ขุนช้างขุนแผน ตอนที่ 8
โดย ท่าน khunsor
ในที่สุดวันแต่งงานมหามงคลของพลายแก้ว และพิมพิลาไลยก็มาถึง มันเป็นงานมงคลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองสุพรรณบุรี ชาวเมืองสุพรรณบุรีแทบทุกคนมาร่วมงานมงคลนี้โดยถ้วนทั่ว และก็แทบทุกคนก็มาแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวในงาน ยกเว้น
“ฮือ โฮ ฮ้า อยากตาย กูอยากจะตายจริงๆ โว้ย แง” ชายผู้อัตคัตผมผู้นี้ มานั่งร้องไห้เป็นวรรคเวรอยู่ยังหน้างาน ยังความประหลาดใจแก่ผู้ที่มาร่วมงานเป็นอย่างยิ่ง นอกจากร้องไห้ขี้มูกยืดเป็นงวงช้างแล้ว บางครั้งยังมีการนอนกลิ้งถีบเท้าอย่างไม่ยินยอม สร้างความขบขันแก่ผู้พบเห็น บางคนก็รู้สึกสมเพช เดาไม่ยากครับ ขุนช้างของเรานั่นเอง ขุนช้างนั้นเจ็บใจตนเองยิ่งนักที่อยู่ๆ ก็หลับใหลกันไปทั้งบ้าน พอตื่นมาอีกทีก็รู้ข่าวงานมงคลสมรสของพลายแก้วกับพิมพิลาไลยแล้ว แถมยังไม่พอ พลายแก้วยังมาเชิญตนให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวอีกด้วย สร้างความเจ็บใจปนเสียใจแก่ขุนช้างยิ่งนัก ไม่ทันได้อาบน้ำแต่งตัวก็รีบแล่นไปยังงานทันที แล้วก็เห็นว่ามันเป็นความจริง สร้างความ
เสียใจจนมานั่งร้องไห้อยู่ที่หน้างานนี่เอง
“อ้าว ช้าง นายมานั่งหัวเราะอยู่ที่นี่เอง รีบเข้าไปในงานเร็ว เจ้าบ่าวเจ้าสาวเขาเตรียมจะรดน้ำสังข์กันแล้ว” เพื่อนคนหนึ่งลงมาตามขุนช้างเพื่อไปทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าว
“กูร้องไห้โว้ย ไม่ได้หัวเราะ ฮือ กรรมของกูจริงๆ เออ กูจะรีบไปเดี๋ยวนี้ ไม่รู้จะมาเร่งกูหาหอกอะไร คนยิ่งกลุ้มใจอยู่” ขุนช้างพูดพลางร้องไห้พลาง ลุกขึ้นเดินตามเพื่อนขึ้นไปบนเรือนทันที
บนเรือนขณะนี้กำลังคลาคล่ำด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา เดินสับสนไปมา แต่งตัวสวยงาม อวดเครื่องเพชรทองหยองใส่กันให้วูบวาบบาดตา
ภายในเรือนตกแต่งอย่างสวยงามสมกับเป็นงานมงคลสมรสของเศรษฐีนีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองกาญจนบุรี คุณนายทองประศรีนั่นเอง ขณะนี้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็ได้ขึ้นไปรอกันบนตั่งแล้ว เพื่อเตรียมพิธีในการรดน้ำสังข์ให้แก่คู่บ่าวสาว
ขุนช้างซึ่งเดินร้องไห้ตาแดงขึ้นมา ก็เรียกเสียงหัวเราะจากบรรดาแขกเหรื่อทั้งหลายได้ทันที ขุนช้างนั้นเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ ก็ค้อนควักใส่บรรดาแขกเหล่านั้น แต่กลับทำให้เสียงหัวเราะนั้นดังยิ่งขึ้น บางครั้งมีเสียงฮาป่ามาด้วย แถมไม่รู้ใครมือบอน เอาผ้าเช็ดมือโยนใส่ขุนช้าง แม่นเหมือนดังกับผีจับวาง มันโปะลงไปกลางกบาลใส่เหน่งของขุนช้าง สร้างความโกรธแค้นให้แก่ขุนช้างยิ่งนัก หมุนตัวไปมาอย่างฮึดฮัด พลางเขม้นมองหาตัวคนทำ แต่จะหาเจอได้อย่างไรเล่า เพราะคนทำนั่นก็คือ อิ อิ เจ้าบ่าวน่ะแหละ
“เอ้าพ่อช้าง เร็วๆ เข้า เดี๋ยวจะเสียฤกษ์ยามหมด” เสียงพูดดังมาจากนางศรีประจันที่รู้สึกหมั่นไส้ไอ้หัวเหน่งนี่เต็มที ถ้าไม่ติดที่มันเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว จะชู้ตมันลงจากเรือนไปเดี๋ยวนี้เลย
“ค้า บ ค้าบบบบบ คุณป้า เสียฤกษ์น่ะกลัวกันจัง แต่เสียเมียน่ะไม่ยักกลัว” ขุนช้างพูดประชดประชัน แต่กลับทำให้ทุกสรรพเสียงในห้องเงียบลงทันที ทุกสายตาจับจ้องมายังขุนช้าง แต่ละสายตาที่จับจ้องมานั้นทำให้ขุนช้างถึงกับหนาวสันหลัง รีบๆ เดินดุ่มๆ เข้ามายืนเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวทันทีงานพิธีรดน้ำผ่านไปอย่างเรียบร้อยท่าม กลางความยินดีของทุกคนที่มีให้แก่คู่บ่าวสาว และงานมงคลสมรสก็ดำเนินต่อไปจนกระทั่งถึง เวลาเข้าหอ ทุกๆ คน ที่เป็นญาติก็รอส่งเข้าหอทั้งนั้น ยกเว้นแต่ขุนช้างคนเดียวที่บ่าวไพร่ตามหากันแล้วมาบอกว่าหาไม่เจอ ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน นางทองประศรีก็แสนจะรำคาญ ก็ให้เริ่มพิธีส่งตัวไปเลย ไม่ต้องรอแล้ว ดังนั้นเจ้าบ่าวและเจ้าสาวก็เข้าหอไปท่ามกลางความโล่งอกของญาติทุกคนที่พิธี ผ่านไปได้อีกเรียบร้อย
ภายในห้องหอ
“น้องพิมจ๊ะ ในที่สุดพลายแก้วก็มาสู่ขอตามที่สัญญาไว้นะจ๊ะ” พลายแก้วพูดยิ้มๆ พลางทำตาหวานใส่
“จ้ะ น้องพิมก็รู้ว่าพี่พลายแก้วต้องทำได้ แผนของพี่พลายแก้วเยี่ยมไปเลยนะ ให้น้องแกล้งทำไม่สบายพูดไม่ได้ ถ่วงเวลาไว้ จนกระทั่งพี่ไปเชิญคุณแม่มาสู่ขอน้อง แถมพี่ยังไปสะกดบ้านของขุนช้าง แถมพรางตาไม่ให้ใครเห็นบ้านได้อีก ทำให้งานพิธีของเราจัดเตรียมได้เรียบร้อย ไม่มีคนขัดขวางอีก น้องพิมเลื่อมใสพี่พลายแก้วจริงๆ เลยจ๊ะ” พิมพิลาไลยพูดออดอ้อน พลางยิ้มหวานให้กับพลายแก้วผู้ชาญฉลาด
ณ ซอกมุมหนึ่งในตู้เก็บของที่วางอยู่ใกล้กับเตียงนอนในห้องหอของบ่าวสาว มีตัวประหลาดตัวหนึ่งหัวใสเจ๊งเหน่ง กำลังนั่งแอบดูจากรูๆ หนึ่งที่เจาะเอาไว้อย่างแนบเนียนที่ประตูตู้ อะฮ้า ขุนช้างของเรานั่นเอง ขุนช้างของเรานั่งคิดนอนคิดว่ายังไงกูก็ไม่ได้แอ้มแล้ว ขอให้ได้ดูซักนิดก็ยังดี ว่าแล้วก็ถือจังหวะตอนที่กำลังกินเลี้ยงกัน แอบย่องขึ้นมายังห้องหอ แล้วแอบเจาะรูที่ประตูตู้เก็บของ แล้วอดทนนั่งบ้างหลับบ้างจนกระทั่งถึงเวลานี้ที่รอคอย เมื่อได้ยินบ่าวสาวที่สมรู้ร่วมคิดกัน ก็โกรธจนตัวสั่นสะท้าน แต่ก็ต้องอดทนนั่งดูต่อไปว่า ฉากที่เขาต้องการจะดูจะมาถึง พลายแก้วนั้น เมื่อได้ฟังคำชมจากเมียรัก ก็ปลื้มใจเป็นยิ่งนัก พลางตะกองกอดเมียรัก แล้วหอมแก้มแรงๆ ไปทีหนึ่ง
“ฮ้า ชื่นใจ หายเหนื่อยเลย อ้อ เดี๋ยวพลายแก้วไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ น้องพิมเหนื่อยก็นอนพักก่อนก็ได้นะ พลายแก้วไปเดี๋ยวเดียวเดี๋ยวจะกลับมา อย่าลืมล้อกห้องนะ เดี๋ยวไอ้หัวเหน่งมันจะมาคิดไม่ดีกับน้อง” พลายแก้วบอกเมียรัก พลางลุกขึ้นยืนแล้วออกจากห้องไป
พิมพิลาไลยนั้นก็รู้สึกเหนื่อยมาก เนื่องจากต้องตื่นมาเตรียมงานตั้งแต่ตีหนึ่ง มาจนถึงเวลานี้ก็เกือบจะทั้งวันแล้วยังไม่ได้นอนเลย พอพลายแก้วบอกว่าให้นอนรอก่อน พิมพิลาไลยก็รู้สึกง่วงทันที เดินมาส่งพลายแก้ว ล้อกประตูห้อง แล้วก็ล้มตัวลงนอน แล้วก็หลับไปแทบจะทันทีที่หัวถึงหมอนพลายแก้วนั้น เมื่อออกมาจะไปเข้าห้องอาบน้ำ ก็บังเอิญเจอกับเพื่อนสมัยยังเด็ก เป็นกลุ่ม ก็โดนลากเข้าไปกรอกสาโทเสียจนเมามาย นั่งคอพับคออ่อนอยู่ในวงนั้นเอง ไม่ได้ไปอาบน้ำเลย
ขุนช้างนั้น เมื่อได้ยินพลายแก้วบอกจะไปอาบน้ำก็รู้สึกเสียดาย คงจะอดเห็นอะไรดีๆ แล้ว แต่เมื่ออดทนนั่งรอก็ไม่เห็นพลายแก้วกลับมาเสียที แถมพิมพิลาไลยก็หลับสนิทไปแล้ว เอาไงดี ในใจของขุนช้างนั้นเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ไม่แน่ใจ กลัวก็กลัว อยากก็อยาก ในที่สุดความอยากก็ชนะ ขุนช้างค่อยๆ แอบย่องออกจากตู้อย่างเบาที่สุด เดินปลายเท้าอย่างระวัง เข้ามายังข้างเตียง อย่างไม่พูดพล่ามทำเพลง ขุนช้างก็ค่อยเลิกผ้านุ่งของพิมพิลาไลยขึ้นมา จนมากองอยู่ที่หน้าท้อง เผยให้เห็นหน้าท้องแบนราบขาวสะอาด โคกหีอวบนูน มีขนขึ้นพองามเป็นระเบียบ ร่องหียังตีบสนิทแนบแน่นเหมือนกับยังไม่เคยมีใครล่วงล้ำมาก่อนเลย
ขุนช้างทนไม่ไหวก็ก้มลงพลางใช้ลิ้นควายของตน กวาดเลียไปตามร่องหี แคมหี รูตูด สองมือก็แหวกแคมออกให้เห็นเนื้อสีชมพูภายใน ที่ตอนนี้เริ่มมีน้ำใสๆ เยิ้มออกมาน้อยๆ พลางใช้จมูกสูดดมกลิ่นหอมปนคาวอ่อนๆ อย่างชื่นใจ ปากก็ดูดน้ำที่ไหลออกมาดังจุ๊บๆ สองนิ้วก็กดข้างๆ แตดเพื่อให้แตดสีชมพูอันเล็กที่ซ่อนอยู่ข้างบนจนแทบมองไม่เห็นโผล่ออกมา แล้วขุนช้างก็ใช้ปากดูดดุน พลางขบกัดเบาๆ
พิมพิลาไลยนั้นรู้สึกเคลิบเคลิ้มแต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยก็ได้แต่นอนร้อง ครางเบาๆ พลางบิดตัวไปมาด้วยความเสียวกระสันต์ พลางยกสองขาขึ้นพาดหัวของขุนช้างแล้วรัดให้หัวของขุนช้างแนบกับโหนกหีของตัวเองแรงๆ
ขุนช้างเมื่อเห็นพิมพิลาไลยนั้น รัดหัวตนเองเข้ามาหาหีของนางก็รู้ว่านางนั้นมีอารมณ์ให้กับตนเอง แล้วก็รีบลุกขึ้นแก้กางเกงออก ปล่อยให้สุดยอดควยแห่งเมืองหลวงเด้งดึ๋งออกมาตั้งแข็งเด่ ผงกหัวหงึกๆ หัวนั้นมีน้ำเยิ้มออกมาเต็มไปหมด พลางก้มลงใช้นิ้วค่อยๆ แหย่เข้าไปในร่องหีของพิมพิลาไลยที่ละน้อย ชักเข้า ชักออก แคมหีก็ปลิ้นเข้าออก น้ำเงี่ยนยิ่งไหลเยิ้มออกมา ขุนช้างก็เอาปากดูดกินอย่างไม่รังเกียจ พลางใช้นิ้วสาวเข้าออก จนได้ยินเสียงครางจากพิมพิลาไลย
“ซี๊ดสสส์ อาววว์ พี่ขา เอาน้องเถอะค่ะ น้องทนไม่ไหว เสียววจัง ซี๊ดดดส์”
ขุนช้างได้ฟังดังนั้น ก็ลุกขึ้นคุกเข่า พลางหยิบหมอนเข้ามาซ้อนที่ก้นของพิมพิลาไลย ทำให้โหนกหีของพิมพิลาไลยนั้นนูนเด่นขึ้นมา ร่องหีก็อ้าออกน้อยๆ แตดสีชมพูตอนนี้ลุกชี้เด่เห็นได้ชัด ขุนช้างก็ค่อยๆ จ่อสุดยอดควยพิสดารแห่งวังหลวงเข้าไป เพียงแค่จ่อส่วนหัวเท่านั้น พิมพิลาไลยก็สูดปาก พลางร้องว่า
“เบาๆ หน่อยนะคะ พิมเริ่มเจ็บแล้ว ช้าๆ นะคะพี่ขา”
ขุนช้างก็จำต้องเปลี่ยนแผนด้วยกลัวว่าพิมพิลาไลยจะตื่น ตัวเองจะอด แถมโดนตีนอีกด้วย จึงถอนหัวควยออกมาก่อน แล้วเดินไปหาอุปกรณ์ช่วยอย่างกระวนกระวายอยู่ในห้อง ไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียวที่จะช่วยได้เลย ขุนช้างรู้สึกกระวนกระวายใจ ด้วยอยากเย็ดพิมพิลาไลยใจจะขาด ระหว่างนั้นก็ฉุกใจคิดขึ้นได้ น้ำลายไง ใช้น้ำลายชโลมลำควยก่อนแล้วน่าจะช่วยยัดเข้าไปได้ เมื่อคิดได้ดังนี้ ขุนช้างก็รีบบ้วนน้ำลายออกมาชโลมลำควยของเขาจนชุ่มโชก แล้วก็เอามาจ่อที่ร่องหีที่มันเยิ้มของพิมพิลาไลย พลางค่อยๆ กดหัวควยให้ค่อยๆ แทรกกลีบหีของพิมพิลาไลยเข้าไปทีละน้อย ทีละน้อย กลีบหีก็ถ่างตึงออกบานรับหัวควยขนาดน้องๆ ม้าของขุนช้าง
พิมพิลาไลยก็รู้สึกตึงที่หน้าขา ก็พยายามถ่างขาอ้าออกเพื่อให้ควยได้เข้าไปง่ายขึ้น ขุนช้างเห็นอย่างนั้นก็รีบกดควยพรึดเข้าครึ่งอัน ทำให้พิมพิลาไลยต้องสะดุ้งด้วยความจุกเจ็บที่ถูกควยใหญ่มโหฬารแหวกเข้าไปใน ร่องหีอย่างกระทันหัน ขุนช้างกดควยเข้าไปได้ครึ่งอันก็เกิดความมั่นใจ แช่ควยไว้ในร่องหีของพิมพิลาไลย ใช้นิ้วมือบีบบี้ที่แตดที่ลุกเด่ขี่ควยของเขาอยู่ด้านบน ทำให้พิมพิลาไลยต้องปล่อยน้ำเสียวออกมาชโลมท่อนควยของไอ้ขุนช้าง ร่องหีก็ค่อยๆ ขยับขยายรองรับควยขนาดมหึมา
ทำให้ขุนช้างเกิดความย่ามใจ ค่อยๆ ชักสุดยอดควยออกมาช้าๆ แคมหีก็ค่อยปลิ้นตามเกลียวควยออกมา เห็นท่อนเกลียวที่ลำควยเป็นมันละเลื่อม ตูดของพิมพิลาไลยก็ยกตามเกลียวลำควยที่ถอนขึ้นมาเหมือนจะเสียดายไม่ให้มันออกไป พลางขุนช้างก็กดกระแทกลงไปเต็มแรง พั่บ พั่บ พั่บ เบิ้ลเข้าออกไปสามครั้ง ลำควยสุดมหึมาก็เข้าไปตุงอยู่ในร่องหีของพิมพิลาไลย ทำให้หน้าท้องของพิมพิลาไลยนั้นนูนขึ้นมา
เหมือนดังกับคนท้องอ่อนๆ เลย เมื่อควยเข้าตุงอยู่ในร่องหีจนหมดแล้ว ขุนช้างก็เริ่มออกลวดลายสุดยอดนักรัก ชักควยเข้าออกช้าๆ เร็ว แซะซ้าย แซะขวา บางครั้งก็กดจนมิดแถมบดคว้านให้ควยเข้าไปแซะร่องหีของพิมพิลาไลยจนถ้วนทั่ว ทำให้พิมพิลาไลยถึงกับลืมตัวดึงขุนข้างขึ้นมากอด พลางประกบปากจูบกับปากหนาอัปลักษณ์ของขุนช้างโดยไม่รังเกียจ
ขุนช้างได้เห็นดังนี้ก็ยิ่งได้ใจ กดกระแทกควยอย่างสุดกำลัง จนมีเสียงดังป้าบ ป้าบ ป้าบ น้ำหีไหลกระเซ็นไปทั่วเวลาที่ควยของขุนช้างกระแทกเข้าไปในร่องหี สองมือก็ขยำเคล้นหน้าอกกระเปาะเหลาะของพิมพิลาไลยอย่างไม่กลัวเจ็บ พิมพิลาไลยซึ่งกำลังเคลิบเคลิ้มด้วยคิดว่าเป็นพลายแก้วผัวรัก ก็ดึงผ้าสไบออกเพื่อให้ขุนช้างได้ดูดนมถนัดๆ ขุนช้างก็ก้มลงดูดหัวนมของพิมพิลาไลย พลางใช้ลิ้นดุนไปมา บางครั้งก็หมั่นเขี้ยวใช้ฟันขบเบาๆ ที่ฐานนม สร้างความเสียวซ่านแก่พิมพิลาไลยมาก แอ่นนมให้ดูดเลียสลับไปมา ตูดก็ยกขึ้นกระแทกกับควยของขุนช้างอย่างไม่ผิดจังหวะ
ขุนช้างนั้นเมื่อได้สมรัก ได้เย็ดคนที่รัก ก็ทำให้รู้สึกเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ บรรเลงเพลงรักอย่างสุดเหวี่ยงเพราะคิดว่า คงได้ฟลุ้กแค่ทีนี้แหละ ต่อไปคงไม่มีอีกแล้ว ควยของขุนช้างผลุบเข้าผลุบออกอย่างรวดเร็ว แต่ละครั้งก็รั้งเอาแคมหีของพิมพิลาไลยปลิ้นเข้าปลิ้นออกไปด้วย น้ำเงี่ยนไหลเยิ้มลงมาอย่างมากมายจนไปถึงยังร่องตูดของพิมพิลาไลย ขุนช้างก็ถอนควยออกดังบ๊วบ ร่องหีอ้าโบ๋ แคมสองข้างแดงช้ำ แถมมีเลือดไหลออกมาน้อยๆ ติดตามลำควยของขุนช้าง ขุนช้างเอานิ้วมือป้ายน้ำเงี่ยนที่ไหลมากองที่ร่องตูด ให้เข้าไปในรูตูดพลางแหย่นิ้วมือนำร่องเข้าไปก่อน ชักเข้าออกจนรูตูดชักลื่น ก็จ่อลำควยเข้าไปทันที ปึด ปึด หัวควยค่อยๆ ชำแรกผ่านรูตูดอันคับแคบ อย่างช้าๆ
สร้างความเจ็บปวดให้แก่พิมพิลาไลย จะลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่ไหว ทำได้ก็เพียงพยายามขมิบตูดให้แนบแน่นเพื่อกันไม่ให้ควยผ่านเข้าไปเท่านั้นเอง แต่กลับยิ่งสร้างความเสียวให้แก่ขุนช้างอย่างยิ่ง
ขุนช้างก็ค่อยๆ ดันควยแทรกผ่านรูตูดเข้าไปอย่างยากเย็น เมื่อผ่านเข้าไปได้ครึ่งอัน ขุนช้างก็สุดจะทนทานด้วยความเสียวจากความคับแน่นของรูตูด ประกอบกับความเสียวที่ได้เย็ดคนที่ตนรัก ขุนช้างก็รีบกระแทกควยเข้าไปเต็มแรง แค่วก แค่วก รูตูดฉีกขาดเลือดไหลซึมออกมาจากรอยฉีกนั้น ขุนช้างเมื่อควยได้เข้าไปตุงอยู่ในรูตูดของพิมพิลาไลยเต็มที่แล้ว ก็ฉีดน้ำรักพุ่งพรวดๆ เข้าไปอยู่ในรูตูดของพิมพิลาไลยจนล้นออกมาจากรูตูด
เมื่อเสร็จกิจแล้ว ขุนช้างก็รีบเอาผ้ามาเช็ดรูหี รูตูดของพิมพิลาไลยจนเรียบร้อย ก็แต่งตัวให้พิมพิลาไลยจนเหมือนเดิม แล้วค่อยๆ ย่องปีนออกทางหน้าต่าง กระโดดตุ้บ ลงไปเค้เก้ จุกแอ้ดอยู่บนพื้นบ้านด้านล่าง แต่ความกลัวโดนฤทธิ์จากตีนของชาวบ้านมีเหนือกว่าความจุก ทำให้ขุนช้างพยายามลุกขึ้นเดินกระย่องกระแย่งออกจากเรือนหอเพื่อกลับไปบ้านของตนเองด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่องที่ได้เย็ดหี เย็ดตูดเจ้าสาวก่อนไอ้เจ้าบ่าวหน้าโง่นั่น หุหุ
ในช่วงขณะนั้นเอง ทางกรุงศรีอยุธยาก็ได้ทราบข่าวว่า เมืองเชียงใหม่ ได้เข้ามาตีเมืองเชียงของซึ่งเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา สร้างความขุ่นเคืองให้แก่สมเด็จพระพันวษาเป็นอย่างมาก
ณ ห้องท้องพระโรง
“บัดซบ บัดซบจริงๆ ไอ้เจ้าเมืองเชียงใหม่จอมตระบัดสัตย์ กูจำได้ว่ามันเคยบอกกับกูว่าจะขอสันติเพื่ออยู่ร่วมกัน แต่ตอนนี้มันกล้าดี ยังไง มาตีเชียงของเมืองขึ้นของกู” สมเด็นพระพันวษากริ้วอย่างมาก หน้าแดงก่ำ พลางยกพระแสงขึ้นลงเหมือนดังกับจะฟันเจ้าเมืองเชียงใหม่ให้ด่าวดิ้นไปกับพระแสงของพระองค์เหล่าขุนนางใหญ่น้อยนั่งเงียบ ไม่มีใครกล้าเพ็จทูล ด้วยเห็นว่าพระเจ้าแผ่นดินทรงกริ้วอยู่ถ้าขืนทูลอะไร
ตอนนี้ดีไม่ดีจะหัวขาดเอาง่ายๆ จึงพากันนั่งเงียบ แต่กลับยิ่งทำให้พระองค์ทรงกริ้วยิ่งขึ้นอีก
“พวกมึงก็เหมือนกัน นั่งเงียบกันหมด พอถึงเวลาบ้านเมืองต้องการใช้คน กูไม่เห็นมีใครอาสากูซักคน ทีเวลากูไม่อยากฟังอะไรละก็ แต่ละคนรีบกันนัก เฮ้อ เห็นอย่างนี้แล้วกูคิดถึงขุนไกรจริงโว้ย เออ มีใครรู้ข่าวครอบครัวของมันบ้างไหมวะหา”
ขุนช้างซึ่งฟังอยู่ถึงตอนนี้ ก็บังเกิดไอเดียใสปิ๊งขึ้นมาทันที รีบคลานกระดุ๊บๆ ออกมาแล้วทูลทันที
“ข้าพระพุทธเจ้าทราบพระเจ้าข้า ขุนไกรพลพ่ายนั้นมีบุตรชายชื่อ พลายแก้ว ซึ่งบัดนี้ได้เติบใหญ่เป็นหนุ่มแล้ว และมีความเก่งกาจในเรื่องวิชาอาคม และเชี่ยวชาญในเรื่องอาวุธ รวมถึงกลศาสตร์ในการรบ ไม่ผิดอันใดกับขุนไกรพลพ่ายผู้เป็นบิดาเลย พระเจ้าข้า”
สมเด็จพระพันวษาได้สดับตรับฟัง ก็ให้รู้สึกดีพระทัยยิ่งนัก รีบตรัสสั่งขุนช้างไปว่า
“เออ ดี งั้นเอ็งรีบไปบอกพลายแก้วให้มาหาข้า ข้าจะสั่งให้มันไปรบ แล้วจะปูนบำเหน็จให้มันอย่างถึงทีเดียวถ้ามันทำได้สำเร็จ”
ขุนช้างนั้นแสนจะดีใจที่แผนการชั่วช้าสามานย์ของเขาใกล้จะสัมฤทธิ์ผลแล้ว รีบส่งเสียงรับคำแล้วคลานกระดุ๊บๆ ออกจากท้องพระโรงในทันที เมื่ออกจากท้องพระโรงแล้ว ก็เดินร้องเพลงเสียงดังลั่น พลางกระโดดโลดเต้นไปตามทางเดินอย่างมีความสุข เหมือนกับคนบ้าก็ไม่ปาน
ณ เรือนหอของพลายแก้ว ซึ่งขณะนี้ได้ถูกบรรยากาศแห่งความโศกเศร้าเข้าครอบงำ อันเนื่องมากจากข่าวที่ขุนช้างนำมาแจ้งว่า พลายแก้วนั้นต้องไปรบกับเมืองเชียงใหม่เพื่อตีเอาเมืองเชียงของคืนมาแก่กรุงศรีอยุธยาให้ได้ สร้างความโศกเศร้าให้แก่คู่บ่าวสาวที่เพิ่งแต่งงานอยู่กินได้แค่ 2 วัน แต่พลายแก้วนั้นก็รู้สึกดีใจลึกๆ ที่จะได้กอบกู้ชื่อเสียงของบิดาคืนมา และมีโอกาสได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ตนเอง จึงปลอบกับพิมพิลาไลยเมียรักจนค่อยคลายความโศกเศร้า
“น้องพิมจ๊ะ พลายแก้วรู้ว่าน้องพิมเป็นห่วง เอายังงี้ เดี๋ยวเราให้บ่าวไปหาต้นโพธิ์มาสองต้น แล้วอฐิษฐานกันคนละค้น ถ้าต้นใดต้นหนึ่งมีอันเป็นไปก็จะรู้ทันที เพราะต้นโพธิ์จะเหี่ยวเฉาและตายไป น้องพิมคอยมาดูต้นโพธิ์นี้ได้นะจ๊ะ แล้วก็จะได้ไม่เป็นห่วงพลายแก้วมากไปไงนะ”
พิมพิลาไลยก็พยักหน้า พลางกอดพลายแก้วไม่ปล่อยด้วยความรักและคิดถึง พลายแก้วก็ตะโกนบอกบ่าวไพร่ให้ออกไปหาต้นโพธิ์มาสองต้น แล้วก็ประคองพิมพิลาไลยเมียรักออกเดินช้าๆ มาหน้าบ้านเพื่อเตรียมจะออกไปปลูกต้นโพธิ์
ณ ทุ่งร้างนอกเมืองเชียงของ การรบระหว่างพระนครศรีอยุธยากับเมืองเชียงใหม่ กำลังถึงจุดวิกฤติ โดยที่ฝ่ายกรุงศรีอยุธยานั้น กำลังตกอยู่ในภาวะที่เสียเปรียบอย่างยิ่ง ด้วยเมืองเชียงใหม่นั้น ได้ทราบข่าวการมารุกรานของทางกรุงศรีอยุธยา จึงได้เตรียมการขุดหลุมพรางไว้ ขณะที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาเดินทางมาถึงยังหมู่บ้านแสนทอง ก็มีชาวบ้านมาขอความช่วยเหลือว่าพวกกองทัพเชียงใหม่ กำลังล้อมฆ่าชาวบ้านอยู่ที่ทุ่งร้างนอกเมืองเชียงของ พลายแก้วซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นแม่ทัพจากสมเด็จพระพันวษา แต่งชุดแม่ทัพดูสง่างามน่าเกรงขาม
ก็รีบสั่งการให้กองทัพเร่งรีบตามไปช่วยเหลือชาวเมืองจากการฆ่าหมู่ของพวกเมืองเชียงใหม่ เมื่อมาถึงยังทุ่งร้างนี้ กลับไม่พบกับการฆ่าหมู่แต่อย่างใด แต่กลับถูกล้อมโดยกองทัพของเมืองเชียงใหม่
“ได้ข่าวว่าทางกรุงศรีอยุธยากำลังสิ้นคนดีแล้ว จึงส่งเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมารบแทน ฮ่า ฮ่า ขำขำ ไม่นึกว่าจะส่งมาจริงๆ อย่างนี้เขาเรียกสมัน” แม่ทัพของทางเมืองเชียงใหม่ที่กำลังคิดว่าตนเองกำลังได้เปรียบอย่างสุดๆ แล้ว ก็ชักม้าออกมาอยู่หน้ากลุ่มพลธนูที่กำลังจ่อยิงมาทางกองทัพของกรุงศรีอยุธยา พลางหัวเราะเยาะจนน้ำลายกระเซ็นซ่าน
“เฮ้ย พวกมึง ถ้าแม่ทัพพวกมึง ยอมแก้ผ้าเต้นรำ ต่อหน้ากู กูจะยอมปล่อยพวกมึงให้รอดชีวิตกลับไปหาลูกเมีย แต่พวกมึงต้องตัดมือให้พวกกูคนละข้าง เป็นค่าไว้ชีวิตเข้าใจไหม” แม่ทัพของเมืองเชียงใหม่ประกาศอย่างโอหังลำพอง พลางจ้องไปยังหน้าของพลายแก้วแม่ทัพของกรุงศรีอยุธยา
พลายแก้วได้ฟังดังนั้นก็นิ่งสงบ ไม่แสดงอาการโกรธแต่ใดๆ แต่บรรดาทหารหาญของพระนครศรีอยุธยา ได้ฟังคำหยามของแม่ทัพของเมืองเชียงใหม่ หยามแม่ทัพของพวกตน ก็โกรธแค้นยิ่งนัก พากันตะโกนด่าตอบเสียงขรมไปหมด แต่ไม่มีใครกล้าจะเข้าไปทำอะไรด้วยเกรงธนูของฝ่ายเมืองเชียงใหม่ที่จ่อมายัง พวกของตนอยู่
“เฮ้ย เงียบทำไม มึงจะเอายังไงหา ไอ้อ่อน ถ้ามึงไม่ตอบ กูจะให้ทหารยิงพวกมึงให้ตายไปทีละคนละนะ ได้ยินไหมไอ้แก้วหูแตก”
นายทัพเมืองเชียงใหม่ตวาดสำทับมาด้วยเห็นว่าพลายแก้วเงียบ ไม่ตอบคำ จึงเข้าใจผิดคิดว่า พลายแก้วนั้นคงกลัวตายจนพูดไม่ออกเป็นแน่
ฉับพลันนั้น พลายแก้วก็เงยหน้าขึ้น ตาเบิกโพลง พลางตวาดว่า “หยุด” ฉับพลันนั้นนายทัพเมืองเชียงใหม่ ก็ชะงักค้างเหมือนดังกับเวลาได้หยุดนิ่ง ค้างไปซะเฉยๆ พลายแก้วก็ก้มลงรูดใบไม้มาหนึ่งกำมือ พลางนั่งลงบริกรรมพระคาถา จากนั้นก็โปรยใบไม้สู่อากาศ น่าอัศจรรย์ยิ่ง ใบไม้เหล่านั้นกลับกลายเป็นตัวต่อเสือ ตัวใหญ่มหึมา บินแตกฮือ ออกไปไล่ต่อยบรรดานายกอง ทหาร พลธนู จนแตกพ่าย วิ่งหนีกันอลหม่าน ทิ้งอาวุธไว้มากมาย
รวมทั้งนายทัพที่ยืนปากอ้าตาค้างอยู่เฉยๆ ให้กองทัพของกรุงศรีอยุธยาจับกุมได้อย่างง่ายดาย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของบรรดาทหารหาญของกรุงศรีอยุธยาที่ชื่นชมในความ เก่งกาจของแม่ทัพฝ่ายตนที่ชนะศึกนี้ได้อย่างง่ายดายไม่สูญเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใดข้างฝ่ายทัพที่แตกพ่ายของเมืองเชียงใหม่ ก็ล่าถอยกลับไปรวมตัวกันอยู่ในเมืองเชียงของเพื่อเตรียมในการรับมือกับกองทัพของพระนครศรีอยุธยา แต่เวลาผ่านไป 3 วัน กองทัพของเมืองพระนครศรีอยุธยา นอกจากตั้งกองทัพไว้เฉยๆ แต่บางครั้งก็จุดไฟสว่างไสว และอยู่ๆ ก็ตีฆ้องร้องป่าวดังขึ้นกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง สร้างความโกลาหลให้แก่กองทัพที่แตกพ่ายของเมืองเชียงใหม่ จนไม่ได้หลับได้นอนมาถึง 3 คืน จวบจนคืนที่ 4 ก็มีการจุดไฟสว่างไสว และเสียงตีฆ้องร้องป่าวดังขึ้นอีกเหมือนเดิม
แต่ขณะนี้ไพร่พลของทางเมืองเชียงใหม่นั้น ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ ไพร่พลของพลายแก้วนั้น ก็จัดการเอาบันไดพาดกับขอบกำแพงเมือง และบุกเข้าไปเปิดประตูเมือง จนเข้ายึดเมืองเชียงของคืนได้สำเร็จ แถมจับเชลยได้อีกเป็นจำนวนมากข่าวนี้เมื่อไปถึงยังพระกรรณของสมเด็จพระพันวษาก็ให้รู้สึกปลาบปลื้มยินดีนัก แต่ขุนช้างได้ยินกลับรู้สึกอิจฉาอย่างยิ่งนางพิมพิลาไลยนั้น เมื่อพลายแก้วสามีสุดที่รักออกไปรบ ด้วยความคิดถึง บวกกับอาการเจ็บป่วยอันเกิดจากโดนสุดยอดควยของขุนช้างทะลวงทั้งรูหน้าและรูหลัง ก็ทำให้อาการกำเริบถึงกับล้มป่วย
แต่หมอคนใดก็ไม่อาจที่จะรักษาให้หายได้
ดังนั้นนางศรีประจันจึงพาพิมพิลาไลยไปหาขรัวตาจู ที่วัดป่าเลไลย์ ขรัวตาจู เป็นพระสูงอายุที่มีวิชาโหราศาสตร์ที่เป็นที่เชื่อถือลือเลื่องไปทั้งเมือง เมื่อขรัวตาจูตรวจดูดวงชะตาให้กับพิมพิลาไลย แล้วก็บอกว่า ต้องทำพิธีไล่เสนียดอัปรีย์ออกจากกายพร้อมกับเปลี่ยนชื่อ เป็นวันทอง ไม่อย่างนั้นจะต้องตายไปเพราะการป่วยครั้งนี้แน่ๆ นางศรีประจันได้ฟังดังนั้นก็ตกใจ รีบบอกกับขรัวตาจูให้ทำพิธีให้ด้วย ขรัวตาจูซ่อนยิ้มในหน้า พลางบอกว่า
“การจะทำพิธีนั้น ไม่ยาก แต่จะยากก็ตรงที่ โยมศรีประจัน และโยมพิมพิลาไลยนั้น จะต้องเข้าห้องทำพิธีกับอาตมา และจะต้องทำตามที่อาตมาสั่งอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นอาตมาจะไม่รับผิดชอบถ้าเกิดอะไรที่ร้ายแรงขึ้นนะ”
นางศรีประจันแสนจะตกใจ ด้วยกลัวว่าบุตรสาวของตนจะเสียชีวิต ก็รีบรับปากทันที ขรัวตาจูก็สั่ง
“ถ้างั้น โยมและลูกสาว ก็ขึ้นมาในกุฏิอาตมาก่อนละกัน”
นางศรีประจันก็ประคองนางพิมพิลาไลยขึ้นกุฏิไป พลางหันมาสั่งบ่าวไพร่ให้รออยู่ที่หน้ากุฏิ เมื่อเดินเข้าไปในกุฏิขรัวตาจูก็สั่งให้ปิดประตูกุฏิด้วย นางศรีประจันก็ทำตามแล้วก็นั่งรอขรัวตาจู ซึ่งกำลังจุดธูปเพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
นางศรีประจันได้กลิ่นธูปก็ให้รู้สึกง่วงเป็นกำลัง ผล็อยหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ขรัวตาจูเมื่อเห็นนางศรีประจันหลับแล้ว ก็รีบเดินมาหานางพิมพิลาไลย ยกมือเหี่ยวย่นขึ้นมาลูบไปตามใบหน้า เรื่อยลงมา พลางขยำขยี้ไปยังหน้าอกอวบอิ่มของนางพิมพิลาไลย เมื่อขยำขยี้จนได้ที่แล้ว ก็เลิกผ้านุ่งของพิมพิลาไลยขึ้น เผยให้เห็นโหนกหี ซึ่งขณะนี้ร่องแคมยังคงบวมแดงจากการโดนควยพิสดารของขุนช้างทะลวงมา ร่องหียังอ้าออกน้อยๆ เม็ดแตดแดงก่ำ ชี้ชัน ขรัวตาจูรีบถลกผ้าขึ้นเผยให้เห็นควยขนาดเล็ก ชี้เด่ บอกอารมณ์ของตนอย่างชัดเจน พลางนอนทาบทับตัวพิมพิลาไลย พลางกระเด้าควยเข้าไปในร่องหีของนางพิม
หะแรกที่รู้สึกคือ ร่องหีนี้แม้จะผ่านดุ้นควยมาแล้ว ก็ยังดูดตอดดีอยู่ เหมือนดังกับสาวบริสุทธิ์ ความคับแคบนั้นมีอย่างเหลือเฟือ ควยเล็กๆ อย่างควยของขรัวตาจูนั้นเข้าไปยังแคบ เมื่อกระเด้าแคมหีก็รูดตามลำควย ปลิ้นเข้าปลิ้นออกอย่างน่าดู ลำควยมันปลาบเห็นได้ชัด ขรัวตาจูไม่เคยได้ลิ้มลองของเด็กสาวมาก่อน ถึงกับทนไม่ไหว ชักควยออกมารดน้ำมนต์ให้แก่พิมพิลาไลยไปหนึ่งที เสร็จแล้วก็รีบถลกผ้านุ่งคืนให้แก่พิมพิลาไลย พลางจุดธูปอีกแบบ แล้วทำทีเป็นพรมน้ำมนต์ เหมือนดังกับว่าเสร็จพิธีแล้ว และเหมือนกับปลุกตัวของนางศรีประจันไปในตัว
นางศรีประจันนั้นเมื่อโดนน้ำมนต์เย็นๆ มากระทบหน้า ก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น ขรัวตาจูก็บอกว่าพิธีเสร็จแล้วต่อจากนี้ พิมพิลาไลยได้ตายไปแล้ว เหลือแต่วันทองยังคงอยู่ นางศรีประจันได้ฟังดังนั้นก็ดีใจ รีบนำตัวนางวันทองลงจากเรือนกลับไปบ้านทันที เป็นที่น่าแปลกคือนางวันทองหลังจากที่โดนควยของขรัวตาจูนั้น อาการไม่สบายก็เริ่มทุเลาและหายดีในที่สุดยังความดีใจให้แก่นางศรีประจัน ยิ่งนักข้างฝ่ายของพลายแก้ว เมื่อยึดได้เมืองเชียงของคืนนั้น ก็ยังไม่สาแก่ใจ ยกกองทัพตามไล่เข่นฆ่าพวกทหารเมืองเชียงใหม่ที่แตกพ่าย ไปจนถึงเมืองเชียงใหม่ ตีเมืองเชียงใหม่ได้ ก็ยังไม่พอใจตามตีเมืองต่อไปจนถึงเมืองลำพูน จึงได้หยุดพักกองทัพไว้ยังหมู่บ้านจอมทอง
ขุนช้างนั้น เมื่อกำจัดพลายแก้วได้ก็แสนจะดีใจ เริ่มแผนสองต่อทันที โดยขุนช้างเป็นผู้ตระเตรียมข้าวของในแผนการที่สองด้วยตัวเอง
จากนั้นก็ออกเดินทางไปยังเรือนหอของพลายแก้วเพื่อพบกับนางวันทองทันที