“ใบตองจ๋า ตอนนี้น้องโตเป็นสาวแล้วนะ ถึงจะเพิ่งขึ้น ม.4 แต่ตองสวยมาก สวยกว่าพี่อีก แถมยังโตเกินวัยด้วย หน้าอกยังกับเด็กมหาลัยแน่ะ พี่อยากเตือนให้ระวังเรื่องผู้ชายหน่อย เลือกคบใครให้ระวัง ยิ่งเราสวยก็ยิ่งต้องระวัง อย่าไปหลงเชื่อใครง่าย ๆ ล่ะ เข้าใจหรือเปล่า” “ค่ะพี่เตย หนูจะระวังตัวค่ะ แต่ยังไงหนูก็ไม่ได้คิดจะมีแฟนตอนนี้หรอก” “ได้ยินแบบนี้พี่ก็สบายใจขึ้นหน่อย แล้วมีคนมาจีบหรือทำท่าลามกอะไรใส่เราหรือเปล่าน่ะ” “มีผู้ชายมาจีบบ้างค่ะ แต่หนูไม่ได้สนอะไร พี่ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ” “อืม … แล้ว … ตองไม่ได้รู้สึกลำบากใจอะไรใช่หรือเปล่า ที่ต้องมาอาศัยอยู่กับแฟนของพี่” “ไม่นะคะ หนูไม่ลำบากอะไรหรอก หนูเองเสียอีกที่เป็นฝ่ายมารบกวนขออยู่กับพี่ใบเตยกับพี่วิทย์” “แล้ว … วิทย์เป็นไงบ้าง เค้าทำอะไร … เอ่อ พี่หมายถึงแสดงท่าทีอะไรไม่ดีกับเราหรือเปล่า” “ไม่มีนะคะ พี่วิทย์ใจดีออก”
“อืม งั้นก็ดีไป เราใกล้ถึงห้องแล้วใช่หรือเปล่า เดี๋ยวพี่จะวางสายล่ะนะ ขอไปนอนสักหน่อย วันนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่” “ค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะพี่ใบเตย” หนูกดวางโทรศัพท์แล้วถอนหายใจหนึ่งครั้ง ก่อนจะเดินออกจากรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วไหลไปตามฝูงชนโดยพยายามไม่สนใจสายตาของผู้ชายที่แอบมองมา ตอนนี้หนูเริ่มชินกับการเดินทางแบบนี้แล้ว ไม่เหมือนกับหนึ่งเดือนก่อนที่หนูทำตัวไม่ถูกทำอะไรแทบไม่ได้ต้องอาศัยพี่สาวให้ช่วยตามประกบสอน เพราะว่าหนูเพิ่งย้ายจากบ้านนอกมาเข้ากรุง หนูชื่อใบตองค่ะ หนูเข้ามากรุงเทพเพื่อเรียนชั้น ม.4 ที่นี่ ส่วนคนที่หนูเพิ่งคุยโทรศัพท์ด้วยก็คือพี่ใบเตยพี่สาวแท้ ๆ ของหนูเอง ตอนนี้พี่ใบเตยเป็นนักศึกษามหาลัยคณะบัญชี พี่เตยมาอยู่กรุงเทพก่อนหนูพอสมควรก็เลยรู้อะไรมากกว่า ก่อนหน้านี้พวกเราสองพี่น้องอยู่ต่างจังหวัดในบ้านโทรม ๆ แทบไม่มีอะไรกิน โชคดีเป็นของพี่ใบเตยที่เจอพี่วิทย์
พี่วิทย์ช่วยพวกเราเรื่องเงินจนลืมตาอ้าปากได้ พี่วิทย์เป็นหนุ่มหล่อเรียนวิศวะบ้านมีฐานะ เขาเป็นแฟนของพี่เตยแบบกินนอนอยู่ด้วยกัน ถ้าพูดให้ดูดีก็คือพี่วิทย์ช่วยพี่ใบเตยด้วยฐานะแฟน แต่ถ้ามองอีกมุมความสัมพันธ์ของพี่วิทย์กับพี่ใบเตยก็ออกจะแปลก ๆ สักหน่อย ถ้าพูดแบบไม่ดีก็คือพี่ใบเตยเป็นเหมือนเมียเช่าที่พี่วิทย์เลี้ยงเอาไว้ โดยแลกกับเงินจุนเจือครอบครัว รวมไปถึงค่ากินอยู่ทุกอย่างของพี่เตย หนูไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของพี่สาวกับพี่เขยสักเท่าไหร่ แต่พี่ใบเตยของหนูเป็นคนสวยมาก สวยระดับดาวมหาลัย รูปร่างก็ดีเหมือนนางแบบ แถมยังรู้จักเอาอกเอาใจพี่วิทย์ หนูเลยคิดว่าพี่วิทย์น่าจะหลงเสน่ห์พี่เตยพอสมควร ไม่งั้นคงไม่พามาอยู่ด้วยกันแบบออกหน้าออกตาด้วยฐานะแฟน แถมยังดูแลพี่เตยอย่างดี ไม่กดขี่บังคับหรือทำร้ายพี่เตยเลยสักนิด ดูไปแล้วทั้งคู่ก็เหมือนคนรักกัน พี่เตยอาศัยอยู่กับพี่วิทย์ในคอนโดของเขาเอง ส่วนหนูที่เพิ่งเข้าเมืองกรุงก็มาอาศัยที่นี่ด้วย เพราะพี่เตยไม่กล้าให้หนูอยู่ต่างจังหวัดคนเดียว
ยังดีที่คอนโดของพี่วิทย์ใหญ่โตมีห้องนอนตั้งสามห้อง หนูเลยมีพื้นที่ส่วนตัวไม่ไปรบกวนพี่สาวกับพี่เขยมากเกินไป เรียกว่าอยู่สุขสบายกว่าที่ผ่านมาก็ยังได้ แต่หนูก็ยังมีเรื่องลำบากใจบางอย่าง เรื่องแรกคือหนูเกรงใจที่ต้องมาอาศัยขอใช้เงินของพี่วิทย์ ถึงหนูจะพยายามทำงานบ้านเพื่อตอบแทนแต่ก็ถือว่ายังไม่คุ้มค่าแรงอยู่ดี เรื่องที่สองก็คือพี่เตยกับพี่วิทย์มักจะทำเรื่องอย่างว่ากันบ่อย ๆ เรียกได้ว่าทุกวัน ส่วนใหญ่หนูก็จะได้ยินเสียงครางพี่เตย มีบางครั้งที่หนูเห็นทั้งคู่มีอะไรกันแบบเต็มตา แต่หนูไม่ได้พูดออกมา เรื่องที่สามก็คือหนูเองก็เริ่มเป็นสาวแล้ว หน้าตาหนูก็สวยไม่แพ้ใคร ไหนจะรูปร่างทรวดทรงที่อวบอิ่มโตวันโตคืน ถึงหนูจะแกล้งไม่รู้ แต่หนูรู้ว่าพี่วิทย์จะแอบมองหนูเกือบตลอดเวลา สายตาของพี่เขยเหมือนกับสายตาของผู้ชายคนอื่น มันแสดงชัดเจนว่าพี่วิทย์อยากได้หนู ส่วนเรื่องลำบากใจเรื่องสุดท้ายก็คือเรื่องที่ว่าหนูเองก็ดันรู้สึกชอบพี่เขยคนนี้เข้าแล้วอย่างจัง
หนูไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจเพราะประทับใจที่พี่วิทย์ช่วยเหลือเรื่องเงิน อาจเพราะพี่วิทย์ดูแลเอาใจใส่พี่เตยเป็นอย่างดี หรืออาจจะเป็นเพราะหนูอิจฉาพี่เตย ทุกครั้งที่หนูมีส่วนรู้เห็นได้ยินทั้งคู่มีอะไรกัน หนูถึงได้รู้สึกร้อนวูบวาบจนต้องแอบจินตนาการว่าคนที่พี่วิทย์กำลังมีอะไรด้วยไม่ใช่พี่เตย แต่เป็นตัวหนูเอง ปัญหาใหญ่สุดก็คือเรื่องนี้ล่ะค่ะ หนูรู้ว่ามันผิดก็เลยพยายามหักห้ามใจไม่คิดเรื่องนี้ แต่ยิ่งห้ามก็ยิ่งปั่นป่วน หนูใจเต้นระส่ำทุกครั้งที่สบตากับพี่วิทย์ ยิ่งได้อยู่ใกล้ได้เห็นพี่เตยส่งเสียงครางมีความสุขหนูก็ยิ่งอารมณ์กระเจิดกระเจิง พี่วิทย์กลายเป็นผู้ชายในฝันที่หนูแอบหลงรัก ถึงอย่างนี้แต่หนูก็พยายามห้ามใจเอาไว้ไม่แสดงออกให้ใครเห็น จนกระทั่งวันนี้ได้พบเห็นกับเรื่องราวที่คาดไม่ถึง ความรู้สึกยับยั้งชั่งใจของหนูก็เหมือนจะเลือนหายไป หนูเห็นพี่เขยกำลังยืนช่วยตัวเองอยู่ในห้องของหนู มือข้างหนึ่งของเขาถือยกทรงของหนูแล้วจูบดม ส่วนมืออีกข้างนั้นกำกางเกงในรูดกับดุ้นควยอันเขื่องที่ทำให้พี่เตยร้องครางระงม
ภาพนี้ทำให้หนูยืนนิ่งอ้าปากค้างทำตัวไม่ถูก หน้าหนูร้อนวูบแล้วกระจายวาบไปทั่วทั้งตัว หนูยืนนิ่งมองพี่วิทย์ระบายอารมณ์ใคร่ใส่ชุดชั้นในด้วยอารมณ์ปั่นป่วนวาบหวิว หนูไม่ได้รู้สึกกลัวหรือรังเกียจท่าทีเหมือนโจรโรคจิตของพี่เขยเลยสักนิด กลับกันด้วยซ้ำ ยิ่งได้รู้ว่าพี่เขยอยากมีอะไรกับหนูขนาดนี้ อารมณ์ของหนูก็ยิ่งพุ่งปรี๊ดจนต้องหนีบสองขาเข้าหากัน ตรงนั้นของหนูเปียกแฉะขึ้นมาทันที ยืนมองได้ครู่เดียวพี่วิทย์ก็ส่งเสียงครางปล่อยน้ำควยใส่กางเกงในของหนูจนชุ่มฉ่ำ หนูกลืนน้ำลายดังอึกรู้สึกเหมือนอยากลิ้มรสน้ำของพี่วิทย์ แล้วจังหวะนั้นพี่วิทย์ที่เพิ่งชักว่าวจนเสร็จก็หันมามองหนูแล้วสะดุ้งโหยง หนูยืนมองพี่วิทย์ตัวแข็งทื่อ สายตาเหมือนจะโดนสะกดที่ดุ้นควยอันเขื่องจนมองไปทางอื่นไม่ได้ พี่วิทย์ยืนอึ้งครู่เดียวก็รีบโยนชุดชั้นในของหนูลงไปในตะกร้าแล้วใส่กางเกงเดินออกจากห้องนอน หนูสะดุ้งตื่นรีบหมุนตัวเดินออกไปด้านนอก หนูกำลังกลัว หนูไม่ได้กลัวพี่เขย แต่ว่าหนูกำลังกลัวว่าอารมณ์ของตัวเองจะสั่งให้เผลอทำเรื่องไม่ดีงาม
หลังจากหนีออกมาด้านนอกแล้วหนูก็ยืนพิงผนังแล้วหอบหนัก ๆ หลายครั้ง ร่างกายมันร้อนวูบวาบหวิว ๆ แปลก ๆ หน้าอกก็แน่น ๆ คัด ๆ ส่วนตรงนั้นก็ยิ่งแล้วใหญ่ หนูรู้สึกคันยุบยิบร้อนวาบจนต้องหนีบขาเบียดไปเบียดมา มันเปียกจนกางเกงในชุ่มเลอะกระโปรงนักเรียน หนูรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างมันจะระเบิดออกมา วันนั้นหนูได้แต่เดินวนเวียนอยู่ด้านนอกไม่กล้ากลับเข้าห้อง ภาพที่เพิ่งเห็นตามหลอกหลอนจนฟุ้งซ่านลบทิ้งไม่ออก กว่าหนูจะกล้ากลับไปก็รอจนดึก แต่พอกลับไปเจอชุดชั้นในที่เปื้อนคราบน้ำสีขาวข้นอารมณ์ของหนูก็กระเจิดกระเจิงฟุ้งซ่านอีกรอบ คืนนั้นหนูนอนแทบไม่หลับเลยทั้งคืน ยังดีที่พอตื่นเช้าเจอกับพี่วิทย์เขาก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรพิเศษ พี่เขยหนูทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หนูเลยค่อยโล่งใจและทำแบบเดียวกัน หนูไม่พูดอะไรเรื่องนี้อีก แต่ความรู้สึกของหนูเหมือนเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อไหร่ที่มีโอกาสหนูจะแอบมองพี่วิทย์เสมอ พี่เขาก็ทำแบบเดียวกัน แถมเราทั้งคู่ก็เริ่มหาโอกาสอยู่ด้วยกันมากขึ้น
ก่อนหน้านี้หนูจะพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่กับพี่เขยแบบสองต่อสอง พี่เขยเองก็พยายามเว้นช่องว่างไม่เข้าใกล้เกินไป แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว เราสองคนเริ่มขยับเข้าหากัน วันหนึ่งพวกเราสามคนนั่งดูทีวีด้วยกันบนโซฟา แล้วพี่สาวก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ถ้าเป็นก่อนหน้าหนูคงจะทำทีเป็นลุกไปทำอะไรสักอย่างจะได้ไม่อยู่กันสองต่อสอง แต่ว่าวันนี้หนูกลับนั่งนิ่งใจเต้นแรงแอบชำเลืองมองพี่วิทย์เกือบตลอดเวลา ด้านพี่วิทย์เองก็แอบชำเลืองมองมาทางหนูอีกครู่หนึ่ง แล้วก็เอนตัวนอนเอาหัวมาหนุนบนขาอ่อนของหนูหน้าตาเฉย หนูตกใจแต่ตัวนิ่งแข็งทื่อ แก้มสาก ๆ ของพี่เขยกำลังเบียดอยู่บนขาอ่อน หนูรู้สึกหวิว ๆ แปลก ๆ ไม่ได้รังเกียจเลยสักนิด กลัวก็แต่ว่าพี่สาวจะออกมาเห็นเรื่องไม่ดีงามเข้า ก็ยังดีที่พอได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำปุ๊บ พี่เขยก็รีบขยับตัวลุกขึ้นมานั่งนิ่งตัวตรงทำท่าไม่รู้ไม่ชี้ พี่สาวก็เหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไร หนูเลยค่อยหายใจหายคอโล่งขึ้นมาหน่อยนึง
คืนนั้นอารมณ์หนูปั่นป่วนอีกแล้ว แถมพี่เขยก็เหมือนจะเจตนาแกล้งหนู พอหนูกลับเข้าห้องนอนปุ๊บ เสียงครางกระเส่าของพี่สาวก็ดังทะลุประตูมาให้ได้ยินถึงในห้อง หนูใจเต้นแรงแอบลุกไปแนบตาดูลอดผ่านขอบประตู แล้วก็ได้เห็นภาพที่คาดเอาไว้ พี่เขยกำลังขึ้นคร่อมขย่มใส่พี่ใบเตยอย่างเมามันบนโซฟาที่หนูเพิ่งลุกขึ้นมา พี่สาวพยายามยกมือปิดปากไม่ให้ส่งเสียงและพยายามบอกให้พี่เขยเปลี่ยนสถานที่ คงกลัวหนูรู้เห็นนั่นแหละ แต่พี่เขยไม่สนใจ จับเอาพี่สาวหนูยืนโก้งโค้งแล้วจับมือไว้ไม่ให้ปิดปาก เขาโยกเอวกระแทกควยใส่ถี่ยิบจนพี่เตยกรีดร้องเสียงหลง หนูได้แต่แอบดูและค่อย ๆ ทรุดลงไปนั่งเพราะรู้สึกแข้งขาอ่อน ตรงนั้นของหนูเปียกแฉะขึ้นมาอีกแล้ว พี่วิทย์ไม่รู้เอาอารมณ์หื่นมาจากไหน เขาเย็ดกับพี่เตยดุเดือดมากกว่าปกติจนร้องครางออกมาดังลั่นแบบที่หนูไม่เคยได้ยินมาก่อน กว่าที่พี่วิทย์จะยอมหยุดพี่เตยก็มีความสุขไปแล้วตั้งไม่รู้กี่รอบ
หนูรู้สึกอิจฉาพี่เตยขึ้นมาจับใจ ผ่านไปอีกวันหนึ่งอารมณ์ของหนูก็ยิ่งปั่นป่วนขึ้นส่วนหนึ่ง มันหวิว ๆ ร้อน ๆ แทบทั้งวัน แล้ววันนี้พี่เขยก็ลงมือลวนลามแกล้งหนูอีกรอบ พอพี่สาวเดินไปตากผ้าที่ระเบียงปุ๊บ พี่เขยก็รีบเข้ามาประกบหนูจากด้านหลัง เขาแอ่นเป้ากางเกงกับสะโพกแล้วถูไถไปมา หนูใจหายวูบมองไปทางระเบียง แต่พอไม่เห็นว่าพี่สาวจะรับรู้หนูเลยโล่งใจ หนูยืนตัวเกร็งกลืนน้ำลายดังอึก พี่เขยเริ่มเบียดใส่หนูหนักขึ้น ดุ้นควยแข็ง ๆ แนบเข้ามาในร่องก้นแล้วแอ่นเบียดซ้ำไปซ้ำมา หนูรู้สึกได้เลยว่าควยของพี่เขยร้อนมาก แล้วมันก็กำลังขยายตัวขึ้นทีละน้อย หนูรู้สึกหวิว ๆ เสียวจี๊ดลุ้นระทึกอยากรู้ว่าถ้าโดนของพี่เขยใส่เข้ามาจะเป็นยังไง มันจะช่วยระบายอารมณ์ได้หรือเปล่า พี่เขยยืนแอ่นเบียดแบบนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ หนูได้ยินแต่เสียงหอบหายใจของพี่เขย ตอนนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเสียงหอบของใครดังกว่า รู้แต่ว่าหนูเริ่มอยู่นิ่งไม่ได้ สะโพกเริ่มแอ่นเด้งเข้าหาดุ้นแข็ง ๆ ของพี่เขยแบบไม่ต้องบังคับ มันเป็นของมันเอง
ส่วนพี่เขยก็เริ่มกระแทกใส่แรงขึ้นแรงขึ้น สักพักพี่สาวก็เดินออกมาจากระเบียง พี่เขยที่กำลังแอ่นเบียดใส่ก้นหนูอย่างเมามันก็ส่งเสียง ชิ ออกมาคำหนึ่งแล้วรีบถอยหนีออกไป หนูต้องรีบใช้มือยันกับขอบโต๊ะไว้เพราะรู้สึกหมดแรงยืน สัมผัสร้อน ๆ แข็ง ๆ ที่มันแนบกับก้นเหมือนยังติดอยู่ไม่หายไปไหน ตอนนี้หนูไม่กล้ามองหน้าพี่สาวเลยเพราะกลัวโดนจับผิดได้ แต่ยังดีที่พี่สาวแค่เดินผ่านไปไม่ได้ทักอะไร พอพี่สาวเดินเข้ามาด้านใน พี่เขยที่น่าจะมีอารมณ์เต็มที่ก็จูงมือพี่สาวเข้าไปในห้องนอน สักพักประตูห้องนอนก็สั่นกึก ๆ แรง ๆ เสียงครางของพี่ใบเตยดังแว่วลอดประตูออกมา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนนี้พี่วิทย์กำลังระบายอารมณ์หื่นที่ได้จากหนูลงไปที่พี่เตย แล้วก็เช่นเคย หนูขยับไปยืนพิงประตูห้องนอนแอบฟังเสียง แล้วก็เริ่มยกมือขึ้นมาขยำนมตัวเองเพื่อระบายความอัดอั้นออกไปบ้างสักหน่อยก็ยังดี แต่คืนนี้ก็คงนอนหลับไม่ค่อยลงเหมือนเคย
วันถัดมาพี่เตยนอนอยู่ในห้อง หนูนั่งดูทีวีอยู่คนเดียว แล้วพี่เขยก็ขยับมานั่งข้าง ๆ หนูหันไปมองแล้วรีบหลบสายตา รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง คราวนี้พี่วิทย์ไม่พูดพร่ำทำเพลงขยับมานั่งข้าง ๆ แล้ววางมือลงมาลูบขาอ่อนของหนูหน้าตาเฉย หนูยื่นมือไปปัดออกพอเป็นพิธี แต่พี่วิทย์ดื้อกดมือเอาไว้ แล้วพูดชมว่าหนูสวยอย่างนั้นสวยอย่างนี้ พอโดนชมเข้าหน่อยหนูก็ยิ้มเขินปล่อยให้พี่เขยลูบขาอ่อนไปเรื่อย ๆ ลูบไปก็หวิว ๆ ไปจนขนลุกวูบ พี่วิทย์ค่อย ๆ ลูบไปเรื่อย ๆ แบบใจเย็น ๆ บางทีก็ลูบที่หัวเข่า บางครั้งก็ลากมือขึ้นมาขาอ่อนทำท่าจะแทรกเข้าไปตรงกลางหว่างขา หนูเลยหุบขาหนีบมือของพี่วิทย์เอาไว้แบบไม่ได้ตั้งใจ พี่เขาก็ค่อย ๆ แทรกมือเข้ามาเรื่อย ๆ จนหนูเริ่มเสียวตัวเกร็ง พอมือพี่เขยล้วงมาถึงตำแหน่งสำคัญหนูก็กลืนน้ำลายดังอึกลุ้นระทึก แต่จังหวะนั้นพี่เตยก็เปิดประตูห้องนอนออกมา หนูสะดุ้งเบา ๆ รีบผลักมือพี่เขยออก พี่เขยเองก็รีบเอามือออกแล้วนั่งนิ่งทำเป็นดูทีวีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ดูเหมือนเราจะยังรอดตัวไปได้อีกครั้ง หลังจากวันนี้พี่วิทย์ก็เริ่มหาโอกาสรุกหนักใส่หนูเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนจังหวะจะยังไม่เป็นใจ หรือเป็นเพราะพี่เตยเริ่มระแคะระคายก็ไม่แน่ใจ เราสองคนก็เลยแทบจะไม่ค่อยมีเวลาได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง มีบ้างแค่จังหวะประเดี๋ยวประด๋าว พี่วิทย์เลยทำได้แค่จับตัวหนูแล้วลูบ ๆ บางครั้งก็คว้าตัวหนูไปกอดหอมแก้มแล้วก็ปล่อย ยิ่งเวลาผ่านไปความลังเลของหนูก็ยิ่งหายไป หนูไม่สนเรื่องถูกผิดอีกแล้ว หนูรู้แค่ว่าหนูอยากใกล้ชิดกับพี่วิทย์ พวกเราสองคนก็แค่ขาดจังหวะเหมาะ ๆ จนกระทั่งวันหนึ่งตอนที่หนูกำลังอาบน้ำถูตัวอยู่ เสียงเคาะประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นจนหนูแปลกใจ เพราะหลังจากเสียงเคาะก็ไม่มีเสียงเรียกว่าเคาะเพื่ออะไร หนูเลยยืนนิ่งจนมีเสียงเคาะดังขึ้นอีกรอบ หนูเลยเริ่มคิดเรื่องราวแปลก ๆ ขึ้นมา ไม่แน่ใจว่าจะเป็นพี่เขยหรือเปล่าที่กำลังเคาะประตู แล้วถ้าพี่เขยมาเคาะประตูตอนนี้ก็แปลว่าพี่สาวน่าจะไม่อยู่ หนูยืนนิ่งสับสนเพราะรู้ว่าถ้าเปิดประตูเจอกันในสภาพนี้พวกเราคงหยุดไม่ได้อีก
หนูไม่อยากทรยศพี่สาว แต่พอรู้ตัวอีกทีหนูก็คว้าผ้าขนหนูมาพันรอบตัวไว้แบบรวม ๆ แล้วเปิดประตูด้วยใจที่เต้นระทึกเสียแล้ว และหนูคาดไม่ผิดคนที่เคาะประตูก็คือพี่เขยสุดหล่อที่หนูฝันหานั่นเอง หนูมองพี่วิทย์ด้วยความรู้สึกหลากหลาย แล้วพี่วิทย์ก็เดินเข้ามาในห้องน้ำ เขากระตุกผ้าขนหนูจนหลุดลุ่ย หนูร้องว้ายตกใจทำท่าจะยกมือปิด แต่พี่เขยมือไวกว่ารีบขยับมาจับมือสองข้างของหนูกดกับผนังห้องน้ำ ตอนนี้หนูเลยยืนเปลือยต่อหน้าพี่เขย พี่เขยมองหนูตาลุกวาวท่าทางหื่นจัด เขามองหน้าอกสามสิบหกนิ้วของหนูตาเป็นมัน ก่อนจะก้มลงไปมองเนินหีที่เริ่มมีขนอุยขึ้นมาหรอมแหรมแล้วแลบลิ้นเลียรอบปากตัวเอง “อย่าค่ะพี่ ไม่เอา” หนูส่งเสียงห้ามแต่ไม่ได้ดิ้นขัดขืนอะไร คือใจมันไปแล้ว อยากจะโดนพี่เขยจัดการมาตั้งหลายวันแล้ว ถึงตอนนี้พอพี่เขยขยับเข้ามาประกบปากจูบหนูก็เลยไม่ได้ต่อต้านอะไร หนูแค่หลับตาพริ้มปล่อยให้พี่เขยทำอย่างที่เขาทำ ให้เขาทำอย่างที่หนูอยากให้ทำ
พี่เขยจูบบดปากใส่พร้อมกับเอื้อมมือลูบไปทั่วเนื้อตัว เขาขยำสะโพก แล้วขยับมาขยำบีบนมหนูด้วยอารมณ์หื่น หนูตัวกระตุกส่งเสียงครางเพราะเสียวปรี๊ดตรงส่วนที่โดนบีบ พอเผลออ้าปากแค่นั้นแหละพี่เขยก็สอดลิ้นเข้ามาแหย่รัว ๆ หนูเหมือนโดนเปิดปุ่มอะไรบางอย่าง อารมณ์มันพุ่งพรวด ๆ เหมือนเขื่อนแตก หนูยกมือขึ้นกอดรอบคอของพี่วิทย์แล้วจูบตอบด้วยอาการเหมือนเก็บกดอารมณ์ไว้นานเกินไป พี่เขยจูบหนูสักพักก็ถอนปากออกแล้วขยับต่ำลงไปไซร้ตรงซอกคอ หนูแอ่นคอให้พี่เขยไซร้แล้วบิดตัวไปมา มันเสียวสะท้านไปทั้งตัว พอพี่วิทย์อ้าปากงับตรงหัวนม หนูก็สะดุ้งแอ่นอกร้องครางออกมาดังมาก มันเสียวมากจริง ๆ เสียวยิ่งกว่าที่เคยคิดจินตนาการเอาไว้เป็นร้อยเท่า พี่เขยเองก็เหมือนจะถูกใจเขาอ้าปากดูดดังจ๊วบ ๆ ไม่หยุด หนูได้แต่แอ่นนมให้พี่เขยดูดด้วยความเสียว แถมพี่เขยยังใช้มือทั้งบีบทั้งขย้ำใส่แบบหนัก ๆ จนหนูกระตุกแรง ๆ สูดปากร้องซี้ดเพราะเสียวเหมือนจะขาดใจตายเสียให้ได้
“ไม่เอาพี่ มันสกปรก … อึ๊ยยยยยย … พี่ … ซี้ดดสสสสสสส … อูยยสสสส” พี่เขยดูดนมหนูอยู่นานพอสมควรก่อนจะขยับตัวทรุดลงไปนั่งคุกเข่าบนพื้นห้องน้ำแล้วจับขาซ้ายของหนูขึ้นไปพาดไว้บนบ่า หนูเลยส่งเสียงร้องห้ามด้วยอารมณ์หวิว ๆ แต่พอพี่เขยซุกหน้าลงลิ้นใส่ตรงนั้น หนูก็สะดุ้งโหยงหลับตาปี๋สะบัดหน้าไปมาด้วยความเสียว มันเสียวจี๊ดขึ้นมาถึงสมอง เสียวจนแทบคลั่ง หนูตัวกระตุกเร่า ๆ จิกมือลงบนหัวพี่เขยแรงมาก สะโพกของหนูก็เด้งร่อนเข้าหาปากของพี่เขยไม่หยุด “โอ้วววววว อ๊ายยยยยยยยย” อีกไม่กี่นาทีหนูก็ครางเสียงดังตัวกระตุกเฮือกแรงมาก ๆ อารมณ์อัดอั้นที่เก็บกดมานานเหมือนจะระเบิดออกมาตูมเดียวพร้อมกัน มันเสียวแล้วเสียวอีกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ ตัวหนูทั้งเกร็งทั้งชาไปทั้งตัว แต่ว่ามันสุดยอดมาก ๆ สุดยอดแบบไม่รู้ว่าจะบรรยายออกมายังไง “พี่รักเรานะใบตอง คราวหลังพี่จะทำให้เสียวกว่านี้อีก” พอพี่เขยใช้ปากทำให้หนูจนเสร็จ เขาก็ยกขาซ้ายของหนูที่พาดบนไหล่ออกแล้วขยับมาประคองจูบปากกับหนูแล้วพูดบอกรัก ก่อนจะรีบวิ่งแจ้นออกไปจากห้องน้ำปล่อยให้หนูยืนเคลิ้มตาลอยอยู่คนเดียว
หนูยืนมองประตูห้องน้ำแบบงง ๆ ไม่นึกว่าพี่เขยจะทำแค่นี้ แต่ก็พอจะนึกออกว่าพี่เขยคงกลัวพี่เตยมาเห็นเข้าแล้วจะเป็นเรื่องใหญ่ หนูยืนถอนหายใจแล้วค่อย ๆ ทรุดตัวไหลลงไปนั่งหอบกระเส่าบนพื้นห้องน้ำ พอได้ระบายออกไปแล้วก็รู้สึกผิดนิด ๆ ที่มาทำเรื่องแบบนี้ลับหลังพี่สาวตัวเอง แต่ความรู้สึกเสียดายเหมือนจะมากกว่า หนูนั่งนิ่งด้วยความสงสัย แค่โดนลิ้นยังเสียวขนาดนี้ ถ้าโดนพี่วิทย์เย็ดจริง ๆ จะเสียวซาบซ่านขนาดไหน หนูอาบน้ำล้างคราบเหงื่อกับคราบน้ำลายอีกรอบ แล้วค่อย ๆ ทำหน้านิ่งเดินออกจากห้องน้ำเพราะกลัวว่าพี่ใบเตยจะอยู่ด้านนอก แต่ออกไปแล้วก็เห็นแต่พี่วิทย์นั่งดูทีวีอยู่แค่คนเดียว เราสองคนมองสบตากันอย่างมีความหมาย พี่วิทย์บอกว่าพี่ใบเตยไปซื้อของข้างล่างเดี๋ยวก็คงขึ้นมา หนูเลยพยักหน้าแล้วเดินเขิน ๆ กลับเข้าไปในห้องนอน คืนนี้หนูนอนหลับฝันหวานตื่นอีกทีก็เช้าโน่นเลย ทำกันถึงขนาดนี้แล้วหนูก็ไม่คิดจะยั้งตัวเองอีก แต่พี่ใบเตยไม่รู้ว่าระแคะระคายอะไรหรือเปล่า พวกเราเลยไม่ค่อยมีโอกาสทำอะไรกันสักเท่าไหร่
แต่พอมีโอกาสหนูก็จะเริ่มเป็นฝ่ายเข้าหาพี่เขยเอง ถ้าพูดตรง ๆ ก็คือหนูติดใจความรู้สึกตอนที่โดนพี่เขยลวนลามเข้าแล้วอย่างจัง ครั้งหนึ่งพี่ใบเตยกำลังรีดผ้าอยู่ ส่วนพี่วิทย์นั่งดูทีวีบนโซฟา หนูลังเลนิดหน่อยแต่ก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหาพี่วิทย์ในชุดนักเรียน พอนั่งลงหนูก็ดึงชายกระโปรงนักเรียนขึ้นมาจนเห็นกางเกงใน เรียกว่าเจตนายั่วกันเต็มที่ให้รู้กันไปข้าง แถมหนูยังวางมือลงไปลูบบนเป้ากางเกงของพี่เขยด้วยอีกต่างหาก แตะหน่อยเดียวของพี่เขยก็พองตัวแข็งขึ้นมาเป็นลำ เขาสูดปากเบา ๆ แล้วยื่นมือมาวางแหมะบนเนินสาวแล้วลูบ ๆ เขี่ย ๆ บด ๆ ใส่จนหนูตัวกระตุกส่งเสียงคราง อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ ออกมา พวกเราหยุดชะงักเล็กน้อยตอนที่พี่ใบเตยส่งเสียงคุยด้วย แต่พอหันไปเห็นว่าพี่ใบเตยยังรีดผ้าแบบหันหลังให้อยู่เหมือนเดิม พวกเราสองคนก็ยิ่งเล้าโลมให้กันและกันต่อด้วยความตื่นเต้นกว่าเดิม พี่เขยล้วงมือมุดเข้ามาในกางเกงในแล้วแหย่นิ้วเกี่ยวใส่จนหนูตัวกระตุกครางออกมาดังกว่าเดิม
ส่วนหนูเองก็ล้วงมือเข้าไปคว้าดุ้นควยอันเขื่องของพี่เขยมาบีบกำไว้เพื่อระบายความเสียว หนูได้ยินพี่เขยสูดปากเสียงดังพอควร แต่ยังดีที่เสียงทีวีดังกว่าพี่ใบเตยก็เลยยังไม่ได้ยิน เราสองคนแอบเล่นเสียวกันเงียบ ๆ พี่วิทย์ทั้งล้วงทั้งบี้ท่าทางคล่องมาก แต่หนูยังเงอะงะทำอะไรไม่ถูกได้แต่บีบนวดใส่ดุ้นควยของเขา พี่วิทย์เหมือนจะทนไม่ไหวต้องกระซิบสอนให้หนูรูดมือไปมา หนูก็ลองทำตามแบบมึน ๆ งง ๆ เพราะกำลังเสียว พอผ่านไปสักพักหนูก็เริ่มตัวเกร็งทนไม่ไหว พี่เขยหนูเร่งมือเร็วจี๋จนหนูตัวกระตุกเฮือก แต่ต้องยกมือขึ้นปิดปากเพราะกลัวเสียงครางหลุดออกไป แล้วหนูก็นั่งหอบเพราะเสร็จคานิ้วของพี่เขยไปหนึ่งรอบ พี่เขยบอกว่าให้ช่วยทำให้เขาบ้าง หนูเลยช่วยรูดมือเร็วถี่กว่าเดิม พี่เขยก็ทำหน้าพอใจ แต่น่าเสียดายที่ครู่เดียวพี่ใบเตยก็รีดผ้าเสร็จเสียก่อน หนูเลยต้องรีบถอนมือออกมาดึงชายกระโปรงตัวเอง แต่พอหันไปมองพี่เขยก็ต้องใจหายวาบเพราะดูแล้วไม่น่าจะจับดุ้นควยยาวใหญ่กลับเข้าไปในกางเกงได้ ยังดีที่เขาหัวไวรีบหยิบเอาหมอนมาวางทับปิดเอาไว้ทั้งที่ยังไม่ได้ใส่กางเกงดี ๆ พี่ใบเตยที่เดินผ่านไปเลยไม่เห็นสิ่งผิดปกติ
พี่เขยควยใหญ่ใส่น้องเมียเปิดซิง ตอนที่ 2
