ตำนานนักรัก ตอนที่ 70

ตำนานนักรัก ตอนที่ 70

ตำนานนักรัก ตอนที่ 70

คงเพราะผมยังขับรถไม่ค่อยเก่ง จึงต้องขับอย่างระมัดระวังและใช้ความเร็วได้ไม่มากนัก พอมาถึงอยุธยา จึงปรากฏว่ารถ
ของนายเอ็มหนุ่มนักเรียนนอก ที่พาคุณเจนและครอบครัวมาร่วมงานด้วย มาถึงก่อนหน้าผมแล้วเกือบชั่วโมง พอผมขับรถ
เข้ามาถึงบ้านพัก ที่เคยเป็นสมบัติของพ่อตาผม แต่บัดนี้ แกยกให้เป็นเรือนหอของพี่ชิตเสียแล้ว

คู่แต่งงานบ่าวสาวทั้งสองต่างออกมาต้อนรับทันที่เปิดประตูรถลงมา ต่างทักทายสวัสดีทำความเคารพกันเรียบร้อยแล้ว
ผมจึงมองกราดไปทั่วๆงานแต่ง ที่มีแขกเหรื่อไม่มากนัก พี่ชิตแกคงชวนเฉพาะญาติๆมาร่วมงานเท่านั้นเป็นแน่ ส่วนทาง
ด้านคุณอร นอกจากคุณเจนที่เป็นเพื่อนสนิทคนเดียวนั้น ผมก็ไม่เห็นมีใครอีกเลย

ระหว่างการทักทายพูดคุยกันในบริเวณหน้างาน ผมพยายามเดินเลี่ยงห่างออกมาอย่างเงียบๆ หลังจากมองเห็นสายตา
คุณเจนที่ขยิบส่งสัญญาณมาให้ ด้วยไม่รู้จุดประสงค์ของเธอ แต่จากสีหน้าท่าทางบ่งบอกว่าเธอมีความกังวลบางอย่าง
อยู่ในใจเป็นแน่

“จะไปไหนคะคุณ…”

ผมขยับเดินออกจากวงสนทนาได้เพียงสองสามก้าว คุณดาก็ร้องทักทางเบื้องหลัง เล่นเอาผมสะดุ้งรีบหันกลับไปมอง
พร้อมให้เหตุผลเสียงอึกอัก

“เอ้อ..จะ..จะไปห้องน้ำน่ะครับ..”

ผมร้องบอกเสร็จ ก็เดินลิ่วๆขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างรู้ทาง พอขึ้นไปชั้นสองของตัวบ้านเสร้จ จึงหันมาเห็นว่าพี่ชิตพา
คุณดาและพ่อตาผมรวมทั้งคุณวิไปนั่งยังโต๊ะจีนที่จัดไว้ โดยมีพ่อแม่ของว่าที่คู่หมายคุณเจนนั่งรออยู่ จากนั้นทั้งหมด
ต่างก็พูดคุยกันโดยไม่มีใครสนใจมองขึ้นมา ผมจึงเดินลิ่วไปยังห้องน้ำ แล้วนั่งรอหวังว่าคุณเจนจะสามารถปลีกตัว
ขึ้นมาได้

จนเวลาผ่านไปเกือบ15นาที ผมก็เห็นคุณเจนเดินขึ้นบันไดมาพร้อมคุณอร ผมรีบผุดลุกขึ้นยืน คุณเจนก็เดินตรงลิ่วเข้า
มาหา โดยที่คุณอรยืนรออยู่กลางโต๊ะทานข้าว เหมือนคอยดูต้นทางให้

“มีเรื่องอะไรครับ…” ผมร้องถามอย่างรวดเร็วด้วยความอยากรู้

“เมื่อตอนเจนมาถึง..เจนเห็นไอ้พวกคนที่จับเจนกับอรไปกักขังแล้วมอมยามาอยู่ในงานด้วยค่ะ…” คุณเจนร้องบอกเสียง
สั่นๆ ท่าทางยังหวาดกลัวไม่หาย

“ไม่ต้องกลัวหรอกครับคุณเจน…พวกนั้น..เอ้อ…ไม่ได้มุ่งร้ายกับคุณเจนหรอกครับ…” ผมร้องปลอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
พร้อมฉวยมือคว้ามือเล็กๆนุ่มๆสั่นๆ ของคุณเจนมากุมหวังปลอบโยน

“เอ๊ะ!…ทำไมตัวเองพูดแบบนี้ล่ะ…ไม่ได้มุ่งร้าย..แล้วพวกเค้ามางานได้อย่างไร..พอไอ้คนตัวเล็กๆ เห็นหน้าเค้า..มันก็
หนีหายไปเลย…”

คุณเจนยังพูดด้วยน้ำเสียงหวั่นๆ เหมือนยังข้องใจคำตอบของผม จนผมต้องบอกความจริงให้เธอรับทราบ เพื่อหวังให้
เธอคลายความระแวงหวาดกลัว แต่แล้วผลที่ได้รับกลับตรงกันข้าม

“อะไรนะ…หมายความว่า..เรื่องที่เกิดขึ้น..คุณตาวางแผนไว้เช่นนั้นหรือ..คุณตากับนายเห็นเจนเป็นตัวอะไรกันนี่..”

เมื่อคุณเจนได้รับทราบความจริงทั้งหมดแล้ว เธอย้อนถามกลับด้วยสุ้มเสียงกราดเกรี้ยว หน้าเริ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ
พร้อมสะบัดมือของผมที่กุมปลอบโยนออกอย่างรวดเร็ว

“ใจเย็นๆครับคุณเจน..คุณพ่อทำไปด้วยความหวังดีนะครับ…”

ผมให้เหตุผลเตือนสติคุณเจน พร้อมเอื้อมมือไปคว้าข้อมือเล็กๆของเธอดึงมากุมไว้อย่างเดิม แต่คราวนี้คุณเจนรีบสะบัด
ออกด้วยอารมณ์โกรธอย่างรุนแรง

“ถ้าเช่นนั้น..สิ่งที่นายทำกับเจน..คงไม่ใช่ความ…” คุณเจนตวาดเสียงดัง คำพูดสะอึกติดค้างในลำคอ พูดไม่ออก

“นายคงสะใจละสิ..ที่ทำแบบนั้นกับเจน..ไอ้คนคด..ไอ้คนเลว…”

คุณเจนส่งเสียงเอะอะโวยวาย ไม่ยอมฟังคำอธิบายจากผม แล้วรีบตวัดฝ่ามือฟาดใส่ซีกแก้มของผมเสียงดังฉาด..! อย่าง
รวดเร็ว ก่อนจะผลุนผลันหันกลับวิ่งไปทางคุณอร ที่ยืนตกตะลึงคาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

“ฟังผมอธิบายก่อนครับคุณเจน…” ผมร้องเรียก ด้วยความตกใจ พร้อมถลันวิ่งไล่ตาม แต่คุณอรยืนขวางไว้

“หลีกทางให้ผมก่อนครับ…” ผมร้องบอกคุณอรด้วยสุ้มเสียงเครียดๆ แล้วยื่นมือผลักร่างบอบบางของคุณอรให้หลีกทาง

“อย่าตามไปเลยค่ะพี่..พูดไปตอนนี้ยัยเจนคงไม่รับฟัง..รังแต่จะเกิดเรื่องบานปลาย…” คุณอรร้องบอกเรียกสติผมไว้ พร้อม
ยึดข้อมือผมไว้แน่น ไม่ให้ถลันวิ่งตามคุณเจนลงไปจากเรือน

“คุณอรทราบเรื่องทั้งหมดแล้วใช่มั๊ยครับ…”

“ค่ะ..พี่ชิตบอกอรหมดแล้ว…พี่ทองดีใจเย็นๆนะคะ..ไว้อรจะบอกให้ยัยเจนมันทราบเอง ว่าเรื่องนี้พี่ไม่ได้เกี่ยวข้องรุ้เห็น
ด้วยแต่แรก…” คุณอรร้องบอกเสียงเย็นๆเรียบๆ แล้วรีบปล่อยมือที่ยึดแขนผมไว้ เมื่อแลเห็นว่าพี่ชิตเดินขึ้นมาตามว่าที่
เจ้าสาวของแก

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือคุณทองดี..พี่เห็นยัยเจนวิ่งลงไปจากเรือน…” พี่ชิตเดินตรงเข้ามายืนเคียงข้างเจ้าสาวของตนเอง
แล้วถามเสียงตื่นๆ

“เรื่องวันนั้นแหละครับพี่..คุณเจนเข้าใจว่าผมร่วมมือกับคุณตาวางยาเธอครับ…” ผมรีบอธิบาย พอพี่ชิตได้ยินถึงกับขมวด
คิ้วอย่างหนักใจ พร้อมหันไปย้อนถามคุณอร ด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“อ้าว..น้องอรยังไม่ได้บอกยัยเจนอีกหรือครับ…”

“ยังค่ะพี่ชิต..อรมัวแต่ยุ่งๆเกี่ยวกับเรื่องสอบ..เลยลืมบอกยัยเจนไป..อรขอโทษ..”

คุณอรกล่าวขอโทษเสียงอุ๊บอิ๊บเบาๆ แต่ผมไม่ได้ใส่ใจอยากโทษว่าเป็นความผิดของเธอ เพราะใจมัวแต่กังวลว่าคุณเจน
จะเข้าใจผมผิด คิดว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเธอนั้น เกิดขึ้นมาจากความสะใจ ต้องการแก้แค้นที่เธอร้ายกับผมมา
ตลอด จนผมร่วมมือกับคุณตาหลอกให้ญาติๆมาวางยาแล้วล่วงเกินเธอ หาได้ทำลงไปเพราะความรู้สึกที่เธอเข้าใจว่าผม
รักเธอ

“ผมต้องลงไปอธิบายให้คุณเจนฟังครับพี่…” ผมรีบร้องบอก พร้อมพยายามแกะมือพี่ชิตที่ยึดแขนผมไว้ออกแต่แกก็ไม่ยอม
ปล่อย ซ้ำยึดจับแน่นขึ้น

“คิดให้ดีๆก่อนสิครับคุณทองดี..พูดไปตอนนี้มีแต่เสียกับเสียนะครับ…เรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับยัยเจนต่างปิดไม่ให้ใคร
รู้..แม้กระทั่งคุณลุง…ถ้าไปพูดกับคุณเจนตอนนี้..เพื่อนชายรวมทั้งพ่อแม่เค้าคงทราบกันหมด..แล้วคุณเจนกับคุณดาจะเอา
หน้าไปไว้ไหน…ใจเย็นๆก่อนครับ..ผมกับน้องอรจะค่อยๆอธิบายให้ยัยเจนรู้ภายหลัง…”

พี่ชิตพยายามร้องปลอบเตือนสติ ความคิดที่วู่วามของผม ซึ่งพอผมได้ยินและคิดตาม มันก็เป็นจริงแบบที่แกพูด แม้คนที่
มาร่วมในงานแต่ง จะเป็นญาติๆกันเสียส่วนมาก แต่ก็มีไม่น้อยที่เป็นเพื่อนฝูงคนรู้จัก ถ้าคนเหล่านั้นต่างรับรู้ว่าทั้งคุณเจน
และคุณดาสองคนแม่ลูก ต่างมีผัวคือผมคนเดียวกัน คงได้เอาไปนินทากันสนุกสนานอย่างแน่นอน

“เดี๋ยวคืนนี้น้องอรพยายามดึงให้ยัยเจนอยู่จนแขกเหรื่อกลับกันเสียก่อนนะ..แล้วเราค่อยอธิบายให้เธอฟัง..”

พี่ชิตหันไปร้องสั่งคุณอรอย่างเป็นการเป็นงาน จนเธอพยักหน้าตอบรับเบาๆ จากนั้นจึงชวนผมเดินลงมาจากเรือนพร้อมๆกัน
เมื่อเห็นว่าผมใจเย็นลงแล้ว จนกระทั่งเดินพาผมลงมาส่งที่โต๊ะจีน คุณเจนเงยหน้ามอง แต่ไม่ยอมสบตา เธอกับเชิดหน้าใส่
พร้อมหันไปหัวเราะคุยกระหนุ๋งกระหนิงกับไอ้เอ็มหนุ่มนักเรียนนอก เสมือนว่ารักกันนักหนา ทำเอาผมหน้าชา รีบทรุดตัวลง
นั่งตรงข้ามกับเธอ

“ทำไมไปนานจังคะ…”

คุณดากระซิบถามเบาๆ พร้อมสอดมือลอดใต้โต๊ะมายึดกุมมือที่ชื้นเหงื่อของผม แล้วทำให้แปลกใจสงสัยว่าทำไมมันจึงชุ่ม
เหงื่อขนาดนั้น

“ตื่นเต้นเรื่องอะไรคะ..หรือคุณอยากมีงานแบบนี้บ้าง…” คุณดากระซิบถามเสียงใสๆ หวานๆ ตัวเธอก็คงตื่นเต้นบ้างเช่นกัน
เมื่อคู่สวาทคนหนึ่งแต่งงานไปกับสาวรุ่นลูกเช่นนี้

“เอ้อ..ดีใจน่ะครับ..ที่เห็นพี่ชิตเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที..”

[post]ผมกระซิบตอบเบาๆ พยายามซ่อนร่องรอยพิรุทที่อาจจะเกิดขึ้นบนใบหน้า พร้อมเหลือบตามองไปทางคุณเจนที่ปั้นหน้ายิ้ม
ย่องผ่องใส กับการเอาอกเอาใจของไอ้เอ็มหนุ่มนักเรียนนอกที่แทบจะป้อนอาหารของว่างใส่ปากแย้มยิ้มของเธอ จนผมกึ่ง
โมโหกึ่งหมั่นไส้ ที่มองเห็นทั้งคู่ออดอ้อนออเซาะกันเสมือนว่าทั้งโต๊ะอยู่เพียงกันสองคนเท่านั้น จึงเค้นเสียงประชดออก
ไปเบาๆ

“ผมว่าคุณดาคงต้องเตรียมวางแผนจัดงานให้คุณเจนกับคุณเอ็มมากกว่าแล้วละครับ…” แม้จะประชดด้วยเสียงเบาๆแล้วก็
ตาม แต่ผู้คนที่นั่งล้อมวงรอบโต๊ะกลับได้ยินกันหมด จนคุณกิ๊กและคุณประกอบพ่อแม่ของนายเอ็มหัวเราะอย่างดีใจที่ได้ยิน
รีบร้องแซวเสียงขำๆกลั้วเสียงพูดดังๆออกมา เหมือนกับจะประกาศให้ทุกคนล่วงรู้โดยทั่วกัน

“ชั้นละดีใจจริงๆยัยดา ที่จะได้ดองกับเธอ.. ห้ามเบี้ยวกันนะยะ..จริงมั๊ยคุณประกอบ…อิอิ..หนูเจนเธอทั้งน่ารักทั้งน่าเอ็นดู…”

ผมได้ยินชัดเต็มสองหู ถึงกับหน้าเจื่อน ข้างฝ่ายคุณเจนกับตรงข้าม เธอยิ้มย่องจนหน้าบานจนผมอยากลุกขึ้นเอากระบอง
ประจำตัวฟาดเสียให้หน้าแตก แต่ทำไม่ได้นอกจากแอบจิกเล็บกุดๆสั้นๆลงที่ฝ่ามือข้างที่คุณดาไม่ได้เกาะกุมจับไว้

“ไม่ต้องรีบหรอกค่ะคุณแม่…เจนขอศึกษาดูนิสัยพี่เอ็มให้แน่นอนเสียก่อน…ไม่อยากเลือกคนผิด..เดี๋ยวทองที่เห็นว่างามจะ
ลอกกลายเป็นก้อนกรวดเสียก่อน…”

คุณเจนกล่าวยิ้มๆ แค่ฟังดูเหมือนเธอพูดเล่นๆ แต่สายตาที่ลอบตวัดจิกมาใส่ผมนั้น ผมรู้เลยว่าเธอเปรียบเปรยว่าผม มัน
เป็นทองเก๊ เป็นสีทองที่ทาหุ้มก้อนกรวดเอาไว้หลอกตาคนแค่นั้น

Share the Post:

Related Posts

เบาๆ หน่อย หนูเจ็บ

เรื่องเสียว เบาๆ หน่อย หนูเจ็บ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราวๆ ต้นเดือน ธันวาคม ครับ ผมเพิ่งจะได้มีโอกาสบอกเล่าประสบการณ์ครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ฟัง ก่อนอื่นขอแนะนำตัวสักนิดเพื่ออรรถรสในการเล่าเรื่อง ผมชื่อนทีครับ รับราชการอยู่ในหน่วยงานของอำเภอหนึ่ง ณ จังหวัดทางภาคอีสานตอนล่าง ที่ทำงานของผมอยู่ติดกับโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งแบบรั้วชนรั้วเลยล่ะครับ และบังเอิญบ้านพักข้าราชการของผมดันอยู่ติดสนามซ้อมเชียร์ของเชียร์ลีดเดอร์โรงเรียนซะด้วย ทุกเย็นเมื่อผมทำกิจวัตรประจำวันก็จะเห็นเด็กๆมัธยมสาวๆซ้อมเชียร์กันเสียงดังอยู่เรื่อยช่วงใกล้กีฬาสี แน่นอนว่ารั้วกั้นของสองสถานที่ราชการเป็นกำแพงไม่สูงนักแถมช่องโผล่เอาไว้ อันนี้ไม่ได้บอกว่าตัวเองหล่อหรืออะไรนะครับ

Read More

พ่อผัวตัวแสบ แอบแซ่บกับลูกสะใภ้

เรื่องเสียว พ่อผัวตัวแสบ แอบแซ่บกับลูกสะใภ้ ก่อนอื่นขอเท้าความไปยังเมื่อครั้งที่ผมได้เย็ดกับลูกสะใภ้เป็นครั้งแรก ตัวผมเองอายุ 60 ต้นๆ เป็นหม้ายเมียตายมาราวๆ สามสิบปปี แต่ยังแข็งแรงปึ๋งปั๋ง ฟิตเปรี๊ยะเป็นหนุ่มๆ สำหรับเรื่องอย่างว่า เรื่องราวนี้เริ่มจากการที่ลูกชายของผมแต่งงานได้สองปีกว่าๆ กับลูกสะใภ้อายุสามสิบซึ่งรุ่นราวคราวเดียวกัน ด้วยความที่ลูกชายผมอยู่ในวัยกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว เขาจึงเอาแต่ทำงานเก็บเงินโดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องความสุขของครอบครัวมากนัก นิ่มเป็นลูกสะใภ้ที่ดีมาโดยตลอด ในวันหยุดเธอทำความสะอาดบ้านตามปกติและเป็นประจำที่ลูกชายของผมออกไปทำงานหาเงินแทนที่จะพักผ่อน นิ่มมักหยุดอยู่บ้านกับผมเสมอๆ ผมนั่งอยู่บนโซฟา

Read More