XO ตอนที่ 16 – นักล่า

XO ตอนที่ 16 – นักล่า

XO ตอนที่ 16 – นักล่า
.
         
              …………………………………..

แม้จะยังไม่ทราบวิธีการใช้เวทย์สายกาลเวลา หากทว่าหลังจากได้เปิดสัมผัสกับกระแสแห่งเวลาแล้ว ประสาทสัมผัสของแม็กก็สามารถแผ่ขยายรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ไม่เคยรับรู้ ความรู้สึกสดใหม่นี้แทบจะพลิกคว่ำแนวคิดของเขาอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน

แม้ว่าดวงตาของเขาอาจไม่ได้มองเห็นสิ่งที่โดนขวางกั้น หากทว่าสามารถระบุได้ว่ามีอะไรรูปร่างแบบไหนอยู่ในตำแหน่งใด ใบหูของเขาอาจไม่ได้ยินเสียงที่เบาบาง หากทว่าเขากลับสามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นความเปลี่ยนแปลง แม้แต่แมลงตัวน้อยที่มุดตัวซุกซ่อนอยู่ในใต้ดินเกือบเมตร เขาก็ยังสามารถสัมผัสถึงมันได้ เพราะไม่มีสิ่งใดที่กาลเวลาไม่เปลี่ยนแปลง

ร่างสูงกำยำที่เปลือยท่อนบนยืนหลับตาเปิดประสาทสัมผัสอยู่บนยอดไม้สูง
จากพื้นราวสามเมตร ใบหน้าที่หล่อเหลาจนสตรีเพศลุ่มหลงนั้นแปดเปื้อนดินโคลนเล็กน้อย หากทว่านั่นยิ่งเสริมเน้นเสน่ห์ของความดิบเถื่อนตามวิถีแห่งบุรุษเพศออกมายิ่งกว่าเดิม

“… เจอแล้ว”

แม็กพูดออกมาด้วยเสียงกระซิบขณะที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฎขึ้นบนใบหน้า เขาลืมตาคู่นั้นที่เปี่ยมด้วยมนตร์ขลัง ก่อนจะย่อเขาพุ่งกระโจนจากต้นไม้ต้นหนึ่ง ไปยังต้นไม้อีกต้นหนึ่งซึ่งอยู่ห่างกันเกือบเมตรได้อย่างแคล่วคล่องว่องไว และที่สำคัญก็คือทุกการเคลื่อนไหวนั้นล้วนแล้วแต่เงียบกริบราวกับท่วงท่าเคลื่อนไหวของหมาป่าที่กำลังล่าเหยื่อ

เขาไม่ทราบว่านี่เป็นเพราะค่าพลังหลักร้อยของเขาเพียงอย่างเดียว หรือว่าเป็นเพราะความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์ไททัน หากทว่าการกระโจนข้ามพื้นที่ไม่เกินสี่ถึงห้าเมตรนั้นเป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง และนั่นก็ทำให้เขายิ่งลุ่มหลงกับการเคลื่อนไหวที่แทบจะเป็นอิสระเสรีจากแรงโน้มถ่วงในเกมเช่นนี้มากยิ่งขึ้น

แม็กพุ่งกระโจนไปยังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง จากนั้นก็ยืนแนบร่างกับลำต้น แล้วขยับหยิบเอาคันธนูสีดำมะเมื่อมออกมาเตรียมเล็งพร้อมกับลูกศรไม้ที่จัดทำเอง และเมื่อเขาออกแรงน้าวเอ็นธนูก็พลันปรากฎลูกศรสีเงินของธาตุแสงขึ้นมาห่อหุ้มลูกศรที่ทำมาจากไม้ ถัดจากนั้นเขาก็ยืนนิ่งเงียบรอคอยเหยื่อของเขาให้พาตัวเข้ามายังลานประหารเอง

รอคอยไม่นานนัก เสียงฝีเท้าจำนวนมากก็ดังขึ้นมาจากทางด้านทิศเหนือ พุ่มไม้ดงหญ้าที่อยู่ด้านล่างพลิกไหวไปมาราวกับโดนพายุพัดกระหน่ำ หากทว่านั่นมิใช่พายุ แต่นั่นคือฝูงหมูป่าดำจำนวนมากกว่ายี่สิบตัวที่กำลังวิ่งหนีการไล่ล่าของสองสาวเผ่ากีร่า

หมูป่าดำนั้นมีรูปร่างเหมือนหมูป่าทั่วไป ยกเว้นก็แต่เพียงผิวหนังที่จะเป็นสีดำ มีร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่สูงกว่าหนึ่งเมตร บนปากของมันมีเขี้ยวโง้งสีขาวยาวไม่น้อยกว่าสามสิบเซนติเมตร แต่ว่าตัวจ่าฝูงซึ่งวิ่งนำหน้า และเป็นเป้าหมายของเขานั้นจะมีรูปร่างใหญ่กว่าหมูป่าดำทั่วไปเกือบเท่าตัว

การไล่ล่าหมูป่าดำพวกนี้จัดได้ว่ายากลำบากไม่น้อยสำหรับนักล่าของชนเผ่ากีร่า เพราะพวกมันไวต่อกลิ่น และเสียง ทั้งยังสามารถวิ่งตะบึงได้ด้วยความเร็วสูงไปตามพงหญ้าหนาทึบ นอกจากนี้ผิวหนังของพวกมันยังหนาจนการโจมตีทั่วไปไม่ระคายผิว หากไม่โจมตีเข้าจุดตายให้รุนแรงพอก็จะไม่สามารถทำให้มันหมดสภาพลงได้

แม็กสูดลมหายใจเข้าไปจนเต็มปอด ก่อนจะกลั้นเอาไว้ขณะรวมสมาธิเพ่งความรู้สึกลงไปยังพุ่มไม้ใบหญ้าที่กำลังส่ายไหวปั่นป่วนไปมาอยู่ด้านล่าง ซึ่งหากใช้เพียงสายตามองดูแล้วก็คงมองไม่เห็นแม้แต่เงาของพวกหมูป่าดำพวกนี้ แต่เมื่อใช้ประสาทสัมผัสในการรับรู้ก็กลับเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

แม้จะไม่เห็นด้วยดวงตาโดยตรง แต่แม็กก็สามารถสัมผัสได้ถึงตำแหน่งของหมูป่าดำตัวจ่าฝูง มันกำลังวิ่งตะบึงอยู่ด้านหน้าสุดด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การเคลื่อนไหวของมันเต็มไปด้วยความคึกคะนองเกรี้ยวกราดของสัตว์ป่า

สัมผัสรับรู้ที่พุ่งเป้าไปยังจ่าฝูงทำให้เขาสัมผัสได้ถึงรายละเอียดที่มากขึ้น ภาพการเคลื่อนไหวในทุกท่วงท่าของมันผ่านเข้ามาในหัวสมองโดยตรง เขาสัมผัสได้ถึงการหอบหายใจของมัน และการเต้นกระชั้นของหัวใจและปอดที่ทำงานถี่ยิบของเจ้าหมูป่า

หลังจากลองผิดลองถูกอยู่นาน ประสบการณ์ก็สั่งสอนให้แม็กพัฒนาขึ้น เขาไม่สามารถอธิบายหลักการออกมาได้ หากทว่าเมื่อเขาตั้งสมาธิถึงจุดหนึ่ง ทุกสิ่งรอบด้านก็จะเหมือนเคลื่อนไหวช้าลง ยิ่งมีสมาธิมากเท่าไหร่การเคลื่อนไหวเหล่านั้นก็แทบจะกลายเป็นหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว ยกเว้นก็แต่เพียงเขาคนเดียวที่ยังสามารถขยับคันธนูวาดไปมาได้อย่างอิสระเสรี

ฟุ่บ!! เมื่อถึงจุดอันเหมาะสม แม็กก็ปลดปล่อยเอ็นธนูจนมันพุ่งแหวกอากาศดังฟุ่บ ลูกศรที่สร้างจากไม้ธรรมดาพุ่งวาบออกไปเป็นเส้นตรงด้วยความเร็วสูงราวกับลำแสงเลเซอร์ นี่เป็นเพราะลูกศรไม้นั้นโดนกระตุ้นคุณสมบัติของธาตุแสงที่เน้นเสริมพลัง มันจึงรวดเร็วขึ้น และรุนแรงขึ้น

อู๊ดดดดดดด!!!! เสียงแผดร้องของหมูป่าจ่าฝูงดังก้องไปทั่วป่า ลูกศรที่มีสีเงินอาบคลุมอยู่พุ่งฝ่าดงไม้แน่นหนาตรงดิ่งเข้าไปเสียบทะลุใบหูซึ่งเป็นจุดอ่อนของมันอย่างแม่นยำราวกับจับวาง ความแหลมคมที่ถูกเพิ่มด้วยธาตุแสงทำให้ลูกศรเสียบลึกเข้าไปจนหมด เหลือแต่เพียงส่วนหางที่มีขนนกสีขาวโผล่มาให้เห็น

เสียงโครมดังขึ้นเมื่อร่างที่หนาบึกบึนของหมูป่าจ่าฝูงกระตุกเฮือก แล้วล้มลงไปบนพื้น จากนั้นร่างของมันก็ไหลพรืดไปบนพื้นอย่างไร้การควบคุม กวาดดงไม้บนพื้นจนราบเรียบเป็นที่โล่งกว้างไปแถบใหญ่

เหล่าหมูป่าที่เหลือเมื่อพบว่าจ่าฝูงของมันลงไปนอนดิ้นกระแด่วหมดท่าแล้ว พวกมันก็พากันส่งเสียงแผดร้องด้วยความแตกตื่น แล้วแยกย้ายวิ่งกระเจิดกระเจิงแตกฝูงไปตัวละทิศละทางทันที

“ยอดเยี่ยมเลยค่ะ ถือว่าสอบผ่านทันเวลาพอดี แต่ว่ายังไม่ดีพอนะคะ อย่าลืมว่าขณะกำลังล่า เราเองก็อาจจะถูกล่าอยู่ด้วยเหมือนกัน … เวลาที่นักล่าคิดว่าตัวเองล่าสำเร็จแล้วนี่แหละ คือช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด”

ขณะที่แม็กกำลังผ่อนคลายประสาทสัมผัส เสียงหวานสดใสเสียงหนึ่งก็พลันดังขึ้นมาจากด้านหลังพร้อมกับความเย็นเยียบของมีดหินคมกริบที่จ่ออยู่กับลำคอ แม็กจึงได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เพราะเขาเพียงพลั้งเผลอปลดปล่อยสัมผัสที่แสนเหน็ดเหนื่อยแค่วูบเดียว แม่หมอคาร่าก็โผล่พรวดอย่างเงียบงันเข้ามาได้อย่างเหมาะเจาะพอดี

“เอาน่า ก็มันเหนื่อยนี่นา ไอ้การเปิดประสาทสัมผัสรับรู้ไว้ตลอดเวลาแบบนั้นน่ะ”

“ก็ต้องฝึกฝนไว้ซิคะ ยิ่งทำบ่อยก็จะได้ยิ่งชิน ถ้าให้ดีควรจะสามารถทำได้ตลอดเวลาทั้งตอนหลับตอนตื่นถึงจะอยู่ในระดับสุดยอดนักล่า ฝึกในมิตินี้ยิ่งดี เพราะที่นี่จะทำให้ทักษะพัฒนาได้เร็วกว่าเดิมสามเท่า แลกกับการไม่ได้ค่าประสบการณ์”

“ก็ดีอยู่หรอก แล้วคาร่าจะเอาไงแน่เนี่ย ข้างหน้าก็เอามีดมาจอค่อ แต่ข้างหลังเล่นเอาหน้าอกมาเบียดซะแน่นขนาดนี้ หรือว่าอยากโดนล่าบ้าง?”

“คิก คิก … คาร่าต้องการซิคะ ก็วันนี้สามีของคาร่าต้องกลับออกไปข้างนอกแล้วนี่นา”

เด็กสาวแสนสวยที่โดนหยอกล้อส่งเสียงหัวเราะคิกคัก แล้วตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาตามประสาสาวชาวป่า เธอลดมีดหินที่จ่อกับคอของแม็กออก แล้วแนบกอดจากด้านหลัง ใช้หน้าอกบดเบียดถูไถ ไปพร้อมกับตะปบมือไปตามร่างแกร่งกำยำของชายหนุ่ม

“อืมมม … เมื่อคืนจัดให้ไปคนละสิบกว่ารอบแล้วยังไม่พออีกเหรอ?”

แม็กส่งเสียงครางแผ่วเบา เมื่อมือนุ่มนิ่มคู่นั้นลูบไล้สอดเข้าไปในกางเกงแล้วบีบขยำใส่แก่นกายของเขา

“ไม่พอหรอกค่ะ คาร่าน่ะ ต้องการที่รักตลอดเวลาน่ะแหละ … อยากให้ที่รักเปลี่ยนใจมาเป็นชนเผ่าของเรา เราจะได้อยู่ด้วยกันที่นี่ได้ตลอดกาล แต่คงไม่ได้หรอก เพราะที่รักเป็นผู้กล้าที่มีภารกิจมากมาย”

คาร่าส่งเสียงยั่วเย้าขณะคว้าหมับเอาดุ้นเอ็นอันเขื่องขึ้นมารูดถอกโดยไม่รู้สึกขัดเขิน แม้จะมีศักดิ์ศรีเป็นแม่หมอแห่งชนเผ่า แต่จะอย่างไรเธอก็ยังเป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่มีความรักใคร่ชอบพอ การได้สัมผัสกับรสรักที่ร้อนแรงสุขสมทำให้เธอเสพติด และเมื่อตระหนักได้ว่าบ่ายวันนี้ชายคนรักต้องจากไปอีกระยะเวลาหนึ่ง อารมณ์ร้อนรักก็ทำให้เธอแสดงความแง่งอนเร่าร้อนออกมามากกว่าเดิมหลายเท่า

“ไม่ต้องห่วงหรอก ไว้ผมจะมาที่นี่บ่อย ๆ ยังไงก็ได้บัตรเชิญแล้วนี่ … อืม แต่ที่นี่แปลกดีนะ มาอยู่ได้ไม่เกินเจ็ดวัน จะโดนส่งตัวกลับไป … แล้วต้องรอให้ครบเดือนถึงค่อยมาใหม่ได้ แถมชาวชนเผ่ายังไปข้างนอกไม่ได้ด้วย”

แม็กเอื้อมมือไปด้านหลัง แล้วตะปบขยำใส่สะโพกก้นของคาร่าด้วยความมันเขี้ยว เวลานี้เขารู้สึกแปลกใจไม่น้อยที่รู้สึกผูกพันธุ์กับคาร่าและมีอาขึ้นมา ทั้งที่ปกติแล้วเขาเป็นเสือผู้หญิงซึ่งพร้อมจะฟันผู้หญิงได้ทุกคน และสามารถตีจากพวกเธอได้โดยไม่รู้สึกอะไรนัก แต่กับสองสาวชนเผ่าทั้งสองนี้ เขากลับรู้สึกถูกใจในความบริสุทธิ์ใสซื่อของพวกเธอเข้าอย่างจัง

“ช่วยไม่ได้หรอกค่ะ นั่นเป็นกฎของชนเผ่าที่ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ เอาเป็นว่าที่รักมาเยี่ยมพวกเราบ่อย ๆ ก็พอแล้ว คาร่ากับมีอา จะคอยปรนนิบัติรับใช้เอง”

คาร่าพูดพลางระดมจูบไปทั่วซอกคอของชายหนุ่มด้วยลีลาเร่าร้อน และจังหวะนั้นเองที่มีอาลูกสาวหัวหน้าเผ่ากีร่าซึ่งรับหน้าที่ไล่ต้อนเหล่าหมูป่าดำได้วิ่งตามมาถึงซากร่างของหมูป่าจ่าวฝูงที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

มีอายิ้มให้กับความสำเร็จของการล่า แล้วมองไปรอบด้านด้วยความสงสัย ก่อนจะทำแก้มป่องเมื่อเห็นว่าแม็กกำลังพลอดรักอยู่กับคาร่าบนต้นไม้สูง เธอส่งเสียงฮึเล็กน้อย ก่อนจะพาร่างงามที่ชุ่มเหงื่อกระโจนขึ้นไปบนต้นไม้จนถึงบริเวณที่คนรักของเธออยู่

“มีอามาซิ มาทิ้งทวนกันหน่อยก่อนจาก”

แม็กที่เข้าใจผู้หญิงเป็นอย่างดีหันไปยิ้มให้มีอาและอ้าแขนรับเรียกหาให้เธอเข้าไปโอบกอด เด็กสาวที่สวยน่ารักเองก็ไม่มีจริตมารยาอะไรมากมายอยู่แล้ว เธอจึงยิ้มกริ่มแล้วโผเข้าไปสวมกอดกับชายคนรักจากด้านหน้า

สองสาวพรมจูบลูบไล้ไปตามร่างแกร่งกำยำด้วยความรู้สึกเร่าร้อนโหยหา ชายหนุ่มก็ตอบสนองด้วยการเล้าโลมปลุกเพลิงไฟแห่งความใคร่ของสองสาวชาวป่าจนลุกโชน เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มร่างกายโดนปลดเปลื้องออกทีละน้อยจนเปลือยเปล่าอวดเรือนร่างกระชับงดงาม

เมื่ออารมณ์ของสองสาวหนึ่งหนุ่มคุกรุ่นเพียงพอ ชายหนุ่มก็ผลักดันร่างของมีอาที่อยู่ด้านหน้าเข้าไปประชิดติดกับต้นไม้ เขาจับสองขาเรียวยาวกระชับขึ้นมารัดรอบบั้นเอวตนเองเอาไว้ ก่อนจะเดินหน้าสอดใส่แล้วกระแทกเอวถี่ยิบจนมีอาตัวกระตุกร้องครางลั่นไปทั้งป่า

คาร่าซึ่งกอดอยู่ด้านหลังด้วยความอัดอั้นจึงขยับเบียดทรวงอกเข้าหาแผ่นหลังของเขาด้วยความร้อนร่าน พร้อมกับอ้าปากงับจูบไปทั่วลำคอของเขาด้วยความดุดันราวกับสัตว์ป่าตัวเมีย

เสียงเนื้อกระแทกเนื้อและเสียงครางของคาร่าดังลั่นไปทั่วป่า เสียงนั้นผสมผสานไปกับเสียงร้องของแมลงและนกน้อยอย่างลงตัว ต้นไม้ที่กลายเป็นที่รองรับความใคร่ส่ายไปมาน้อย ๆ ตามการเคลื่อนไหวของสามหนุ่มสาวร้อนรัก

สะโพกหนากระแทกระรัวหนักหน่วงในช่วงโค้งสุดท้ายแห่งความหฤหรรษ์ มีอาดิ้นพรวดพราดไปมาปานจะขาดใจตาย ก่อนจะส่งเสียงกรีดร้องแว่วหวานเปี่ยมสุขออกมาสุดเสียงเมื่อถึงจุดสุดยอดแห่งห้วงกฤษนา และเมื่อพบว่ามีของเหลวร้อนผ่าวไหลทะลักเข้ามาในร่างอย่างมากมายมหาศาล เด็กสาวลูกหัวหน้าเผ่าก็ยิ่งรู้สึกสุขสมราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์

มีอากอดร่างของชายคนรักแนบแน่นด้วยอยากอยู่เช่นนี้ไปตลอดกาล หากทว่าเพียงครู่เดียวคาร่าก็เข้ามาแทรกแยกเธอออกจากเขา มีอาทำแก้มป่องใส่เพื่อนสาวคนสนิทเล็กน้อยที่โดนขัดจังหวะ หากทว่าเธอเข้าใจดีว่าคาร่าที่ยังไม่ได้ปลดปล่อยนั้นกำลังมีความต้องการขนาดไหน จึงยอมหลีกทางลงไปนั่งพิงกับต้นไม้อย่างเหนื่อยอ่อนแต่โดยดี

แม็กโดนจัดให้นอนราบลงไปบนกิ่งไม้ ก่อนที่คาร่าจะขยับมานั่งคร่อมทับดุ้นเอ็นที่แข็งเหมือนท่อนไม้อย่างรวดเร็ว เธอส่งเสียงครวญครางสุดเสียวขณะค่อย ๆ ขย่มกลืนกินดุ้นเอ็นอันเขื่องของเขาเข้าไปในร่าง จากนั้นแม่หมอก็สวมวิญญาณคาวบอยสาวเด้งขย่มเข้าใส่เขาด้วยความแรดร่านร้อนแรง

เรือนร่างงามผิวสีน้ำผึ้งส่ายเด้งร่อนระรัวเร็ว ในขณะที่มือของเขาเอื้อมมาบีบขยี้เต้านมที่อวบอิ่มเกินวัยอย่างรุนแรงจนบิดเบี้ยว หากทว่าความรุนแรงนั้นมีแต่จะกระตุ้นอารมณ์ร้อนรักของเธอให้พุ่งพรวดยิ่งกว่าเดิม สะโพกผึ่งผายจึงยิ่งเด้งโยกเป็นระวิง

เสียงครางนั้นดังก้องสะท้านไปทั่วบริเวณอีกราวสิบนาที ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหวีดร้องสุขสมปานจะขาดใจตายของคาร่า ร่างของเธอกระตุกเฮือกอย่างรุนแรงขณะที่น้ำกามร้อนระอุของเขาทะลักเข้าไปในร่าง จนทะลักย้อยออกมา

คาร่าก้มลงมองดูชายคนรักด้วยสายตาร้อนระอุ เธอทราบดีว่าแค่นี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอันดำมืดของเธอ หากทว่ายังไม่ทันจะได้เริ่มขยับโยกเอวรอบใหม่ ก็โดนมีอาขยับตัวมาผลักไสจนหลุดจากการผสานร่างกับเขาเสียก่อน

คาร่ามองค้อนด้วยความบูดบึ้งที่โดนขัดจังหวะ ส่วนมีอานั้นแลบลิ้นให้ด้วยรอยยิ้มเพราะถือเป็นการเอาคืนเมื่อครู่ จากนั้นมีอาก็ขยับขึ้นไปนั่งคร่อมแล้วโยกขย่มบ้าง คาร่าจึงได้แต่นั่งมองด้วยความรู้สึกอัดอั้นโหวงเหวง รอคอยให้มีอาเสร็จสมแล้วจึงค่อยถึงรอบของเธออีกครั้ง

เวลานี้เสียงครวญครางสุขกระสันต์ของสามหนุ่มสาวจึงแว่วดังอย่างต่อเนื่องไปอีกเนิ่นนาน … โดยมีสายตาของหญิงสาวอีกนางหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรใช้ทักษะมองไกลระดับสูงจับจ้องดูอยู่ตลอดเวลา

…………………………………….

“ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ เหลืออีกแค่สองนาที”

เซเฟียนักรบสาวสวยแสดงท่าทีทักทายต่อชนเผ่า แล้วหันมาพูดกับแม็กด้วยน้ำเสียงเย็นชา ก่อนจะหยิบเอาบัตรเชิญเข้ามิติน้ำตกแห่งสรวงสวรรค์ขึ้นมาถือเอาไว้เพื่อเตรียมตัวกลับ

“รีบจังเลย อืม แต่ก็ต้องไปล่ะนะ … งั้นก็พบกันใหม่นะ มีอา คาร่า แล้วก็เพื่อนชาวชนเผ่าทุกคน”

แม็กส่งเสียงอำลาต่อสองสาวอยู่ข้างกองไฟ มีอาและคาร่ายืนอยู่เบื้องหน้าเขาด้วยสายตาเว้าวอนคล้ายจะบอกให้เขาอยู่ต่อ หากทว่าพวกเธอไม่ได้พูดออกมา ส่วนเจ้าหมูป่าจ่าฝูงเวลานี้โดนแล่เครื่องในเสียบไม้ปิ้งอยู่บนเตาไฟพร้อมรับประทานเรียบร้อยแล้ว

คาร่ากลับมาสวมใส่เสื้อคลุมปิดบังใบหน้าและร่างกายอีกครั้ง เธอพยายามฝืนความรู้สึกไม่เข้าไปสวมกอดกับเขา เพราะต้องรักษาภาพพจน์ของแม่หมอพยากรณ์ซึ่งเป็นสิ่งสูงสุดของชนเผ่ากีร่า แต่มีอานั้นไม่มีข้อห้ามเช่นนี้ เธอจึงโผเข้ามากอดพร้อมกับร่ำไห้กระซิก หากทว่าไม่ได้พูดชักชวนให้เขาอยู่ต่อ เพราะนั่นเป็นไปไม่ได้

ที่น่าแปลกก็คือพ่อของมีอาหรือหัวหน้าเผ่านั้นเดินเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มจนเห็นฟันขาว แล้วโอบกอดมีอากับแม็กร่วมกันเหมือนจะประกาศรับว่าแม็กเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าแม็กผ่านการทดสอบของพิธีเบิกเนตรไพรีได้ ทั้งยังสามารถล่าหมูป่าดำตัวจ่าฝูงนำเขี้ยวของมันมาฝากได้ และนั่นนับเป็นของฝากระดับสูงที่มีเกียรติของชนเผ่ากีร่า

แม้จะยังไม่รู้ตัว แต่ว่าเวลานี้แม็กมีศักดิ์ฐานะในชนเผ่าไม่ต่างกับมีอา หรือก็คือเป็นลูกชายของหัวหน้าชนเผ่า ที่สามารถก้าวขึ้นไปเป็นหัวหน้าชนเผ่าได้หากเขาต้องการ

มีอายังคงสวมกอดแม็กเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เธอพร่ำพูดภาษาของชนเผ่าที่แม็กไม่เข้าใจออกมาชุดใหญ่ แม็กจึงได้แต่ใช้มือลูบไปบนศีรษะของมีอาเพื่อปลอบประโลม และแอบส่งสายตาให้กับคาร่าที่ยืนสั่นระริกเก็บอาการอย่างเงียบงัน

สุดท้ายงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลา ร่างของเซเฟียและแม็กเริ่มกลายเป็นละอองแสงสีขาวแล้วแตกกระจายออกเป็นอากาศอันว่างเปล่า และภาพสุดท้ายที่ทำให้แม็กรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไป ก็คือภาพใบหน้าเศร้าสร้อยของคาร่าและมีอาสองเด็กสาวชาวเผ่า

……………………………………

“เจ้าจะยืนซึมอีกนานมั้ย? นี่ก็ดึกแล้ว เจ้าไปหาที่พักเถอะ ข้าจะกลับที่พักของข้า ตอนนี้เจ้าถือว่าได้สมัครเข้ารับการทดสอบแล้ว เหลือแค่เข้ารับการทดสอบก็พอ การทดสอบจะมีต่อเนื่องกัน 14 วัน เจ้าจะเข้าวันไหนก็ได้”

เซเฟียมองไปรอบด้านรอบหนึ่ง และเมื่อพบว่าตอนนี้เธอและแม็กปรากฎตัวในตรอกเปลี่ยวของเมือง เธอก็หันไปกล่าวกับแม็กด้วยน้ำเสียงเย็นชา แต่ที่แตกต่างจากเซเฟียในยามปกติก็คือ ตอนนี้เธอไม่ได้สวมใส่ชุดเกราะเช่นเคย แต่เลือกสวมใส่เนื้อผ้ารุ่มร่ามบางเบาขับเน้นสัดส่วนโค้งเว้าของสตรีเพศแทน

“… หา … อะไร ใครซึม?”

แม็กที่ตกอยู่ในภวังค์ของความรู้สึกแปลก ๆ เงยหน้าขึ้นมามองดูเซเฟียด้วยความตกใจเล็กน้อย จากนั้นจึงค่อยมองไปโดยรอบ ก่อนจะพบว่าเขาไม่ทราบว่าที่นี่คือที่ไหน แต่เดาว่าน่าจะเป็นเมืองที่เขาเริ่มต้นเล่นเกม

“ก็เจ้านั่นแหละ ถ้าเศร้าขนาดนั้น ทำไมไม่ไปเป็นชนเผ่ากีร่าเสียล่ะ จะได้พลอดรักกับเด็กสาวสองคนนั้นให้หนำใจ”

“… เศร้าก็ส่วนเศร้าซิ แต่คนเราก็มีภาระหน้าที่ต้องทำ อย่างเช่นผู้หญิงบางคนก็มัวแต่แอบดูตอนคนเขาจู๋จี๋กันทั้งทั้งคืน”

แม็กหันไปยิ้มกว้างใส่เซเฟีย แล้วพูดแฉความลับออกมาจนเธอสะดุ้งโหยงขมวดคิ้วหันขวับมาด้วยความรวดเร็วพร้อมกับหลังมือ โดยมีเป้าหมายที่ศีรษะของแม็ก

หากเป็นก่อนหน้านี้แม็กคงจะโดนกระแทกขมับจนสลบเหมือดไปแล้ว หากทว่าเขาทราบนิสัยของเซเฟียดีจึงระวังตัวเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว อีกทั้งยังได้ผ่านการฝึกหนักจากคาร่า และไดโอนีมาแล้ว การโจมตีที่ไม่ได้มีประสงค์จะเข่นฆ่าให้ตายตกนี้จึงไม่นับเป็นอย่างไรได้ นี่ยังไม่นับเรื่องที่ว่าเซเฟียใส่เสื้อผ้ารุ่มร่ามขยับร่างกายได้ยากกว่าเดิมด้วยอีกทาง

แม็กก้มศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตี จากนั้นก็พลิกตัวอ้อมไปสวมกอดเรือนร่างกระชับเต่งตึงของเซเฟียจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว เซเฟียไม่ได้ตั้งใจโจมตีจริงจังตั้งแต่แรกจึงตกไปอยู่ในอ้อมกอดของแม็กโดยไม่อาจหลบเลี่ยง

“นี่เจ้าคิดจะทำอะไร?”

เซเฟียส่งเสียงด่าทอออกมา พร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมกอด หากทว่าแขนกำยำทั้งสองข้างของเขากลับล๊อคแน่นจนไม่สามารถดิ้นหลุดได้โดยง่าย

“ก็ไม่ได้ทำอะไรนี่นา แค่อยากจะเก็บค่าแอบดูสักหน่อยแค่นั้นเอง”

แม็กที่กอดจากทางด้านหลังยิ้มกริ่มแล้วโน้มหน้าไปพ่นลมใส่ใบหูของเซเฟียจนเธอหยุดชะงักการดิ้นรนเพราะขนลุกซู่ไปวูบหนึ่ง

“เจ้าพูดบ้าอะไร?”

“เป็นนักรบเสียเปล่า ไม่ต้องพูดโกหกกันหรอกน่า ตั้งแต่คืนก่อนแล้ว ที่เซเฟียแอบดูผมจู๋จี๋กับคาร่าแล้วก็มีอาน่ะ ยอมรับซะดีกว่า”

“… ข้าไม่ได้แอบดู ข้าเพียงแค่คอยเฝ้าดูว่าเจ้าจะรังแกแม่หมอคาร่า กับมีอาลูกสาวหัวหน้าเผ่าหรือเปล่า”

“แอบดู กับคอยเฝ้าดู​มันก็เหมือนกันนั่นแหละ … เซเฟียดูแล้วมีอารมณ์มั้ย? ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าสวย ๆ แบบนี้ล่ะ?”

แม็กถามพลางเดินเกมลวนลามเล้าโลมกระตุ้นอารมณ์นักรบสาวให้หนักหน่วงขึ้น เขาแอ่นเป้ากางเกงที่ตุงแน่นเบียดเข้าหาสะโพกก้นกลมกลึง พร้อมทั้งอ้าปากงับซุกไซร้ไปทั่วลำคอขาวผ่อง ส่วนสองมือนั้นก็ไม่ได้อยู่นิ่ง ขยับตะปบขยำขยี้ลงไปที่สองเต้าหนั่นแน่นอย่างหนักหน่วง

“… อึ๋ยยยย … เจ้า … อูยยสสส …อย่า … อย่านะ … อึ๋ยยยย … เจ้าจะทำอะไร … อย่า … อืมมม”

หากให้เทียบฝีมือการต่อสู้เอาชีวิตแล้ว แม็กคงจะด้อยกว่าเซเฟียอย่างไม่ต้องสงสัย หากทว่าเมื่อตกอยู่ในอุ้งมือมารเช่นนี้แล้ว แม็กย่อมถือไพ่เหนือกว่าสาวสวยด้อยประสบการณ์อยู่มากโข เพียงเขาโจมตีหลายจุดพร้อมกัน เรือนร่างกระชับปราดเปรียวก็อ่อนระทวยหอบกระเส่าหมดเรี่ยวหมดแรงเสียแล้ว

“เซเฟียสวยมากเลยรู้ตัวมั้ย ผิวก็เนียนนุ่มน่าจับ ตัวก็หอมน่าจูบ”

แม็กเล้าโลมไปพลางพูดตะล่อมชื่นชมไปพลาง ผู้หญิงจะอย่างไรก็เป็นผู้หญิง คำพูดชมมักจะได้ผลเสมอ โดยเฉพาะเมื่อคำชมนั้นออกมาจากปากของผู้ชายที่เธอรู้สึกสนใจ อาการดิ้นรนขัดขืนของเซเฟียจึงยิ่งมายิ่งลดน้อยลง เธอจึงเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง เพราะเธอทราบดีจากการฝึกหนักมาว่าหากเธอตั้งใจจริงแล้ว เธอสามารถดิ้นรนออกจากอ้อมกอดแบบนี้ได้ไม่ยากนัก แต่ปัญหาก็คือร่างกายของเธอกลับไม่ยอมกระทำเช่นนั้น

“… พอแล้ว … อย่านะ … ซี้ดดดสส … อ๊ายยย … อย่า”

เซเฟียพยายามพูดร้องห้ามตลอดเวลา หากทว่าร่างกายของเธอกลับตอบสนองต่อการเล้าโลมอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเขาซุกจมูกจูบไซร้ซอกคอ ร่างกายก็แอ่นเอียงเปิดทางให้เขากระทำได้โดยง่าย และเมื่อเขาสอดมือลอดเข้าไปในขอบกางเกง สองขาที่ควรหนีบเข้าหากันกลับเปิดทางให้เขารุกล้ำสู่จุดสำคัญอย่างสะดวกง่ายดาย

“คาร่าเล่าเรื่องของเซเฟียให้ฟังแล้วล่ะ บางทีคนเราก็ควรวางเรื่องราวในอดีตลง แล้วหาความสุขให้กับชีวิตบ้างนะ ถ้ามัวแต่ต้องแบกความเศร้าเอาไว้คงเหนื่อยน่าดู”

แม็กกระซิบที่ข้างหู พลางล้วงมือลงไปสะกิดเขี่ยร่องเสียวที่ฉ่ำชื้นเล็กน้อยจนร่างงามกระตุกเฮือกเป็นระยะ เขาได้ยินเรื่องราวชีวิตรักน่าเศร้าของเซเฟียมาจากปากคาร่าแล้ว

เซเฟียเคยหลงรักกับทหารหนุ่มที่ยังอ่อนด้อยด้านการต่อสู้ แต่ชายคนนั้นฝึกหนักโดยมีเธอคอยสอนจนเก่งกล้าขึ้นมา หลายปีหลังจากนั้นเธอก็ได้เข้าพิธีแต่งงานกับชายคนนั้น หากทว่าในค่ำคืนนั้นเองที่มีเหล่าปีศาจบุกเมืองข้างเคียง ทหารทุกคนจึงถูกเรียกประจำการอย่างเร่งด่วน เซเฟียจึงต้องออกรบโดยไม่ทันได้เข้าห้องหอกับสามี และเรื่องน่าเศร้าก็คือสามีของเธอโดนปีศาจฆ่าตาย เพราะเข้าไปปกป้องพวกนักผจญภัยในเมือง

สามีตายในคืนวิวาห์นั้นเป็นเรื่องน่าเศร้าถึงเพียงไหนเป็นที่คาดเดาได้ เซเฟียจึงปิดใจกลายเป็นนักรบสาวหัวใจเย็นชามานาน จนกระทั่งเจอเข้ากับแม็กที่มีส่วนคล้ายคลึงกับสามีของเธอ ประตูที่ปิดตายในใจจึงแง้มเปิดออกมา

การท้าทายให้ยิงธนูใส่นั้น เซเฟียก็เคยกระทำกับสามีของเธอตั้งแต่วันแรกที่พบเจอกัน ยิ่งโดนแม็กยิ่งใส่ก็ยิ่งทำให้เธอเกิดความประทับใจแบบเดียวกัน เธอจึงตัดสินใจมอบคันธนูที่เคยเป็นของสามีให้ โดยหลอกตัวเองว่าจะได้ลืมสามีเสียให้หมด

แต่ยิ่งได้พบเจอ ยิ่งได้เห็นการกระทำหลายต่อหลายอย่าง เช่น การยืนเหม่อมองน้ำตก หรือการยอมลดศักดิ์ศรีของผู้ชายขอให้เธอฝึกให้ก็ยิ่งทำให้ภาพเหล่านั้นซ้อนทับกันยิ่งขึ้นจนเธอยิ่งแยกระหว่างแม็ก และสามีที่ตายตกของเธอไม่ออก

เซเฟียไม่ทราบด้วยซ้ำ ว่าทำไมเธอจึงตัดสินใจแอบตามแม็กในช่วงพิธีเบิกเนตรไพรีไปอย่างลับ ๆ จนกระทั่งเธอได้พบเห็นฉากวาบหวามของเขาและสองสาวเผ่ากีร่า อะไรบางอย่างที่ถูกซุกซ่อนเก็บงำอยู่ใต้ก้นบึ้งของจิตใจก็ตื่นตัวลุกโชนขึ้นมา และนั่นทำให้เธอเผลอเปลี่ยนไปสวมใส่เสื้อผ้าบางเบาขับเน้นเสน่ห์ความงามแหงสตรีของเธอโดยไม่รู้ตัว

เสียงสวบสาบของเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยทีละชิ้นดังขึ้นอย่างแผ่วเบาในตรอกเปลี่ยว ด้วยความที่ถอดง่ายอยู่แล้ว เพียงพริบตาเดียวร่างท่อนบนของเธอก็เปลือยเปล่า จากนั้นเรือนกายที่ขาวผ่องผุดผาดสั่นสะท้านระริกไปตามลีลาอันพลิกพลิ้วของฝ่ามือหยาบกระด้าง เธอหลับตาปี๋ส่งเสียงครวญครางราวกับจะขาดใจ

“เซเฟียสวยมากเลย เรามีความสุขด้วยกันนะ”

ความเสียวซ่านที่ปลายนิ้วของเขาละเลงลงไปบนกลีบเสียวกำลังทำให้เธอรู้สึกคลั่ง ร่างงามปราดเปรียวเปี่ยมพลังของนักรบสาวบิดส่ายร่อนไปมาหนักหน่วง ยิ่งเขาสอดแยงนิ้วทะลวงเข้าไปลึกมากเพียงใด ความสุขหฤหรรษ์ยิ่งกว่าที่เคยจินตนาการก็ยิ่งแผ่ซ่านไปทั่วร่างราวกับได้ขึ้นสู่สรวงสวรรค์

“ซี้ดดสสส … อย่า … แม็ก … อูยยยย … พอแล้ว … หยุดเถอะได้โปรด”

สติของเธอยิ่งมาก็ยิ่งเลือนหาย ดังเห็นได้จากการที่เธอยื่นมือไปเกาะกุมมือของเขา แล้วกดเข้าหาร่างกายของเธอเหมือนจะสื่อว่าอยากให้เขากระทำรุนแรงยิ่งกว่านี้ และแม็กเองก็ใช่ว่าจะอ่อนด้อยในเรื่องนี้ เพียงเห็นอาการอันเล็กน้อยเหล่านี้ เขาก็อ่านภาษากายของเธอออกมาได้อย่างชัดเจนแล้ว ว่าเธอต้องการอะไร

เสียงเจ๊าะแจ๊ะดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อนิ้วหยาบกระด้างแหย่แยงบิดคว้านอยู่ในร่องหลืบที่ตอดแน่นระรัว น้ำหล่อลื่นไหลเอ่อทะลักย้อยไหลไปตามง่ามขาเป็นทางยาว ในขณะที่สะโพกผึ่งผายของเธอเริ่มเด้งร่อนต้อนรับลีลารักของเขามากขึ้นทีละน้อย

เวลานี้แม็กกำลังลังเลอย่างยิ่ง เขาไม่แน่ใจว่าควรจะใช้นิ้วช่วยต่อไปให้เซเฟียเสร็จสมอารมณ์หมายดีหรือไม่ เพราะไม่ทราบว่าหากอารมณ์ของเธอเย็นลง เธอจะยังยินยอมเขาอีกหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงถอนนิ้วออกมาแล้วจับเซเฟียยืนพิงกับผนังในตรอกมืดหันหน้ามาทางเขา

เซเฟียแอ่นกลีบเสียวไปตามนิ้วมือของเขาด้วยความรู้สึกโหวงเหวง ใบหน้าแดงก่ำของเธอหันมองดูเขาด้วยความงุนงง ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เมื่อสายตาที่มองเห็นในความมืดของเธอได้พบว่า เขากำลังปลดเปลื้องกางเกงของตัวเองออกจนดุ้นเอ็นขนาดใหญ่ของเขาดีดตัวผึงออกมากระตุกหงึกที่ด้านนอก

นักรบสาวสวยสูดหายใจด้วยความเครียดเขม็ง เมื่อเขาประกบร่างเข้ามากอดแล้วจูบปากอย่างหนักหน่วงจนเธอหายใจไม่ทัน และที่ทำให้เธอเคร่งเครียดก็คือความแข็งแกร่งดุจท่อนไม้ของเขาที่กำลังแปะป่ายอยู่ตรงแถวหน้าท้องและร่องหลืบของเธอนั่นเอง

แล้วเขาก็ทำในสิ่งที่เธอทั้งปราถนาและหวาดกลัว ขาข้างหนึ่งโดนเขาจับยกไปไขว้ไว้บนสะโพกแกร่งหนา ในขณะที่วัตถุร้อนแกร่งกำลังพยายามเบียดแทรกผ่านความคับแน่นเข้ามาในร่างของเธออย่างเชื่องช้า

เซเฟียเม้มปากหลับตาปี๋กอดร่างของชายหนุ่มไว้อย่างแนบแน่น ความเจ็บปวดที่ชำแรกเข้ามาทำให้เธอตัวกระตุกอ้าปากเหวอไปครู่ใหญ่ แต่หลังจากนั้นทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปอย่างพลิกคว่ำ ความเจ็บปวดไม่ทราบสูญหายไปที่ใด หลงเหลือไว้ก็แต่เพียงความเสียวหฤหรรษ์ที่กระหน่ำซัดเข้ามาจนหัวขายโพลน

ความจุกเสียดที่ท้องน้อยทำให้เธอทราบว่าเขาบุกรุกเข้ามาได้ครึ่งทางแล้ว และเสียงกัดฟันกรอดด้วยความเสียวของเขาก็กำลังทำให้เธอยิ่งรู้สึกตื่นเต้นกระสัน คล้ายกับกำลังภาคภูมิใจที่ร่างกายของเธอกำลังทำให้บุรุษเพศผู้หนึ่งแทบทานทนไม่ไหว

“อ๊ะ … ซี้ดดดสสส … แม็ก … แม็ก … เข้ามาอีก … ซี้ดดดสส … ใส่มันเข้ามา … เข้ามา … อ๊ะ … อ๊าา … อ๊ายยยย”

ในขณะเดียวกันสัญชาตญาณสืบพันธุ์ของเพศเมียในร่างก็กำลังทำงานอย่างหนักหน่วง เธอเม้มร่ำร้องครวญครางสุดเสียง สะโพกผายพยายามเด้งร่อนเข้าหาร่างของชายหนุ่ม เธอใคร่ปราถนาที่จะให้เขาสอดลึกเข้ามาให้สุดทางเพื่อสนองต่ออารมณ์ใคร่ที่ใกล้ระเบิดออก แต่ว่าเขายังบุกเข้ามาได้ไม่สุดทาง อารมณ์ใคร่ของเธอก็แตกระเบิดออกมาเสียก่อน

เซเฟียหวีดร้องออกมาสุดเสียงเมื่อตนเองไปถึงจุดสุดยอดแห่งห้วงกามารมณ์ ร่างปราดเปรียวกระตุกเฮือกอย่างรุนแรง สองมือจิกเล็บลงไปแผ่นหลังของเขาอย่างดุดัน เช่นเดียวกับริมฝีปากบางที่อ้าออกแล้วงับลงไปบนหัวไหล่ซึ่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขา

“โอ๊ยย … อื้อ หือ เซเฟีย ร้อนแรงอะไรขนาดนี้ ซี้ดดดสสส”

แม็กซึ่งสอดใส่เข้าไปได้เพียงครึ่งทางตื่นตกใจเล็กน้อย เพราะไม่คาดว่าเซเฟียจะเสร็จง่ายเช่นนี้ ทั้งยังคาดไม่ถึงว่าเธอจะแอบมีอารมณ์ซาดิสม์เล็ก ๆ ด้วยการจิกเล็บและกัดใส่เขา แต่เขาเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วจึงไม่ได้รู้สึกไม่พอใจแต่อย่างใด เพราะมองว่านั่นคือการระบายความสุขอย่างหนึ่ง

การถึงจุดสุดยอดของเซเฟียนั้น ทำให้ร่องหลืบตอดหนึบใส่แม็กอย่างรุนแรง และหากว่าเขาไม่ได้เพิ่งระบายใส่คาร่ากับมีอามาอย่างอิ่มหนำแล้วล่ะก็ เขาคงจะต้องน้ำแตกล่มปากอ่าวอย่างแน่นอน

แม็กหยุดนิ่งปล่อยให้เซเฟียซึมซับความสุขสุดยอดเสียก่อน เขาแน่ใจว่าความคิดของเธอจะเปลี่ยนไป ระหว่างเคยถึงและไม่เคยถึงจุดสุดยอดนั้นมีช่องว่างที่ห่างอยู่ไม่น้อย ผู้หญิงที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์จะมีความยับยั้งชั่งใจมากกว่า แต่คนที่เคยมีประสบการณ์อันหอมหวานจะจดจำรสชาติหฤหรรษ์นี้ไว้ และมีความยับยั้งชั่งใจน้อยลง

เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งนาทีที่เซเฟียตัวกระตุกถี่ยิบ จากนั้นเธอจึงค่อยคลายปากและเล็บที่จิกกัดลงบนร่างกายของเขา แม็กจึงหันไปมองสบตาแล้วยิ้มให้ เขาคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะจับจองตำแหน่งผู้ชายคนแรกของเซเฟียอย่างเป็นทางการ

เซเฟียที่สติยังไม่กลับคืนมาโดนเขาประกบปากจูบอย่างหนักหน่วง พร้อมกับการกดบั้นเอวกระแทกเข้าใส่อย่างแรงจนดุ้นเอ็นมุดเข้าไปในร่างของเธอได้จนสุดลำ

สาวสวยที่เพิ่งถูกปรนเปรอด้วยความหฤหรรษ์ย่อมไม่มีท่าทีต่อต้าน เธอโอบกอดและจูบตอบเขาด้วยอารมณ์รักร้อนแรง ในขณะที่สะโพกก็เริ่มส่ายเด้งรับการกระเด้าเบา ๆ ของเขาถี่ยิบ

แม็กกัดฟันกรอดด้วยความเสียวสุดยอด ร่องสวาทของเซเฟียตอดรัดเข้าใส่ดุ้นเอ็นของเขาหนักหน่วง สะโพกกำยำจึงเริ่มโหมกระหน่ำกระแทกใส่อย่างถี่ยิบรุนแรงเพื่อนำพาตนเองให้ถึงจุดสุดยอดแห่งอารมณ์

เสียงปั้กปั้กดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งตรอกอันมืดมิด เสียงครวญครางของหนุ่มสาวก้องกังวาลสะท้อนแว่วไปมา เขาและเธอต่างตกอยู่ในช่วงเวลาน่าอัดอั้นที่ใกล้ถึงจุดสุดยอด ต่างฝ่ายจึงต่างพยายามเร่งขยับร่างเสนอสนองนำพาตัวเองปีนป่ายขึ้นไปให้ถึงจุดนั้น และพวกเขาคงจะได้สมหวังหากว่าไม่มีสิ่งใดมาขัดขวางเข้าเสียก่อน

“พวกเจ้าทำอะไรกันน่ะ?”

พรึ่บ!!! … แสงจากคบเพลิงและเสียงของผู้คนที่ปรากฎขึ้นมาอย่างกระทันหันทำให้หนุ่มสาวสะดุ้งโหยง แม็กตอบสนองด้วยการรีบหันไปมองดูผู้มาเยือนที่ไม่พึงประสงค์ด้วยอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่าน ส่วนเซเฟียนั้นตอบสนองแตกต่างออกไป ความขวยเขินทำให้เธอรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางแล้วก้มหน้าซบลงไปบนไหล่ของแม็กเพื่อปิดบังตนเองโดยไม่สนใจทั้งสิ้นว่าผู้มาจะเป็นใคร

ผู้มาเยือนพร้อมกับคบเพลิงนั้นมีจำนวนทั้งสิ้นสี่คน พวกเธอทั้งหมดเป็นทหารหญิงลาดตะเวนที่แต่งตัวด้วยชุดเกราะเต็มยศ บ้างถือดาบ บ้างถือหอก บ้างถือธนู และเวลานี้สายตาของพวกเธอทั้งสี่กำลังจับจ้องมองมาทางเขาด้วยความสนอกสนใจยิ่ง

“… เจ้าคงจะเป็นนักเดินทางซินะ พวกข้าเป็นทหารลาดตระเวณรักษาความปลอดภัยของวังหลวง ถึงเมืองนี้จะไม่มีกฎหมายบังคับเรื่องนี้ แต่พวกเจ้าก็ไม่ควรทำเรื่องอนาจารแบบนี้นอกสถานที่ จงหยุดและกลับไปกระทำต่อในที่พักของเจ้าเสีย”

ทหารหญิงรูปร่างบึกบึนเหมือนนักกล้ามที่ถือหอกหันมาพูดเสียงกร้าว แต่พอจะสังเกตได้ว่าสายตาของเธอกำลังกวาดมองดูรูปร่างแกร่งกำยำที่เปลือยเปล่าของแม็กด้วยแววตาชื่นชมหวานเยิ้มตามประสาสายตาของสตรีที่มองดูบุรุษมากเสน่ห์อยู่บ้าง

“ทหารลาดตระเวณงั้นเหรอ งั้นขอโทษด้วยนะครับ เดี๋ยวพวกเราจะรีบกลับไปต่อกันที่ห้อง”

แม็กตอบด้วยรอยยิ้มเพื่อหว่านเสน่ห์ตามปกติ อย่างน้อยเขาก็โล่งใจที่อีกฝ่ายน่าจะไม่ได้มีอันตรายอะไร เพียงแค่เดินสำรวจลาดตระเวณค้นหาความผิดปกติในเมืองเท่านั้น

“คิก คิก พ่อรูปหล่อจ๊ะ จริง ๆ ทำกันต่อก็ได้นะคะ เดี๋ยวพวกเราช่วยดูต้นทางให้”

“นี่ยัยบ้า ตอนนี้อยู่ในเวลางานนะยะ ถึงจะเจอหนุ่มหล่อก็อย่าเพิ่งออกอาการแบบนี้ซิ”

“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย พวกเราก็ทำงานรักษาความปลอดภัยให้ไง เห็นคู่รักกำลังมีอะไรกัน เราก็คอยแอบดู เอ๊ย ช่วยคุ้มครองรักษาความปลอดภัยไง”

“ไม่ต้องเลยย่ะ แกน่ะมีแฟนแล้วนะ ยังจะมาอี๋อ๋อใส่พ่อหนุ่มหล่อคนนี้อีก แกน่ะหลบไปเลย ต้องชั้นนี่ซิยังโสดซิงสดใหม่”

“พวกเธอน่ะหยุดทั้งหมดเลยนะ มาทำตัวเสื่อมเสียแบบนี้ได้ไง เดี๋ยวท่านหัวหน้าเซเฟียรู้เข้าล่ะก็ท่านจะเสียใจเอานะ”

“แหม ๆ มันคนละเรื่องกันนะ คนเราก็ต้องมีเรื่องสนุกครื้นเครงกันบ้าง ถึงชั้นจะเคารพยกย่องหัวหน้า แต่ก็อดสงสารหัวหน้าไม่ได้นะ เอาแต่แบกความเศร้าอยู่ได้ ทั้งที่สวยจนผู้ชายมาจีบมากมายขนาดนั้นแท้ ๆ”

สี่ทหารสาวพากันส่งเสียงเจื้อยแจ้วพูดจากันราวกับนกแตกรัง แม็กจึงได้แต่ยืนนิ่งอุ้มร่างของเซเฟียไว้ทำอะไรไม่ถูก และตอนนี้เขาจึงเพิ่งได้รู้ว่าทำไมเซเฟียที่ไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดถึงเอาแต่ก้มหน้าซบกับไหล่ของเขา นั่นเพราะทหารสาวทั้งสี่นี้ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องของเซเฟียนั่นเอง

พวกเธอสนทนากันอย่างสนุกสนานครื้นเครง สลับกับแอบมองดูรูปร่างกำยำเปี่ยมเสน่ห์เพศชายของแม็กด้วยความสนใจกันอีกครู่ใหญ่ ก่อนที่พวกเธอจะโบกมือลาจากไปพร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก

แม็กถอนหายใจโล่งอกออกมา เขากำลังคิดว่าจะจัดการตรงนี้ต่อให้จบเรื่อง หรือจะพาเซเฟียไปต่อที่ไหนดี แต่ยังคิดไม่ทันเสร็จ เซเฟียที่ได้สติคืนมาแล้วก็ผละออกจากร่างของเขา แล้วก้มหน้างุดไม่พูดไม่จา

เขาพยายามมองสีหน้าเธอเพื่อประเมินหาแผ่นตะล่อมเธอใหม่ เพราะเข้าใจดีว่าการหยุดชะงักแบบนี้ย่อมทำให้อารมณ์ของเธอเย็นลงไปไม่น้อย แต่ยังไม่ทันได้คิดแผนอะไร เซเฟียก็หยิบการ์ดขึ้นมาใบหนึ่งแล้วเรียกใช้จนร่างของเธอค่อย ๆ กลายเป็นละอองแสงสีขาว และหายวับไปเหลือเพียงเขาคนเดียวในตรอกอันว่างเปล่า

“อ้าว บทจะมาก็มา บทจะไปก็ไป … แล้วคืนนี้เอาไงล่ะเนี่ย ต้องอารมณ์ค้างนอนคนเดียวเหรอเนี่ย … อืม แต่เหลือเวลาออนไลน์อีกแค่สิบกว่าชั่วโมงถึงพรุ่งนี้เที่ยง หรือจะออกไปก่อน แล้วค่อยเข้ามาใหม่ดีหว่า”

แม็กยกมือขึ้นเกาหัวด้วยความเซ็ง เพราะเขายังไม่ทันได้ระบายความแข็งตัวโด่เด่ออกมา ซึ่งก็ยังดีที่ก่อนหน้านี้เขาได้ปลดปล่อยให้คาร่าและมีอาไปอย่างเต็มที่แล้วจึงยังไม่อัดอั้นมากนัก

สุดท้ายเขาก็เดินออกจากตรอกมืดไปโดยไม่รู้เหนือรู้ใต้ เขาเดินวกวนไปมาในตรอกซอยยิบย่อยจนเริ่มสับสน จนเขาเริ่มคิดจะเรียกใช้การ์ดกลับเมือง เพื่อไปยังจุดกึ่งกลางที่เขาพอรู้จักอยู่บ้าง แต่ก่อนที่จะได้เรียกใช้ เขาก็พลันหันไปมองเห็นผู้คนมากมายเดินเข้าออกร้านค้าท่าทางลึกลับไม่น่าไว้วางใจร้านหนึ่ง โดยที่หน้าร้านนั้นมีป้ายสีดำเขียนเอาไว้ว่า

‘ร้านค้าทาส และสัตว์เลี้ยง’

……………………………………

Share the Post:

Related Posts

เสียวซาดิสม์ กับหนุ่มแว่นเพื่อนสนิท

เรื่องเสียว เสียวซาดิสม์ กับหนุ่มแว่นเพื่อนสนิท ฉันไม่เคยลืมการติวหนังสือครั้งนั้นได้ไปตลอดชีวิต เพราะเขา แมน หนุ่มแว่นประจำห้องที่ใครๆ ก็มองว่าเนิร์ดสุดๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นกับฉันเอง เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ฉันนัดไปติวหนังสือที่ห้องเพื่อนสนิทคนหนึ่ง พ่อแม่เรารู้จักกันมานาน ส่วนเราก็เล่นกันมาตั้งแต่อนุบาล จึงสามารถไปมาหาสู่กันได้ปกติ เพราะบ้านอยู่ในโครงการเดียวกัน ที่จริง ฉันแอบชอบแมนอยู่ ชอบมานานแล้ว เพราะเขาดูเป็นคนเรียบง่าย ใจเย็น

Read More

แอบเย็ด ยายของเมียในวันที่เบื่อเมีย

เรื่องเสียว แอบเย็ด ยายของเมียในวันที่เบื่อเมีย ผมกับเมียปีนี้อายุ 32 เท่ากันเลยเรารักกันมา 10 กว่าปีแล้วตอนนั้นเมียผมอายุ 17 เราก็มีอะไรกันตามปกติทั่วไปแบบผัวเมีย แต่พักหลังมานี้ผมเริ่มเบื่อเมียครับ เอาจริง ๆ ก็เบื่อมาพักใหญ่แล้วล่ะ ทั้งเรื่องเซ็กส์และเรื่องอื่น เอาเป็นว่าโดยรวมคือเบื่อ และเบื่อมากนั่นเอง จนวันหนึ่งเมียผมพาผมกลับมายังบ้านเกิดของเธอที่หนองคาย บ้านที่นั่นมีแม่และยายของเมียผมเอง ช่วงแรก

Read More