าข่ายการหยามเกียรติมั๊ย ไม่รู้สิ แต่ผมว่าผมทำอะไรที่ไม่ฝืนใจโบนัสน่าจะดีกว่า
“เออ ใจเย็นโบนัส กินข้าวกันนะ เอ้านั่งๆ เดี๋ยวเราจัดจานให้”

มื้อเย็นง่ายๆวันนั้น ผมเห็นถึงจิตใจของโบนัส เธอเชื่อมั่นและให้อภัยไอ้อาร์มมาโดยตลอด แต่ในทางกลับกันไอ้อาร์มกลับเห็นโบนัสเป็นของตายและทำอะไรไม่เคยเกรงใจโบนัส และโบนัสโทรไปถามก่อนเข้าห้องเชียร์ว่าทำไมไม่มากินข้าวเที่ยง ไอ้เหี้ยอาร์มเลยรำคาญ…ขอเลิกกะโบนัส เธอน้ำตาไหลตลอดที่คุยกัน เฮ้อ….ผมไม่เคยรู้ว่าความรักมันจะหนักหนาสาหัสขนาดนี้ หนังสือไม่เคยทรยศผมเลย ไม่เบื่อก็อ่านมัน เบื่อก็ปิดมัน ไม่เคยงอนไม่เคยนอกใจ แต่ผู้หญิงน่าจะยากกว่าหลายเท่า

“เอาน่า…ทำใจให้สบาย เริ่มใหม่แล้วกัน โบนัสเป็นเพื่อนเรา ตอนนี้พวกเราเป็นน้องใหม่ปี 1 เรายังมีชีวิตอีกตั้งยาวนะ”
เอ๊ะ… ผมปลอบใจมันได้ไงวะ ผมก็ไม่เก่งอะไร แต่ผมพูดไปตามความเห็นของผมจริงๆ แล้วผมยกมือไหว้โบนัสครั้งนึง
“โทษนะครับ ขอผมจับมือหน่อยนะครับ”
แล้วผมก็ยื่นมือผมไปจับมือโบนัส เธอยิ้มและหัวเราะทั้งน้ำตา แต่เธอก็ให้ผมจับมือแต่โดยดี ผมไม่ได้พูดอะไรอีก ให้มือผมปลอบใจเพื่อนผู้หญิงคนแรกของผม ท้ายสุดเธอพยักหน้าและยิ้มให้ผม และจู่ๆก็มีโทรศัพท์เข้ามา

“ค่ะพี่ยาม อ่อค่ะ เดี๋ยวลงไปค่ะ” โบนัสวางสาย “ไอ้อาร์มมา”
“ให้เราทำไง”
“ลงไปด้วย แต่ป้องไม่ต้องไปเจอมันนะ”

ไอ้อาร์มมาจริงๆด้วย ผมยืนในห้องลิฟท์ ตามที่โบนัสบอก แต่ทั้งสองคนยิ่งพูดยิ่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ไอ้อาร์มผลักไหล่โบนัสจนตัวปลิว
“น้องๆ พี่ว่ามันเกเรมาก น้องจะออกไปช่วยมั๊ย”
พี่ รปภ พูดใจเดียวกะผม ผมเดินออกไปเลย
“ไอ้อาร์ม…มึงหยุด พอเหอะ มึงกลับไปได้แล้ว ปล่อยให้โบนัสเค้าอยู่คนเดียว”
“อ๋อ….เดี๋ยวนี้มึงเอาผู้ชายมานอนที่ห้องเลยเหรอ”
แล้วไม่ทันคาดคิด มันปราดเข้ามาตบหน้าโบนัสอย่างแรง ผมไม่เคยชกกะใคร แต่งานนี้ผมกระโดดทีเดียวถึงตัวมัน ด้วยความที่ผมตัวใหญ่ แรงปะทะของผมทำให้ไอ้อาร์มล้มลงไปกะผม ก่อนที่เราจะชกกันพี่ยามสามสี่คนแถวนั้นที่ดูเหตุการณ์อยู่ก็วิ่งเข้ามาดึงพวกเราออกจากกัน
“ไอ้ป้อง มึงเสือกอะไรกะแฟนกู”
“คนนี้เหรอ” ผมชี้ไปทางโบนัส

“คนนี้ไม่ใช่แฟนมึง…โบนัสเป็นแฟนกู”

Share the Post:

Related Posts

อยากโดนขี้เมาควยใหญ่เย็ด เลยเอาเหล้าขาวเข้าล่อ จนได้เสียวกัน

เรื่องเสียว อยากโดนขี้เมาควยใหญ่เย็ด เลยเอาเหล้าขาวเข้าล่อ จนได้เสียวกัน “พี่สกล” ในเวลาปกติ เขาคือผู้ชายที่หล่ออันดับต้น ๆ ในหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ หรือถ้าจะพูดว่าหล่อที่สุด ก็ไม่ได้ผิดแปลกไปจากคำนั้นเท่าไหร่ ผู้หญิงหลาย ๆ คนต่างปรารถที่จะได้ร่วมรักกับเขา เรื่องเสียวของเธอกับเขานั้นเกิดขึ้นในจินตนาการมากมาย ทว่าสุดท้ายแล้ว พออาทิต์ตกดิน พี่สกลก็กลายเป็นผู้ชายที่สำมะเลเทเมา ทำให้ความหล่อเหลาและเสน่ห์ที่มีในยามกลางวันนั้นหายไป นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ไม่มีใครเลยจะยอมคบกับเขา

Read More

แอร์ห้องหนูเย็นนะ มาเย็ดกันไหม

เรื่องเสียว แอร์ห้องหนูเย็นนะ มาเย็ดกันไหม เรื่องเสียวเรื่องนี้มันเกิดขึ้นปุบปับมากเลยครับ เพราะว่าผมได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งในแอปนัดเย็ด ซึ่งเธอเองเป็นคนน่ารักที่ตรงสเป๊กผมเหลือเกิน เธอตัวเล็ก นมใหญ่พอประมาณ เอวบาง มีสะโพกนิดหน่อย แถมหน้าตายังจิ้มลิ้มอีกด้วย มันเลยทำให้ผมเองที่สานความสัมพันธ์กับเธอภายหลังจากที่เธอทักมานั้น ผมเป็นคนไปหาเธอเองทันที เหตุผลง่าย ๆ คือวันนี้เป็นวันหยุดของเธอ และห้องของเธอก็มีแอร์ คนที่ทำงานกลางคืนอย่างผม และบ้านไม่มีแอร์ การต้องตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะต้องสู้กับแดดที่ร้อนเหมือนนรก

Read More